เต็มอิ่มกับอรรถรสทางดนตรีจากวงร็อกระดับตำนาน ชิคาโก
"ชิคาโก" (Chicago) กลุ่มศิลปินร็อกระดับตำนานสัญชาติอเมริกัน ที่ก่อตั้งวงมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1967 รวมอายุ 45 ปี มีผลงานออกมาแล้ว 22 อัลบั้ม ประกอบด้วยสมาชิกปัจจุบัน ได้แก่ นักร้องนำและคีย์บอร์ด "โรเบิร์ต ลาห์ม" (Robert Lamm) นักร้องนำและคีย์บอร์ด "ลู พาร์ดินี" (Lou Pardini) นักร้องนำและมือกีตาร์ "คีธ ฮาวแลนด์" (Keith Howland) นักร้องนำและมือเบส "เจสัน เชฟฟ์" (Jason Scheff) นักดนตรีเพอร์คัสชัน "วัลเฟรโด เรเยส" (Walfredo Reyes) ผู้เป่าแซกโซโฟนและฟลุต "วอลเตอร์ พาราไซเดอร์" (Walter Parazaider) นักทรัมเป็ต "ลี ล็อกเนน" (Lee Loughnane) มือทรอมโบน "เจมส์ พังโกว์" (James Pankow) และ "ทริส อิมบูเดน" (Tris Imboden) รับหน้าที่ตีกลอง
สมาชิกทั้ง 9 คน ได้เดินทางมามอบความมันให้กับคอเพลงร็อกในไทย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ในทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกครั้งสุดท้าย "Chicago Live in Bangkok 2012" ซึ่งเต็มไปด้วยแฟนเพลงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาให้กำลังใจ ชิคาโก กันอย่างเนืองแน่น
สัญญาณความสนุกเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อวงร็อกรุ่นเก๋าก้าวขึ้นสู่เวที พร้อมส่งเพลงจังหวะสนุก "Make Me Smile" เพลงช้า "Colour My World" และกลับมาที่เพลงเร็ว "Now More Than Ever" เรียกน้ำย่อยให้กับคอเพลงร็อก จากนั้นมันกันต่อกับเพลงจังหวะปานกลาง "Does Any Really Know What Time It Is?" "Dialogue" และ "Old Days" ซึ่งแฟนเพลงต่างร้องตามและโยกตัวกันอย่างสนุกสนาน
นักร้องนำและมือคีย์บอร์ด โรเบิร์ต กล่าวทักทายแฟนๆ ว่า "ยินดีต้อนรับสู่ชิคาโกครับ พวกเรารู้สึกมีความสุขที่ได้มากรุงเทพฯ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ให้รอนาน พวกเราค่อนข้างยุ่งมาก (หัวเราะ) เพลงของเรามีเยอะมาก ยังไงคืนนี้จะพยายามเล่นให้ได้มากที่สุดนะครับ ไปสนุกกันต่อเลย" แล้วตามด้วย "Alive Again" และ "Call on Me" พักจังหวะความเร็วทางดนตรีเล็กน้อยในเพลงเพราะคุ้นหู "If You Leave Me Now" ที่ผู้ชมร้องตามกันอย่างสุดเสียง เร่งจังหวะขึ้นสักหน่อยกับ "(I've been) Searchin' So Long" แล้วเต้นต่อกับเพลงบรรเลงสนุกๆ "Mongonucleosis" ซึ่งจัดเต็มด้วยเสียงของชุดเครื่องเป่าตลอดทั้งเพลง
ช่วงเวลาแห่งความสุขยังดำเนินต่อไปกับ "Hard Habit to Break" บทเพลงช้าที่เริ่มด้วยเสียงฟลุตหวานๆ และ "You're The Inspiration" หลังจากนั้น โรเบิร์ต ได้สร้างสีสันด้วยการเล่นกีตาร์โปร่งเพลง "Beginnings" ต่อด้วยการดวลกลองและเพอร์คัสชันโดย ทริส และ วัลเฟรโด ตามลำดับใน "I'm a Man" ซึ่งได้รับเสียงปรบมือจากคอเพลงอย่างล้นหลาม คลังเพลงเร็วไม่หมดแค่นั้น ชิคาโก ยังขนเพลง "Street Player" "Just You 'n' Me" และ "Saturday in The Park" ตอกย้ำความมัน ก่อนจะต่อด้วยเพลงที่ร้องตามกันได้ "Hard to Say I'm Sorry" "Get Away" และ "Feelin' Stronger Every Day"
ดูเหมือนว่าความสนุกจะจบลงไปพร้อมกับดวงไฟที่ค่อยๆ มืดมิด แต่แฟนเพลงยังไม่ไปไหน ต่างส่งเสียงร้องเรียก ชิคาโก ดังลั่นอาการ สักพักวงร็อกสี่ทศวรรษได้กลับขึ้นเวทีอีกครั้ง พร้อมเพลงเร็ว "Free" และ "25 or 6 to 4" ก่อนจะอำลาคอนเสิร์ตด้วยถ้อยคำของ เจมส์ ว่า "พวกเรารักคุณ ขอบคุณทุกคนนะครับ ราตรีสวัสดิ์"