พูดคุยกับ เอ็มม่า ถึงเรื่องราวใน แฮรี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี
สาวน้อยวัย 15 ปี "เอ็มม่า วัตสัน" กลับมารับบทบาทหนอนหนังสือที่มีจิตใจอ่อนโยนอย่าง "เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์" อีกครั้งใน "Harry Potter and the Goblet of Fire" ซึ่งภาคนี้เธอเติบโตเป็นสาวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความน่ารักเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มา ซึ่ง เอ็มม่า ได้พูดคุยถึงเรื่องราวในภาคนี้ให้ฟังว่า
รู้สึกเหมือนการได้กลับมาโรงเรียน มากกว่ากลับมาทำงานหรือเปล่า
"ใช่ แบบนั้นเลย คุณจะรู้สึกว่าโรงเรียนเริ่มเปิดเทอมอีกแล้ว อันที่จริงแล้วเป็นเรื่องดีเอามากๆ คุณจะเริ่มรู้สึกคิดถึงพวกเขา และเป็นเรื่องที่ดีที่ได้กลับมาพบกับพวกเขาอีกครั้งหนึ่ง"
มีอะไรบ้างสำหรับ เฮอร์ไมโอนี่ ในภาพยนตร์เรื่องนี้
"เอ่อ สำหรับเฮอร์ไมโอนี่ในปีนี้ ฉันคิดว่าเธอเป็นมากกว่าทุกอย่างในส่วนที่เป็นส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ เธอเป็นมากกว่าแม่สำหรับแฮร์รี่ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ของเธอกังวลเกี่ยวกับเขา ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอคือเฮอร์ไมโอนี่จอมกังวล เธอมีแฟนหนุ่มน้อยแล้วเรื่องนี้ ซึ่งสำหรับรอนและแฮร์รี่มันเป็นเรื่องค่อนข้างช็อก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรอน ผู้ซึ่งเพิ่งเกิดความเข้าใจว่าเธอนั้นเป็นหญิงสาว เป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้ว่าเธอมีความสนใจให้กับใครสักคน นั่นคือ วิคเตอร์ ครัม"
เขาพยายามที่จะกระแนะกระแหนเธออยู่บ้างใช่ไหม
"แน่นอน สิ่งที่ออกมาจากเขานั้นกลายเป็นการปะทะคารมกันเล็กน้อย"
แฮร์รี่ และ รอน ก็มีปัญหาบ้างเล็กน้อยเช่นกันสำหรับในปีนี้
"ค่ะ อีกครั้งที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในภาพยนตร์เรื่องนี้กังวลกับสองหนุ่ม และเป็นหญิงสาวที่อยู่ระหว่างสองคน โอ ได้โปรดอย่าทะเลาะกันเลย ลองกันใหม่นะ พวกเราต้องแน่ใจกับมันนะ ฉันคิดว่าเป็นสิ่งดีเพราะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง มันดีขึ้นเล็กน้อยตอนที่พวกเขากลับมาดีกันอีกครั้งหนึ่ง"
รู้สึกสนุกสนานไหมที่มีนักเรียนใหม่ๆ มาร่วมแสดง
"ค่ะ เป็นแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว มีการแนะนำตัวละครใหม่ๆ อย่าง วิคเตอร์ ครัม มี โช แชง, เซดริก ดิกกอรี่ และเฟลอร์ เดอลากูร์ จะมีนักแสดงใหม่ๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับการถามหาและอยู่ในอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพวกเราอีกด้วย เพราะงั้นมันเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว"
มีคุณครูทางศาสตร์มืดคนใหม่อีกด้วย
"พวกเรามี แม้ด-อาย มู้ดดี้ ว้าว ฉันคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่ ไมค์ (นิวเวลล์) ได้นำเข้ามา คือความรู้สึกของการเป็นโรงเรียนประจำแบบอังกฤษอย่างแท้จริง และในฉากที่แสดงร่วมกับ เบรนด้า กลีสัน นั้นสนุกสนานและมีเล่ห์กลเอาจริงๆ ไมค์เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพวกเราก็พยายามที่จะนำเสนอหลายสิ่งหลายอย่าง สนุกดีค่ะ"
