4 หนุ่ม มัสคีเทียร์ สื่อความสนุกในเพลง ยิ่งรัก ยิ่งแกล้ง
ถ้าพูดถึง 4 หนุ่ม "มัสคีเทียร์" (Musketeers) ที่ประกอบด้วย "เท็น - ชาครีย์ ลาภบุญเรือง" (ร้องนำ) "ด๋อย - สรรวิช หวานสนิท" (เบส) "พู - ภาคภูมิ นิ่มละมัย" (กีตาร์) และ "บิ๊ก - รวิน มิตรจิตรานนท์" (กีตาร์) หลายคนคงจะชื่นชอบและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับเพลงเพราะๆ ความหมายดีๆ อาทิเพลงเพลง "แค่บางคำ" "ของขวัญ" หรือว่าจะเป็น "ไกล" และเพลงอื่นๆ
ล่าสุดพอทั้ง 4 หนุ่มลองนำเสนอตัวตนอีกด้าน ด้วยการปล่อยซิงเกิลใหม่จังหวะสนุกสนาน "Dancing" จากอัลบั้มชุดที่ 2 "Uprising" ออกมาก็โดนใจทั้งแฟนเพลง รวมไปถึงเหล่าทีมงานรายการสาระแน และตัวการใหญ่ 2 หนุ่ม "วิลลี่ - เริงฤิทธิ์ แมคอินทอช" กับ "หอย - เกียรติศักดิ์ อุดมนาค" ก็เลยเอ่ยปากชวน มัสคีเทียร์ มาทำเพลงให้กับภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 15 ปีของรายการ ที่ตามแกล้งแบบจัดหนักไปไกลถึงที่ญี่ปุ่นเรื่อง "สาระแน โอเซกไก" ในเพลง "ยิ่งรัก ยิ่งแกล้ง" ฝีมือการแต่งเนื้อร้องและทำนองของหนุ่ม เท็น
นักร้องนำเผยถึงการทำเพลง ยิ่งรัก ยิ่งแกล้ง ว่า "ที่มาของเพลงนี้มาจากทางผู้กำกับ ทางทีมงานเขามาคุยกับพวกเราว่าเขาชอบเพลงของเรา อยากให้ทำเพลงด้วยกันหน่อย อยากร่วมงานกัน ก็ให้คอนเซ็ปต์มาว่าสาระแนผ่านมา 15 ปีแล้ว ที่ผ่านมาบางทีศิลปินดาราที่โดนแกล้งไป เขาอาจจะเข้าใจผิดหรือเปล่าว่าทางทีมงานสาระแนเขาแกล้งเพราะเขาเกลียดเรา เขาแกล้งเอาสนุก เอาฮาของเขาหรือเปล่า แต่จริงๆ อยากจะสื่อสารว่าที่สาระแนแกล้งเพราะว่าเรารัก ยิ่งเราแกล้งแรงมากเรายิ่งรักมาก คอนเซ็ปต์ก็มาจากหนังด้วย พวกเราก็นำเอาคอนเซ็ปต์ที่พี่ๆ เขาเล่าให้ฟังมาเขียนเป็นเพลง ยิ่งรัก ยิ่งแกล้ง ซึ่งเป็นเพลงที่เข้าใจได้ไม่ยาก ตรงตัวอยู่แล้ว
ยกตัวอย่างเหมือนสมัยเราเด็กๆ สังเกตไหมว่าทำไมว่าตอนเด็กๆ ผู้ชายผู้หญิงชอบแกล้งกัน จริงๆ เราชอบเขา เราอาจจะแอบชอบเขาอยู่ เพียงแต่ว่าตอนเด็กไม่กล้าที่จะไปบอกว่าเธอเราชอบเธอนะ เพราะว่าเพื่อนล้อ เราก็ต้องแกล้งเขามั่ง ขโมยปากกาเขามั่ง แหย่เขามั่ง แกล้งนู่นแกล้งนี่ แต่จริงๆ ความรู้สึกคือเราชอบคนนี้นะ เรารักเขานะ แล้วเอามาทำเป็นเพลงครับ เขาเลือกมาจาก Dancing ครับ ชอบแนวดนตรีชอบเนื้อหา อันนี้ซิงเกิลที่ 2 ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มแต่เป็นโปรเจกต์พิเศษ ยังไงก็มีความเป็นตัวตนของพวกเราสูงมาก ก็อยากให้ติดตามกัน"
