บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ คิมจีวุน จาก A Tale of Two Sisters
ผู้กำกับ คิมจีวุน ทำภาพยนตร์ The Quiet Family, The Foul King, Coming Out และ Three ตอน Memories ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา คือ A Tale of Two Sisters ซึ่งออกฉายแล้วในเกาหลี และกำลังจะเข้าฉายในไทยวันที่ 29 สิงหาคมนี้ โดย A Tale of Two Sisters เป็นภาพยนตร์สยองขวัญและโศกเศร้าเกี่ยวกับบาดแผลจากอดีต ซึ่งผู้กำกับ คิมจีวุน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
ทำไมถึงเลือกนิยายโบราณ จังฮวา และ โฮงเรียน มาทำเป็นหนัง
"ผมต้องพูดถึง Memories ก่อน ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนั้นประสบความสำเร็จในแง่ของการสร้างความสยดสยอง แต่มันยังไม่สมบูรณ์ เพราะเรื่องโดยรวมขาดความต่อเนื่อง มันยากที่จะทำสิ่งนั้นได้ในหนังสั้น ดังนั้นอยากนำความรู้สึกแบบเดียวกันมาใส่ในหนังเรื่องยาว พอดีโปรดิวเซอร์ โอกิมิน บอกว่าอยากนำเรื่อง จังฮวา และ โฮงเรียน มาทำเป็นหนัง แล้วเขาก็ชวนผมทำหนังด้วยกัน ผมคิดมานานแล้วว่าอยากทำหนังสยองขวัญ แต่จะทำให้มันเป็นหนังที่ดูสวยด้วย จึงคิดว่า จังฮวา และ โฮงเรียน เหมาะสมตามความต้องการของผม"
หนังเรื่องนี้ถูกเปรียบเทียบกับ The Sixth Sense และ The Others เพราะการจบแบบหักมุม
"นอกจาก Sixth Sense และ The Others แล้ว ก็ยังเปรียบเทียบกับ The Ring และ Audition ด้วยได้ ผมเห็นว่านอกจากคนทำหนังแล้ว คนดูหนังก็ยังติดอยู่กับการอ้างอิงหนังจากหนังเรื่องอื่นๆ เพียงเพราะมีการจบแบบหักมุม แต่ผมว่าจุดหักมุมจริงๆ ในหนัง ไม่ใช่เรื่องของผี แต่เป็นส่วนท้ายสุดที่เล่าเรื่องย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งผมถ่ายฉากนั้นคนละอารมณ์กับหนังทั้งเรื่อง ผมเจตนาให้มันเป็นการหักมุมที่แท้จริง ส่วนการหักมุมครั้งอื่นๆ ที่แสดงออกมาตอนแรก เป็นแค่เครื่องมือนำไปสู่จุดหักมุมสุดท้าย"
รู้สึกไม่ดีไหมที่หนังถูกเปรียบเทียบกับหนังอื่นๆ
"ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน ผมบอกไว้แล้วว่าทุกคนไม่ปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากประสบการณ์ เมื่อดูหนังเรื่องหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกันมาก่อน ผมเองก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเลียนแบบวิธีการสร้างสถานการณ์ตึงเครียดด้วยเงื่อนไขแบบ Thriller หรือ Suspense มันแตกต่างกัน การสร้างสถานการณ์ตึงเครียดและไม่มั่นคง เป็นเรื่องของความสามารถและเทคนิคของแต่ละบุคคล ผมไม่คิดว่าเป็นการเลียนแบบ แต่เป็นทักษะที่อาจจะมีเหมือนกัน"
เนื้อหาเกี่ยวกับรอยแผลและความทรงจำ ดูเหมือนมีอะไรเชื่อมโยงกับ Memories
"Memories คือ ทำให้เรื่องนามธรรมที่เกี่ยวกับความทรงจำมาเป็นเรื่องรูปธรรม แต่ A Tale of Two Sisters คือ ความทรงจำที่เราเมินเฉย แต่ในที่สุดกลับมาผูกมัดชีวิตของตัวเองแล้วกลายเป็นคำสาป ในหนังเรื่องนี้แม่ป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ พ่อจึงพานางพยาบาลมาดูแลแม่ แต่แม่ก็ยังไม่หาย พ่อคงจะอยากปลดปล่อยความอึดอัดที่เกิดจากเรื่องยุ่งยากในครอบครัว บางครั้งจึงออกไปเที่ยวกับนางพยาบาลบ้าง แต่พอกลับมาบ้านแล้วสบตากับลูกๆ ซึ่งคงจะทำให้ลูกเจ็บปวด ผมอยากจะบอกอะไรแบบนั้น ในโลกนี้บางครั้งเรื่องใหญ่จะแก้ง่ายกว่าเรื่องเล็กๆ เรื่องเล็กๆ มันทำให้เจ็บปวดกันและกันแล้วทำให้เกิดเรื่องใหญ่อีกได้"
มีฉากหลายฉากที่ทำให้สงสัยเป็นความตั้งใจของผู้กำกับ
"เวลาทำหนัง ประมาณ 70% ผมทำตามความตั้งใจของผม แต่อีกประมาณ 30% ผมก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน ทำไมทำแบบนั้นและทำไมทำรูปแบบนั้นก็มี หาส่วนที่ผู้กำกับก็ไม่นึกถึง มันเป็นหน้าที่ของนักวิจารณ์ใช่ไหม?"
