บทสัมภาษณ์นักแสดงนำจากภาพยนตร์ มหา'ลัยเหมืองแร่
มหา'ลัยของคุณคืออะไร บางคนบอกว่ามันคือสถานที่ๆ เราสามารถหาความรู้ในสาขาต่างๆ ได้ บางคนอาจจะบอกว่า มหา'ลัย ก็แค่สถานศึกษาที่ที่จะทำให้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น และบางคนอาจจะบอกว่าเป็นใบเบิกทางแห่งอนาคต เป็นความภาคภูมิใจของ พ่อ แม่ และญาติพี่น้อง แต่จะมีใครสักกี่คนรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ทุกที่คือมหา'ลัยของชีวิต อยู่ที่ว่าจะเลือกเอาวิชาอะไรมาปรับใช้กับชีวิต
วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา นักแสดงนำทั้งห้าคนจากเรื่อง "มหา'ลัยเหมืองแร่" ได้แก่ "บี - พิชญะ วัชจิตพันธ์" "ต้าร์ - ดลยา หมัดชา" "แอนโทนี ฮาวเวิร์ด โกล" "จอห์น - นิรันต์ ซัตตาร์" และ "สน - สนธยา ชิตมณี" ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้
รับบทบาทเป็นอะไรในภาพยนตร์เรื่องนี้
บี "เป็นอาจินต์ ปัญจพรรค์ ครับ คือเป็นเด็กหนุ่มวิศวะ แล้วถูกรีไทร์ ก็รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่ทางเรียนรู้ครับ"
ต้าร์ "รับบทเป็นสาวละเอียดค่ะ เป็นสาวตาคม เป็นคนที่ทำอะไรช้าๆ พูดช้าๆ เดินช้าๆ ดูเหมือนเป็นกุลสตรี แบบประมาณว่า ชอบพระเอก แต่บอกไม่ได้เพราะว่าเราเป็นผู้หญิง"
สน "รับบทเป็น ไอ้ไข่ครับ เป็นลูกมือของอาจินต์ เป็นเด็กหนุ่มลูกชาวบ้าน ไม่มีสำนึกในการงานหน้าที่ แต่ว่าจงรักภักดี ปากของไอ้ไข่เนี่ยก็จะเป็นบ่อเกิดของรอยยิ้มครับ เป็นคนที่ไม่รู้จักความทุกข์ครับ"
แอนโทนี่ "รับบทเป็นนายฝรั่ง เป็นคนออสเตรเลีย และเคยเป็นทหารในช่วงสงครามโลก เป็นคนคิดเยอะ เป็นคนใจดี ดื่มเหล้าเก่ง หัวเราะเก่ง ชอบเล่นการพนัน"
จอห์น "รับบทเป็นพี่จอน เป็นคนไม่มีอนาคต ไม่มีอดีต มีแต่ปัจจุบัน เป็นคนขี้เล่น แต่พอถึงเวลาทำงานเขาก็เอาจริงเอาจังกับงาน ถึงไหนถึงกันกับลูกน้อง ชอบรำวง"
ยากไหมกับบทบาทที่ได้รับ
บี "ไม่อยากครับ แต่ว่าต้องอดทนอย่างมากเลยครับ เพราะว่างานหนักมาก แล้วก็เป็นเรื่องแรกของผมเลยยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่"
ต้าร์ "ก็รู้สึกกังวลค่ะ ที่จะต้องพูดภาษาของชาวใต้ เพราะจริงๆ แล้วพูดไม่ได้เลย พูดได้แต่ภาษายาวี และก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ เลยกลัวว่าจะทำให้คนอื่นล่าช้าค่ะ"
สน "ของผมก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ เรื่องภาษาชาวใต้ที่ต้องพูด ก็สบายครับ ที่ยากน่าจะเป็นเรื่องของการสื่ออารมณ์ครับ"
แอนโทนี่ "นิดหน่อยครับ ไม่ค่อยตรงกับคาแร็กเตอร์ของผม จริงๆ แล้วผมจะเป็นคนที่ซีเรียส และนี่เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของผม แต่ว่าพอผมเข้าใจคาแร็กเตอร์แล้วก็ไม่ยาก ก็ไม่ต้องคิดอะไรอื่น นอกจากคิดเรื่องจากแสดง"
จอห์น "ก่อนหน้านี้ก็คิดว่ายากมากครับ คิดว่าขายของง่ายกว่า (หัวเราะ) เพราะว่าผมไม่เคยแสดงหนัง ท้อใจ มันยากมาก แต่พอผมเรียนการแสดงสักประมาณ 2 เดือน ผมก็เริ่มเข้าใจการแสดง แล้วก็ทุกอย่างหากว่าเรามีความพยายาม ความสำเร็จก็จะตามมาครับ"
เตรียมตัวยังไงบ้าง
บี "ก็เตรียมตัว เรียนเรื่องการแสดง ก่อนเปิดกล้องประมาณ 1 เดือนครับ"
ต้าร์ "ก็อย่างเรื่องภาษาใต้ที่ต้าร์พูดไม่ได้เลย ต้าร์ก็จะต้องฝึกโดยการฟัง แล้วจำว่าสำเนียงประมาณไหน ก็ใช้เวลาในการฝึกไม่ถึงเดือนค่ะ"
สน "เรื่องภาษาของผมเนี่ยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ผมต้องไปเรียนการแสดง 1 เดือน แล้วก็ฟิตเนสฟิตร่างกายครับ เพื่อที่จะมารับบทนี้โดยเฉพาะ"