เฮอร์ไมโอนี่ และ มู้ดดี้ มีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยใช่ไหม
"ค่ะ ฉันคิดว่าเขาทำให้เธอกดดันถึงขีดสุด และหลังจากที่จบชั่วโมงเรียนแล้ว เธอก็ระเบิดมันออกมา แม้ด-อาย มู้ดดี้ เป็นหนึ่งในผู้คนที่จะบอกออกมาว่าเขามองเห็นว่าอะไร จะออกมาเป็นอย่างไร และเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา เหมือนขวานผ่าซากเกี่ยวกับทุกเรื่อง เฮอร์ไมโอนี่เห็นว่า เนวิลล์ ต้องกล้ำกลืนมันไปอย่างไร และแน่นอนว่าไม่ดีเท่าไรนัก เธอก็แค่มีความคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้ความปราณีและพยายามที่จะหยุดเขา"
เป็นสัญชาติญาณของความเป็นแม่หรือเปล่า
"ค่ะ แน่นอน เป็นเพราะสัญชาตญาณของความเป็นแม่ของเธอที่ทำให้มันเกิดขึ้น"
จำได้ไหมว่าคำสาปโทษผิดสถานเดียวสามข้อคืออะไรบ้าง
"จำได้ค่ะ เราจะมีคำสาปกรีดแทง คำสาปสะกดใจ คำสาปพิฆาตอีกด้วย ซึ่งเป็นคำสาปที่ร้ายแรงที่สุดที่จะฆ่าใครก็ได้ในทันที และแน่นอนมีผลกับแฮร์รี่"
มู้ดดี้ ดูน่ากลัวหรือเปล่า
"เขามีตาที่กลอกไปมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตอนแรกที่ฉันได้เห็นเขา ฉันมองดูเขาและฉันก็เป็นแบบ อ้า น่าขนลุกนะ น่าขนลุกเอาจริงๆ แต่ก็ดูเหมือนจริงนะ ฉันหมายถึงสำหรับอะไรที่ใช้รีโมทคอนโทรลนะ น่าทึ่งมาก พวกเขามีลูกนัยน์ตาที่อยู่ในนั้น และไมค์ก็สามารถที่จะสั่งได้ว่าในส่วนนี้ของฉาก เราต้องการให้ลูกตามองแบบนี้ หรือในส่วนนี้ของฉากเราต้องการให้ลูกตาทำแบบนี้ และมันก็ออกมาเหมือนกับการกำกับการแสดงตัวละครสองตัว คือ ตาของมู้ดดี้ และตัวมู้ดดี้ มันออกมาดูดี ความเป็นมู้ดดี้โดยรวมนั้น ระเบิดออกมาพร้อมกับตัวละคร ซึ่งเขาเก่งมาก"
หนึ่งในส่วนที่เด่นของเรื่องนี้ คงเป็นการเรียนเต้นรำ
"ใช่เลยค่ะ ใช่เลย เป็นเรื่องที่ตลกเอามากๆ ตลกจริงๆ ไม่มีใครทำได้เลย ฉันหมายถึงว่ามันเป็นการผสมผสานที่มหัศจรรย์อะไรแบบนั้น แม็กกี้ สมิธ และ รูเพิร์ท เต้นรำกัน มันยอดมาก ยอดมากจริงๆ พวกเขาทำมันออกมาได้ดีมาก ฉันคิดว่ามันเป็นฉากที่สนุกสนาน ไมค์พยายามที่จะเก็บภาพความเปิ่น ความเก้อเขินทั้งหลายนี้ไว้ ซึ่งเป็นความเปิ่นตอนที่คุณเป็นวัยรุ่น ที่คุณต้องก้าวเข้ามาสู่ช่วงอายุนั้นที่เด็กชายและเด็กหญิงจะเริ่มมีความสนใจในกันและกัน และทั้งสองฝั่งไม่มีความรู้เลยว่าจะทำอย่างไร
พวกเด็กหญิงจะลุกขึ้นและเตรียมพร้อมอย่างจริงจังที่จะออกไปและเต้นรำ โดยที่บรรดาหนุ่มน้อยจะเป็นแบบ โอ้ เหรอ ฉันไม่ลุกขึ้นไปเต้นรำหรอก เป็นเรื่องสนุกที่ได้ทำมัน ฉันสนุกกับการได้เรียนการเต้นวอลซ์อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยได้ทำมันมาก่อนเลย"
เป็นเรื่องง่ายที่จะเรียนรู้หรือเปล่า
"อันที่จริงแล้วมันก็ใช่ โดยตั้งแต่ต้นแล้ว พวกเราได้เรียนส่วนที่ยากก่อน จากนั้นพวกเขาก็จะทำให้ง่ายเข้า ซึ่งมันเป็นความโล่งใจสำหรับตัวฉัน เพราะงั้นมันจึงดีมาก สิ่งที่ไมค์ต้องการคือการที่เราไม่ต้องรู้มันมากนัก เขาต้องการให้มันออกมาอย่างที่เป็นความรู้สึกจริงๆ เขาไม่ต้องอยากให้พวกเราลุกขึ้นมาเต้นรำกันอย่างยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ สิ่งที่เขาต้องการคือให้กล้องตามเก็บภาพพวกเราไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีใครในพวกเราเลยที่จะรู้ว่าตอนนั้นเราทำอะไรกันอยู่ อันที่จริงแล้วพวกเราจึงไม่ต้องแสดงอะไรมากนักในฉากนี้"
