วิจารณ์ Cloverfield
-
bumblebee
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 51 19:13
หาข้อมูลก่อนดูหนังบ้างก็ดีนะครับ จะเสียตังค์ทั้งที ทำไมไม่ศึกษาให้ดีก่อน
ทำไม หนังถึงใช้รูปแบบการถ่ายทำแบบ Hand Held ที่ทำให้คนดูเวียนหัว บางรายถึงกับอาเจียร
----- เพราะ หนังต้องการจะสื่อกับคนดู ในลักษณะมองผ่านกล้อง เน้นความสมจริง และให้คนดูเป็น 1 ในตัวละคร ( เหมือนเราคือ Hud )
(JJ) "เราอาศัยอยู่ในยุคของความหวาดกลัว การมีภาพยนตร์สักเรื่องที่พูดถึงสิ่งที่ดูเป็นเรื่องไกลตัว อย่างเช่นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักษ์บุกเข้าโจมตีเมืองที่คุณอาศัยอยู่ ทำให้ผู้คนสามารถลิ้มรสชาติความหวาดกลัวในแบบที่มีความบันเทิงและมีความปลอดภัยได้อย่างเหลือเชื่อ ผมอยากจะลิ้มรสชาติประสบการณ์นั้นด้วยตัวเอง เพื่อจะไปชมภาพยนตร์สักเรื่องที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ใหญ่ยักษ์ และเกินจริง และนั่นก็คือ Cloverfield ผมเริ่มคิดว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวขนาดเท่าตึก แต่เห็นจากมุมมองของคนๆ หนึ่งที่มีขนาดเท่ากับเม็ดทราย ไม่ใช่เห็นเรื่องทั้งหมดจากสายตาของพระเจ้าหรือของผู้กำกับหรือจากมุมมองที่ยิ่งใหญ่
ทำไม หนังถึงได้มีความยาวเพียงแค่ 70 นาที ดูแล้วไม่คุ้ม
----- เวลาประมาณนี้ คือเวลาที่กล้องวีดิโอน่าจะอยู่ถึงค่ะ และเป็นการควบคุมความรู้สึกของคนดูไปในตัว หากมากเกินกว่านี้อาจจะทำให้ร่างกายแย่ได้ (เหมือนเครื่องเล่นผาดโผน กรณีนี้ห้องหว้ากออาจจะให้รายละเอียดได้มากกว่า)
ทำไม ถึงไม่ทำให้รู้ที่มาที่ไปของสัตว์ประหลาด
---- ตามเรื่อง เราเป็นแค่คนธรรมดาที่พยายามหนีเอาตัวรอดนี่คะ -*- ไม่ใช่นักชีววิทยานะคะ จะได้มานั่งวิเคราะห์ไอตัวนี้ในเวลานั้นได้น่ะ
( JJ )แล้วเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหน เราคงบอกไม่ได้ ก็อดดาร์ดบอก ภาพยนตร์ของเราจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์ที่ใส่เสื้อคลุมสีขาว ผู้ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่ออธิบายเรื่องต่างๆ เราไม่มีฉากแบบนั้นหรอก
ทำไม ถึงแทบจะไม่เห็นสัตว์ประหลาดเลย
---- ถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์นั้น คุณจะหนีหรือจะยืนให้มันงาบ ??? -*-
( JJ ) อันที่จริง จุดที่ภาพยนตร์ให้ความสำคัญไม่ใช่เรื่องสัตว์ประหลาดที่ทำลายเมืองนิวยอร์กซิตี้ แต่เน้นไปที่กลุ่มคนที่ตกอยู่ในวิกฤตอย่างหนัก Cloverfield เน้นไปที่กลุ่มเพื่อน ซึ่งในช่วงหัวค่ำกำลังมารวมตัวกันเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับร็อบ (ไมเคิล สตัห์ล-เดวิด) ผู้กำลังจะย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น ฮัด (ทีเจ มิลเลอร์) เพื่อนอีกคนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ถ่ายภาพวิดีโอเหตุการณ์ด้วยกล้องวิดีโอตัวเล็ก และเป็นภารกิจที่เขาทำได้ตลอดรอดฝั่ง
