เจสัน มราซ สร้างความสุข กับคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทย
"เจสัน มราซ" (Jason Mraz) เป็นอีกหนึ่งนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชื่อดังระดับโลก ที่แฟนๆ ในเมืองไทยต่างรอคอยกันมานาน กับการมาเยือนของนักร้องหนุ่มเสียงนุ่มทุ้มหูที่มาพร้อมกับกีตาร์คู่กาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการวางแผนจะมาแสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่ปลายปี 2554 ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ สดชื่นของต้นไม้และภูเขา ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ แต่ก็มีเหตุให้ต้องเลื่อนคอนเสิร์ตออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยในเมืองไทย และแล้วเหล่าแฟนเพลงก็ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ เจสัน จัดตารางเปิดการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในไทยกับคอนเสิร์ต "Jason Mraz Tour is a Four Letter Word Live in Bangkok" ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี พิสูจน์ได้จากบัตรคอนเสิร์ตที่ถูกจำหน่ายหมดจนหลายคนต้องพลาดคอนเสิร์ตนี้ไป
โดยก่อนที่ เจสัน จะไปสร้างความสุขให้กับแฟนเพลงในช่วงค่ำๆ ของวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ศิลปินหนุ่มชื่อดังก็ปรากฏตัวด้วยมาดสบายๆ กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่าขึ้นเวที เพื่อร่วมงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตและร่วมพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ กับสื่อมวลชนรวมไปถึงเหล่าแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้รับสิทธิ์พิเศษที่ได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ตนชื่นชอบ
รู้สึกอย่างไรบ้างที่บัตรคอนเสิร์ตถูกจำหน่ายหมดแล้ว
"ก็รู้สึกดีใจที่มีคนมากันเยอะแยะขนาดนี้ หวังว่าในคอนเสิร์ตทุกคนจะช่วยร้องตามแล้วก็ไปสนุกกันให้เต็มที่ในคอนเสิร์ตนะครับ"
แฟนๆ จะได้พบอะไรในคอนเสิร์ต
"บนเวทีคอนเสิร์ตก็จะได้พบกับวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรี 9 ชิ้นมาแบบครบเต็มวง รวมถึงเครื่องเป่าซึ่งถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของผมเอง ส่วนความพิเศษที่เพิ่มเข้ามาก็คือจะมีนักไวโอลินผู้หญิงมาสีไวโอลินและร่วมร้องกับผมด้วยครับ ก็เป็นสิ่งแปลกใหม่เป็นรสชาติใหม่ๆ ที่จะได้ร่วมร้องด้วยกันครับ"
อัลบั้ม Love Is a Four Letter Word ต่างจากอัลบั้มอื่นอย่างไร
"อัลบั้มก่อนๆ อาจจะมีความสนุกสนานและมีความตื่นเต้นในเรื่องของเครื่องดนตรี เครื่องเป่า ซึ่งก่อนหน้านี้เพลง I'm Yours เป็นเพลงที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จมาก แล้วผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าความสำเร็จเหล่านั้นจะผลักดันให้ผมมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ พอมาทำอัลบั้มนี้มีอยู่ครั้งนึงตอนที่กำลังจะแต่งเพลง ผมมีความรู้สึกว่าจะแต่งอะไรออกมาก็ได้ ไม่ต้องแคร์อะไร แต่เป็นเพราะเพลง I'm Yours หรือซิงเกิลที่ดังๆ ของผมทำให้ผมสามารถเดินทางไปหลายๆ ที่บนโลกใบนี้ ทำให้ผมรู้สึกรักโลกนี้มากขึ้น ในเรื่องเกี่ยวกับการดูแลธรรมชาติ ในแง่ของมูลนิธิต่างๆ ที่เราจะต้องช่วยกันรักษาโลกนี้ ก็เลยทำให้ผมเปลี่ยนไปจากคนที่สนุกสนานก็จะมีความเหงาเพิ่มเข้ามาด้วย บางทีเล่นอยู่หลังบ้านก็รู้สึกเหงาๆ แต่ไม่ถึงกับเศร้า แล้วที่อยากจะสื่อในอัลบั้มนี้ก็คืออยากให้ใส่ใจโลกมากขึ้นด้วยครับ"
อะไรเป็นแรงบันดาลในการแต่งเพลง