มือที่ออกมาจากข้างในกระโปรงของผี มันหมายความว่าอะไร
"ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนแรกใบหน้าของเด็กจะออกมา แต่ดูแปลกมากเกิน เลยเปลี่ยนเป็นมือแทน คงจะเป็นสัญลักษณ์ของซูยอนหรือเปล่า? ซึ่งเกี่ยวข้องกับฉากที่มือของซูยอนออกมาจากตู้เสื้อผ้า"
มีฉาก ซูมี ผ่านป่าไม้ไผ่ไปห้องเก็บของ ดูเหมือนว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ตัดต่อไปแล้ว เปลี่ยนเป็นฉากว่าถือกระเป๋าและออกมาจากบ้าน สงสัยมีอะไรขาดไปเวลาตัดต่อ
"ก็มีฉากที่ตัดไปในห้องเก็บของ เขาดูของแม่ พอดีมีเสียงแปลกดังขึ้นแล้วเปิดลิ้นชักดู ที่นั่นหนูตัวหนึ่งกระโดดออกมา ซูมีตกใจเลยรีบปิดลิ้นชัก หนูหนีไม่ทันเลยถูกจับระหว่างช่องลิ้นชัก ฉากนี้มีคำวิจารณ์แยกเป็นสอง คือ บางคนบอกว่าตลกมาก แต่บางคนบอกว่าไม่น่ามี เหตุที่ตัดฉากนี้ทิ้งไป เพราะไม่เหมาะสมกับระดับหนังนี้ (หัวเราะ)"
สำหรับเรื่องปลาในตู้เย็นล่ะ
"เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ทำให้สงสัยคนอื่น เป็นฉากที่ทำให้หลงความลึกลับของหนังมากยิ่งขึ้น"
ฉากที่มีเสียงเท้าจากชั้นสอง แสดงว่าใส่ใจกับเรื่องของเสียงอย่างมาก
"เพราะเป็นหนังสยองขวัญ เสียงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเสียงจะทำให้เรารู้สึกกลัวหรือผ่อนคลายได้"
รู้สึกได้ว่าหนังของคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไหม
"ผมทำหนังใหม่เพื่อจะชดเชยส่วนที่ขาดไปในหนังเก่า เมื่อทำหนัง The Quiet Family แล้วคิดว่ามีการเล่าเรื่องน้อยเกินไป เลยทำหนัง The Foul King ซึ่งขึ้นอยู่กับการเล่าเรื่อง The Foul King มีแต่สายตาของผู้ชายเท่านั้น เลยทำหนัง Coming Out และ Memories ที่มีความรู้สึกของผู้หญิง เวลาทำหนัง Coming Out อยากจะมีอารมณ์จริงจัง เลยทำหนัง Memories แต่ Memories ทำให้รู้สึกแห้งๆ เลยทำหนัง The Tale of Two Sisters ที่มีความรู้สึกชุ่มชื้นและเหนียวๆ"
ถ้าไม่สนใจเรื่องการเงินแล้ว อยากจะทำหนังแนวไหน
"Pickpocket ของ Robert Bresson หรือ Le Mepris ของ Godara ผมมั่นใจว่าจะทำได้ดีมากที่สุด คือ หนังแบบ Ghost World หนังที่มีอารมณ์ขันแบบเชย แต่ทำให้เรารู้สึกเศร้า ถ้ามีคนมาทำให้เราทำหนังโดยไม่ต้องสนใจเงิน แล้วผมอยากจะทำหนังแบบนี้จริงๆ"