ทำไม ถึงมีฉากตอนเริ่มต้น (งานเลี้ยงส่ง Rob) ที่ค่อนข้างยาว
( JJ ) อันที่จริง จุดที่ภาพยนตร์ให้ความสำคัญไม่ใช่เรื่องสัตว์ประหลาดที่ทำลายเมืองนิวยอร์กซิตี้ แต่เน้นไปที่กลุ่มคนที่ตกอยู่ในวิกฤตอย่างหนัก Cloverfield เน้นไปที่กลุ่มเพื่อน ซึ่งในช่วงหัวค่ำกำลังมารวมตัวกันเพื่อเลี้ยงฉลองให้กับร็อบ (ไมเคิล สตัห์ล-เดวิด) ผู้กำลังจะย้ายไปอยู่ญี่ปุ่น ฮัด (ทีเจ มิลเลอร์) เพื่อนอีกคนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ถ่ายภาพวิดีโอเหตุการณ์ด้วยกล้องวิดีโอตัวเล็ก และเป็นภารกิจที่เขาทำได้ตลอดรอดฝั่ง
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกทึ่งกับโปรเจ็กต์นี้ก็คือ รีฟส์บอก ไอเดียของการนำเสนอเรื่องราวที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่ถ่ายทำมันออกมาในระดับตัวบุคคลใกล้ชิด อารมณ์เกิดมาจากการเดินทางไปพร้อมกับตัวละครเหล่านี้ จากนั้น ความท้าทายกลายเป็นการหาหนทางที่จะรับมือกับเรื่องพิเศษ นั่นก็คือการโจมตีของสัตว์ประหลาด และรับมือกับมันในแบบที่ดูมีความสมจริงที่สุด -
bunmaid
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 51 17:37
ทำไมไม่ทำให้มันดูง่ายกว่านี้นะ มันดูไม่ระทึกเท่าไรเพราะเราเหมือนโดนหี้วไปหิ้วมา
-
Oishi69
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 51 15:34
ผมว่านะ
หนังเรื่องนี้ก็สนุกดี แต่กล้องที่ทำมาอย่างนี้
ก็เป็นสิ่งที่แปลกดี เผื่อถ้าใครไม่ชอบคราวหน้าถ้ามีแบบนี้อีกก็จะได้ตัดสินใจได้ง่ายว่าจะไม่ดู ส่วนคนที่ชอบก็จะได้ดูอย่างสนุกๆๆ
ส่วนตัวผมว่าอยู่ในเกณฑ์ดีไม่ถึงกับแย่ 7.5/10 -
Pchm
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 51 08:28
อาจเป็นเพราะเราเองไม่ได้หาข้อมูลก่อนไปดูหนังก็ได้ ..เสียดายที่ไม่ได้รับสิ่งที่ผู้สร้างต้องการจะบอกเท่าที่ควร แปลกนะจะดูหนังทั้งทีต้องทำการบ้านเหมือนกาน ๕๕๕.. ก็นั่นแหละ เพื่อให้การดูหนังเข้าใจถึงเนื้อเรื่องและอารมณ์ที่หนังต้องการจะบอก
..หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าก่อนจะเข้าโรง หรือตัดสินใจไปดู ควรทำการบ้านก่อน ./}*{\. -
vilert
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 24 ม.ค. 51 00:46
ไม่ดีเลย เสียดายตังครับ
-
kokz
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ม.ค. 51 12:38
ผมว่างั้นๆ นะ อาจเป็นเพราะว่าผมเข้าไม่ถึงก็ได้ เอา ได้ 4.9 เต็ม 10 ล่ะกัน ผมดูแล้วไม่ได้มีความตื่นเต้นไปกับหนังเลย
-
frodobuggins
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ม.ค. 51 11:43
ก่อนเข้าโรงทราบอยู่แล้วว่าหนังเป็นhandheldจึงรีบจองที่นั่งแถวหลังไว้ก่อน เลยไม่ค่อยปวดเศียรเหมือนคนอื่น 555
ชอบ เท่ แปลกใหม่ ดุดัน เข้มข้น และมีความสดใหม่อยู่ในตัว ทรงพลังทั้งดราม่าและระทึกขวัญ คือนิยามของหนังเรื่องนี้