ตอนที่ยากที่สุดคือการจ้องมองตากับคู่เต้นรำหรือเปล่า
"โอ้ เท้าของคุณ ทั้งหมดแล้ว ฉันต้องมองดูเท้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา พวกเรายังได้พยายามแบบหนึ่งที่เราเต้นสลับแขนกันอีกด้วย ซึ่งทำให้ฉันสับสนมากขึ้นไปอีก เพราะฉันต้องพยายามทั้งทำไปตามจังหวะทั้งเท้าและทั้งแขน มันไม่ดีเลย ไม่ดีเอาจริงๆ"
สาวๆ ชอบเต้นรำ และโดยส่วนใหญ่แล้วหนุ่มจะไม่ค่อยชอบ
"ใช่ค่ะ ใช่เลย ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน มันตลกมาก พวกสาวๆ จะกระตือรือร้นมากและหนุ่มๆ จะไม่ยอมมา ไม่ชอบที่จะเต้นรำเอาเสียเลย เป็นเรื่องที่สนุกมาก และอย่างที่คุณจะพูดได้ว่ามันเป็นความรู้ที่มีอยู่ในโลก เหมือนกับการที่จะให้ผู้ชายช้อปปิ้ง มันไม่เข้ากัน"
ภาพยนตร์ตอนนี้ต่างกับตอนอื่นอย่างไรบ้าง
"หนึ่งในหลายอย่างที่ทั้ง ไมค์ และ สตีฟ โคลว์ส ทำขึ้นกับบทภาพยนตร์ คือทำให้มันมีความตลก ถึงแม้ว่ามันจะมีบางส่วนที่รุนแรงในนั้น มันจะมีเรื่องตลกที่ยอดเยี่ยม และฉันเองมีความเชื่อว่าไมค์จะนำเสนอมันออกมาได้ดีที่สุด เขามีความหลักแหลมและรวดเร็วเป็นอย่างมาก ฉันคิดว่าสิ่งนี้จะแสดงออกมาในภาพยนตร์หลายอย่าง
มีฉากหนึ่งที่ตลกมาก ตอนที่รอนขอ เฟลอร์ เดอลากูร์ เต้นรำ ซึ่งทำให้ฉันต้องหัวเราะออกมาทุกครั้งที่ฉันคิดถึงมัน ไมค์ต้องการให้เขาพูดโพล่งเสียงดังใส่หน้าเธอ เป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าคนหลายคนจะสามารถสื่อถึงมันได้กับความรู้สึกในการที่จะขอให้ใครสักคนไปเที่ยวด้วย ฉันคิดว่าทุกๆ คนจะต้องผ่านตรงนั้นมาก่อนอย่างไม่ต้องสงสัย"
นั่นเป็นความสนุกสนานของหนังสือที่ผู้คนสัมผัสได้ใช่ไหม
"นั่นเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เกี่ยวกับหนังสือของ เจ. เค. โรว์ลิ่งส์ มันจะมีความยอดเยี่ยมและโลกแห่งเวทมนตร์ ซึ่งหลายคนจะรู้สึกเหมือนห่างจากมันหลายล้านไมล์ แต่เธอทำหนังสือที่คุณจะเชื่อมโยงถึงมันได้ ถึงแม้มันอาจจะไม่เกี่ยวโดยตรงกับตัวละครหลักๆ แต่มันเป็นอะไรสำหรับทุกคนต้องผ่านประสบการณ์นั้นมาก่อนแล้ว"
เคยได้ยินคำนินทาหรือข่าวลือเกี่ยวกับตัวคุณบ้างไหม
"ตอนที่ฉันเริ่มเข้าวงการ ฉันเคยอ่านทุกๆ เรื่อง และฉันเคยมีความรู้สึกว่า เอ๋อ ฉันไม่พูดแบบนั้นสักหน่อย มันแย่มาก แต่ตอนนี้มันเด้งไปไกลจากฉันแล้ว คุณก็แค่หัวเราะและฉันก็พยายามที่จะไม่อ่านมันมากนัก ฉันหมายถึงมันเคยมีข่าวลือระหว่างฉันกับแดน เราสองคนหัวเราะเกี่ยวกับมันมาตลอด เป็นเรื่องตลกมากๆ"
เล่าอะไรเกี่ยวกับการแข่งขันประลองเวทไตรภาคีบ้างได้ไหม
"การแข่งขันประลองเวทไตรภาคีนั้นเป็นประเพณีที่ไม่ได้เกิดขึ้นที่ฮอกวอตส์มากว่าร้อยปีแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง แต่รัฐมนตรีคนใหม่ตัดสินใจที่จะทำให้มีการเริ่มประลองอีกครั้ง เพราะฉะนั้นในหนึ่งปีจะมีโรงเรียนสามแห่งมารวมกัน โรงเรียนฮอกวอตส์ โรงเรียนโบซ์บาตง โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ และนักเรียนเพียงหนึ่งคนจากหนึ่งโรงเรียนจะถูกสั่งให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนของพวกเขา โดยผู้ชนะเลิศจะได้ครอบครองถ้วยรางวัลไตรภาคี ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าคือความภาคภูมิใจของแต่ละโรงเรียนฉันคิดว่าเขาจะได้รางวัลเป็นเงินบางส่วนด้วย