"ก็มาจากประสบการณ์ของผมเองครับ ทั้งเรื่องราวที่มาจากความรัก การใช้ชีวิต ถึงแม้ว่าในบางครั้งจะรู้สึกเศร้าบ้าง แต่เรื่องราวต่างๆ ก็ให้แง่คิดดีๆ ในมุมบวกกับตัวเองเหมือนกัน นอกจากนั้นก็ยังได้แรงบันดาลใจมาจากความคิดที่คิดกับตัวเอง หลายๆ ครั้งก็มาจากการเล่นโยคะ แล้วก็อาจารย์ที่สอนโยคะให้กับผมด้วย ข้อคิดที่ได้จากอาจารย์ที่สอนโยคะเวลาพูดคุยกัน ทำให้ผมรู้สึกว่าแค่นั่งแล้วก็เขียนเพลงมันก็ทำได้แล้ว"
มูลนิธิ เจสัน มราซ มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
"มูลนิธิก็จะดำเนินการช่วยเหลือ 8 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ เรื่องของการใช้พลังงานรวมไปถึงสิทธิความเท่าเทียมของมนุษย์ ที่ก่อมูลนิธินี้ขึ้นมาเพราะตอนสมัยที่ผมยังไม่มีอะไรเลย เพิ่งจะเริ่มต้น ผมก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงให้ยืมรถ ให้ยืมจักรยาน พาไปทานข้าว ยืมเงิน ยืมเสื้อผ้า พอมาถึงวันนี้ที่ผมพอจะมีชื่อเสียงก็อยากจะใช้โอกาสตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้คนที่ด้อยโอกาสกว่าได้มีชีวิตที่ดีขึ้นครับ"
เดินทางบ่อย เรียกที่ไหนว่าบ้าน
"ในความคิดของผมทุกๆ ที่ที่ผมอยู่ก็คือบ้านครับ ตอนนี้อยู่ประเทศไทย ประเทศไทยก็คือบ้าน ถ้าเกิดเราคิดว่าเราอยู่ที่อื่น เราก็จะไม่มีความสุขสักที"
มาเมืองไทยอยากลองทำอะไรบ้าง
"เพื่อนๆ ของผมก็ได้ไปลองทานแมลงมาบ้างแล้ว ก็อยากลองบ้างเหมือนกันครับ พอมาถึงเมืองไทยก็พักผ่อนอย่างเต็มที่ เล่นโยคะเมื่อตอนเช้า เตรียมพลังให้พร้อมสำหรับคอนเสิร์ต หวังว่าทุกคนจะร้องเพลงไปด้วยกันกับผมนะครับ"
ฝากถึงแฟนๆ
"ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ นะครับ ผมรู้สึกประทับใจกับการต้อนรับที่อบอุ่นและรอยยิ้มของแฟนๆ ชาวไทยมาก แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย ผมสัญญาว่ายังไงก็จะกลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่เมืองไทยอีกแน่นอน ขอบคุณมากครับ"
สำหรับบรรยากาศคอนเสิร์ตในช่วงค่ำ เจสัน ก็ขอเริ่มต้นอุ่นเครื่องเปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลงจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด ด้วยจังหวะสบายๆ ในเพลง "93 Million Miles" ตามมาด้วย "The World As I See It" เพิ่มจังหวะขึ้นมาอีกนิดกับ "Dynamo Of Volition" ก่อนจะย้อนไปฟังเพลง "Bella Luna" แล้วสลับมาที่เพลงใหม่ที่มีทั้ง "Everything Is Sound" "The Freedom Song" ต่อด้วย "Only Human" และเพลง "Be Honest"
จากนั้นเข้าสู่ช่วงเพลงน่ารักๆ ชวนให้แฟนๆ เคลิ้มตาม เริ่มจาก "Lucky" "Make It Mine" และ "Frank D. Fixer" แล้วมาย้อนกลับไปสู่เพลงแรกที่ทำให้ใครต่อใครรู้จัก เจสัน ในฐานะนักร้องกับ "The Remedy (I Won't Worry)" คั่นด้วยบรรยากาศซึ้งๆ ในเพลง "Mr. Curiosity" ต่อเนื่องทันทีกับ "The Woman I Love" "A Beautiful Mess" และ "Unfold" เพื่อไม่ให้ขาดอรรถรส เจสัน ก็ขอหยิบเพลงที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง "I Won't Give Up" มาร้องให้ฟัง ก่อนจะส่งเพลง "Butterfly" มาเป็นการบอกลาแฟนๆ
ถึงแม้ว่าไฟบนเวทีจะดับลง หนุ่ม เจสัน หายกลับเข้าไปด้านหลังของเวทีแล้ว แต่แฟนๆ ก็ยังไม่ไปไหนต่างส่งเสียงเรียกนักร้องหนุ่มกันไม่ขาดปาก เพราะยังเหลือเพลงเพราะๆ อีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ฟังกัน และแล้ว เจสัน ก็กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งพร้อมกับเพลง "You and I Both" ต่อด้วยเพลง "I'm Coming Over" และ "Living in the Moment" ก่อนจะอำลาไปด้วยเพลงสำคัญที่จะขาดไม่ได้กับ "I'm Yours" เป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตส่งท้ายให้กับแฟนเพลง