ใครที่ดู The blair with Project มาก่อนคงจาเดาตอนจบได้ตอนเริ่มเหมือนกันเด้ะ สรุปชอบมากๆๆๆๆๆๆ ให้ 10 เต็มนะ -
Foppy
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 23 ม.ค. 51 04:14
จากที่ไปเซอร์เวย์มาหลายเว็บ ทำให้เข้าใจได้ว่า
- หนังเรื่องนี้ได้ทำการตลาด ไว้ก่อนหน้าหนังฉายหลายเดือน(จำไม่ได้ว่าเริ่มตอนไหน)
- ส่วนมากจะเป็นเว็บไซต์-สเปชของตัวละคร(ใช้ชื่อตัวละครสร้างสเปซกันเลยหละ) แล้วปล่อยเหตุการมาเรื่อยๆจนถึงกำหนดฉาย
- ในเว็บบางเว็บยังมีความนัยเกี่ยวกับสัตว์ประหลาด-ที่มา ไม่ได้บอกกันตรงๆ ต้องเดาเอาทั้งหมด
- ยังมีประเด็นอื่นๆให้ค้นหาอีกมากมาย
ถ้าใครได้อ่านสเปชของตัวละคร กับหาปมต่างๆในเว็บโปรโมตของหนังมาครบก่อนจะเข้าไปดูหนัง จะทำให้ดูสนุก แล้วเข้าใจมากขึ้น และยังต้องคอยหาจุดที่ไว้แก้ปมต่างๆในเว็บ และปมใหม่ๆที่เกิดขึ้มมาในหนังเพิ่มอีก
สรุป หนังเรื่องนี้ถ้าใครไม่ได้เล่นอินเตอร์เน็ตละก็ จะพูดได้เลยว่ารู้เรื่องของหนังไม่ถึงครึ่ง หรือดูหนังไม่จบเรื่องนั้นเอง ไอตัวกระผมก็ไม่ได้ทำการศึกษาเว็บโปรโมตก่อนเข้าไปดู หลังจากที่เข้าไปดูหนังแล้วต้องมานั่งงงเฉกเช่นเดียวกับตัวละครในหนัง กระผมจึงต้องมานั่งหาที่มาที่ไปของไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้
ให้ความตื่นเต้นได้อีกแบบนึง ดูไม่พอต้องต่อยอดนอกโรง สนุกครับ -
Brutala+Psycho
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ม.ค. 51 18:50
หนังดีนะถึงแม้ว่าตัวกล้องที่ถ่ายออกมาจะทำให้งงมากๆ แต่เวอร์ที่กล้องมันตกบ่อยมากยังไม่พังเลย
-
yuthana2518
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 22 ม.ค. 51 11:50
เป็นส่วนผสมระหว่าง godzilla +bare with project ทำให้หนังออกมาเหมือน handy cam ยังดีนะไม่มี clip แอบถ่ายไม่งั้นยุ่งแน่ๆ อิอิอิอิอิอิ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
advertisement
วันนี้ในอดีต
- รักแห่งสยามเข้าฉายปี 2007 แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
- Harry Potter and the Chamber of Secretsเข้าฉายปี 2002 แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
- ตีสาม 3Dเข้าฉายปี 2012 แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม
เกร็ดภาพยนตร์
- The Imitation Game - เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ผู้รับบท อลัน ทัวริง ยอมรับว่าเขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ตอนที่ถ่ายทำฉากท้ายๆ เรื่อง เพราะเขาชอบตัวละครตัวนี้มาก หลังจากทำความเข้าใจจิตใจของ อลัน ว่าเขาต้องทรมานแค่ไหน อ่านต่อ»
- เศียรสยอง - เดิมที ภาม รังสี คือผู้ที่รั้งตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ แต่หลังจากมีข่าวฉาว ได้ระบุ บอย - สิทธิชัย ผาบชมภู ในฐานะผู้ควบคุมงานสร้างและนักแสดงของเรื่องนี้ เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ อ่านต่อ»