มันยอดเยี่ยมมากตรงที่มีโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์และโรงเรียนโบซ์บาตง เข้ามาเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ทำให้เกิดสีสันและมันเยี่ยมที่จะสื่อให้คนดูได้มีความเข้าใจว่าฮอกวอต์สนั้นไม่ได้เป็นโรงเรียนเดียวที่สอนเวทย์มนต์ พวกเขามาจากประเทศอื่นๆ ดีมากทีเดียว"
คิดว่าการแสดงใต้น้ำเป็นอย่างไรบ้าง
"อันที่จริงแล้วฉันชอบมันนะ ฉันชอบการดำน้ำ ฉันเคยไปที่หมู่เกาะมอร์ริเชียสสองสามครั้งและลองดำน้ำที่นั่น ฉันได้ประกาศนียบัตร PADI ซึ่งฉันภูมิใจกับมันมาก และฉันก็สอบเพื่อจะได้มันมา ซึ่งเป็นเรื่องสนุกสนานมาก ฉันคิดว่ามันเยี่ยมเลยที่พวกเราได้มีโอกาสที่ได้แสดงมันด้วยตัวของเราเอง ซึ่งดีกว่าที่เราจะแสดงมันด้วยสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์"
ฉากใต้น้ำนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไร
"มันเป็นทะเลสาปดำ แฮร์รี่หวาดหวั่นมาก เพราะเขามีเวลาเพียงแค่สองวันก่อนหน้าที่จะต้องทำตามคำสั่ง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอะไร เพราะเขาจะต้องรอที่จะทุบไข่พิเศษให้แตกเสียก่อน เขาโกหกเฮอร์ไมโอนี่มาตลอดเกี่ยวกับความเป็นจริงที่เขาทำ เพราะงั้นเขาจึงรู้สึกโดดเดี่ยว เขาพูดกับใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้เลย
ในที่สุดแล้วเธอก็เฉลยปัญหาให้กับเขาว่าเขาไม่ได้ทำมัน และเธอก็บอกว่า โอ้ เธอยังมีอีกตั้งสองวัน และเขาก็จะพูดกับเธอว่า เออ ขอบใจ เออฉันรู้แล้ว เนวิลล์กลายมาเป็นผู้ช่วยชีวิต โดยช่วยสนับสนุนเขาและในที่สุดเขาก็ทำมันออกมาได้ดี"
อะไรที่ ไมค์ นิวเวลล์ นำมาให้กับภาพยนตร์
"ฉันมีความเชื่อมั่นในตัวไมค์มาก ฉันคิดว่าเขาปราดเปรื่องเอาจริงๆ เขามีความคิดสร้างสรรค์และมีความตั้งใจเป็นอย่างสูงที่จะทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุด เขาจะไม่ยอมรับกับอะไรที่ด้อยกว่านั้น ฉันได้รับความประทับใจจากเขามาตลอด เขาก้าวข้ามทุกขอบเขต ตารางการถ่ายทำทั้งหมดอาจเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดออกมา เขาจะกระตือรือร้นเกี่ยวกับทุกๆ อย่าง เขาจะคิดว่ารายละเอียดแม้ว่าจะเล็กน้อยนั้นมีความสำคัญ เขาอยู่ที่นั่นสำหรับทุกคน และเปิดกว้างให้กับใครก็ได้ที่จะเข้ามาพูดคุยกับเขา
ครึ่งหนึ่งของบทเพลงที่ร้องโดยโรงเรียนโบซ์บาตงและโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ตลอดทั้งเรื่อง เขาคิดมันขึ้นมาในช่วงเวลาว่างของเขา เขาจะมาพร้อมกับบทเพลง ดิค ดิค ดิค ดิค ดิคกอรี่ ซึ่งมันออกมายอดมาก ในทุกๆ วินาทีจะมีอะไรอยู่ในนั้นเสมอ ฉันรู้ว่าฟังดูแล้วเหมือนคลั่งไคล้ แต่เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับการแสดงคนแรกที่ฉันเคยเห็น ซึ่งฉันคิดว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม เขาจะมองเห็นภาพทุกอย่างอย่างที่ควรจะมองเห็น"
พบกับบทบาทที่เติบโตขึ้นของ เอ็มม่า วัตสัน ได้ใน "Harry Potter and the Goblet of Fire" 17 พฤศจิกายน นี้ ที่โรงภาพยนตร์