แอนโทนี่ "สำหรับผมก็ต้องไปเรียนการแสดงครับ เรียน 2 เดือนเพื่อที่จะรับบทนี้ และนี่เป็นครั้งแรกของผม"
จอห์น "ก็เรียนการแสดงเหมือนกันครับ ที่เดียวกับแอนโทนี่ แต่เรียนเวลาไม่ตรงกันครับ อย่างเช่น ผมเรียนเช้า เค้าเรียนบ่าย เรียน 2 เดือนเหมือนกันครับ"
ก่อนหน้านี้ทำอะไร
บี "เรียนครับ ที่อเมริกา แล้วตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ ผมเรียนด้านชีววิทยา แล้วก็เรียนการแสดงละครเวทีด้วย ผมก็เพิ่งบินกลับมา รู้สึกเหนื่อยๆ"
ต้าร์ "ก็เคยเดินแบบงานกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่นค่ะ ปี 2004 แล้วตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ปี 3 คณะสังคมสงเคราะห์ ที่ธรรมศาสตร์ค่ะ"
สน "ก็มีอัลบั้ม สน คนคว้าดาว ครับ ในสมัยตอนแข่งเดอะสตาร์"
แอนโทนี่ "ผมทำสวนยาง สวนผลไม้ ประมาณ 160 ไร่ไว้ที่หนองคาย แล้วก็ปลูกผลไม้แต่ที่ผมอยากกินครับ"
จอห์น "ผมมีร้านที่จตุจักร เป็นร้านรับซื้อขายของมือสอง ประมาณ 6 ล็อก"
ถ่ายทำที่จังหวัดพังงาเป็นยังไงบ้าง
บี "เหนื่อยครับ ก็อยากทำงานให้เสร็จๆ ลำบากนิดหน่อย อยู่กลางป่า ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ เหมือนขาดการติดต่อไปเลย คือหากว่าเราอยู่กรุงเทพฯ อย่างน้อยตอนดึกๆ ก็มีอะไรให้ทำครับ"
ต้าร์ "ก็ดีค่ะ ไม่มีอะไรมาก เพราะว่าต้าร์คุ้นเคยกับสภาพอากาศอยู่แล้ว บรรยากาศก็ดีค่ะ"
สน "ดีครับ อยู่แบบพี่ๆ น้องๆ พอเสร็จงานแล้วก็จะมานั่งคุยกัน ทำให้ผมไม่เหงา แล้วชาวบ้านที่นั่นก็กันเอง บางทีก็นั่งรถไปเที่ยวด้วยกัน ครั้งหนึ่งผมนั่งรถไปเที่ยวน้ำตก เป็นอะไรที่ประทับใจมากครับ"
แอนโทนี่ "รู้สึกสนุก และตื่นเต้น"
จอห์น "ก็ไม่มีอะไรมากครับ สนุกสนานเฮฮาหลังจากเลิกงาน ที่นี่ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากธรรมชาติ"
ท้อไหมกับการทำงาน
บี "ไม่ท้อครับ อยากทำงานให้เสร็จๆ เร็วๆ เห็นทุกคนทำงานกัน ผมก็มีกำลังใจทำงานด้วย"
ต้าร์ "ไม่ค่ะ รู้สึกสนุก ชอบ แล้วหากว่าได้เล่นอีก ก็อยากได้บทที่ใกล้เคียงตัวเอง เช่น วัยรุ่นทั่วๆ ไป จะได้เข้าถึงอารมณ์ได้ง่ายคะ"
สน "ไม่ท้อเลยครับ แล้ววันปิดกอง ความรู้สึกผมคือไม่อยากให้ปิดกองเลย ผมแอบไปนั่งน้ำตาซึม ผมอยู่ใต้ เหมือนเป็นครอบครัว เหมือนกลับบ้านอีกครั้ง"
แอนโทนี่ "สนุกครับ ไม่ท้อ"
จอห์น "ก่อนหน้านั้นก่อนมาแสดง ผมท้อมาก คิดว่าทำไม่ได้แน่นอน แต่พอเข้าใจบท มีความพยายาม ความสำเร็จก็ตามมาครับ"
ฝากถึงคนดูเกี่ยวกับ มหา'ลัย เหมืองแร่
บี "ก็อยากให้คนไปดูกันเยอะๆ นะครับ ผมทำเต็มที่เลย แล้วก็ภูมิใจในผลงานนี้ด้วย"
ต้าร์ "ต้าร์ภูมิใจที่ได้แสดงเรื่องนี้ อยากให้คนรุ่นหลังๆ อยากพวกเราไปดูกัน เพราะว่าจะได้เรียนรู้ถึงสิ่งต่างๆ ในอดีตที่เราไม่เคยเห็น คืออย่างน้อยก็อยากให้รับรู้ว่า ถึงเราจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย แต่เราก็สามารถหาประสบการณ์ชีวิตจากสิ่งที่เราเลือกไปแล้วมากกว่ามหาวิทยาลัยทั่วไปก็ได้"
สน "ผมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คนที่กำลังจะหมดหวังมีกำลังใจมากขึ้น ทำให้เราเรียนรู้ว่าไม่ควรคาดหวังอะไรมาก ยังไงลองไปดูกันครับ พวกเราแสดงกันเต็มที่"
แอนโทนี่ "อยากให้คนดูสนุกหรือเศร้าไปกับเราครับ มีอารมณ์ตื่นเต้นตามไปด้วย"
จอห์น "อยากให้ไปดูกันนะครับ อยากให้คนดูได้เห็นถึงความแตกต่างของภาพยนตร์เรื่องนี้กับเรื่องอื่นๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เรียนรู้ถึงความอดทน ความซื่อสัตย์ แล้วผมก็ดีใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้"