ด๋อย เผยการทำเพลงประกอบภาพยนตร์เป็นความฝันอย่างหนึ่งของวง "จริงๆ เราก็ใฝ่ฝันตั้งแต่เราเพิ่งรวมวงกันครับว่าเราอยากจะทำเพลงประกอบภาพยนตร์สักวันนึง ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปก็ได้ทำจริงๆ" เท็น เสริมว่า "จริงๆ เพลงประกอบภาพยนตร์จะเป็นอะไรที่มากกว่าเพลงที่มีเอ็มวีเฉยๆ เพราะว่าบางทีเพลงที่เอาไปซิงก์กับหนังจะทำให้คนรู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วมมากกว่า อย่างหลายๆ เพลงที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่ก็จะมาจากเพลงประกอบภาพยนตร์หรือเพลงประกอบละคร บางทีคนอินกับหนังกับละครที่ดู อันนี้ก็เป็นเพลงมันๆ เหมือนหนังครับ เป็นหนังสนุกๆ มันๆ แกล้งกันมันๆ ซึ่งอารมณ์ก็คงจะประมาณอยากทำอะไรที่มันๆ สะใจ นอกกรอบ เฮหน่อยก็เอาเพลงเราฟังจะได้ฮึกเหิม"
เท็น ดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ วิลลี่ และ หอย "ก็ดีใจครับ เซอร์ไพรส์มาก เราเคยคิดว่าสักวันนึงถ้าเราได้ไปออกรายการสาระแน แสดงว่าเราดังแล้วนะ แต่อันนี้พี่เขาให้เกียรติเรา เพราะว่าเขาชอบเพลงเร็วเรา ชอบเพลง Dancing เขาก็เลยให้เกียรติพวกเราได้มาทำเพลงประกอบภาพยนตร์ของเขา ดีใจครับ ปลื้มมากๆ"
แต่ เท็น ก็แอบหวั่นกลัวทีม สาระแน แกล้ง "ตอนแรกที่ติดต่อเข้ามา คือทางค่ายเราเขาบอกว่าต้องทำเพลงประกอบหนังของสาระแนฯ ตอนแรกก็คิดไว้แล้ว พอมีสาระแนเข้ามาเกี่ยว เขาอำเราอยู่หรือเปล่า เป็นการถ่ายรายการสาระแนไหม ถ้าเกิดเป็นการทำเพลงประกอบภาพยนตร์จริงๆ สักวันนึงเราต้องโดนหรือเปล่า เราก็ระวังตัวครับ ช่วงนี้เราระวังตัวมาก ระแวงครับระแวง อย่างผมก็จะอยู่กับพวกพี่ๆ นักดนตรีด้วยกันเยอะครับ อยู่กับวงพาราด็อกซ์ วงกะลา ซึ่งพี่ๆ เขาโดนมาหมดแล้ว เขาก็จะบอกว่าชีวิตประจำวันเขาช่วงที่เขากลัวว่าจะโดนสาระแน เขาไม่มีความสุขเลย เมื่อไรจะโดน ระแวงไปหมด เราก็เป็นเหมือนเขา กลัวเหมือนกัน แต่ว่าถ้าโดนก็คงดีใจครับ แสดงว่าพี่เขารักเรา ยิ่งรักยิ่งแกล้งครับ" ด้าน พู บอกว่า "ช่วงนี้พยายามเป็นคนดีมากๆ ครับ ก็ดีครับทำให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท"
นักร้องนำเผยเพลงได้กระแสตอบรับดี แม้ว่าจะปล่อยออกมาได้ไม่กี่วัน "ก็โอเค ยอดวิวขึ้นค่อนข้างไวเหมือนกัน มันเป็นเพลงที่เร็วแล้วก็มันที่สุดตั้งแต่พวกเราเคยทำมาก่อนในชีวิตเลยนะครับ แฟนๆ เขาก็จะบอกว่าเพลงมัน ก็เป็นอีกมุมมองนึง บางทีไปเล่นคอนเสิร์ต เล่นแต่เพลงช้าไปก็น่าเบื่อ ตอนนี้ก็มีเพลงมันๆ มาเล่น มี Dancing มีเพลงนี้มาเล่นก็สนุกขึ้น"
