เอฟที ไอส์แลนด์ จัดคอนเสิร์ตฉลองครบ 5 ปีกับแฟนๆ ไทย
5 หนุ่ม "เอฟที ไอส์แลนด์" (FTIsland) ที่ประกอบด้วยนักร้องนำ "อีฮงกี" (Lee Hong Gi) มือเบส "อีแจจิน" (Lee Jae Jin) มือกีตาร์ "ซงซึงฮยอน" (Song Seung Hyun) นักกีตาร์และคีย์บอร์ด "ชเวจงฮุน" (Choi Jong Hoon) และมือกลอง "ชเวมินฮวาน" (Choi Min Hwan) เพิ่งจะครบรอบ 5 ปีของการก่อตั้งวงไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ยังไม่ทันที่จะได้ฉลองกันอย่างเป็นทางการ หนุ่มๆ เอฟที ไอส์แลนด์ ก็มุ่งหน้าเดินทางมาเมืองไทยขอฉลองครบรอบ 5 ปีย้อนหลังไปพร้อมๆ กับแฟนคลับชาวพรีมาดอนน่าในเมืองไทยกับคอนเสิร์ต "2012 FTIsland Concert Play! FTIsland in Bangkok" ที่ได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2555 ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทั้ง 5 หนุ่ม เอฟที ไอส์แลนด์ ได้ออกมาทักทายและร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนกันก่อน ณ เซ็นเตอร์พอยท์ เพลย์เฮาส์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
ทักทาย
เอฟที ไอส์แลนด์ "สวัสดีครับ พวกเรา เอฟที ไอส์แลนด์ ครับ (ภาษาไทย)"
ครบรอบ 5 ปีได้จัดงานฉลองอะไรเป็นพิเศษไหม
ซึงฮยอน "พวกเราได้จัดงานแฟนมีตติ้งฉลองครบรอบ 5 ปี ไปเมื่อวันที่ 2 บรรยากาศสนุกสนานมากเลยครับ แต่ช่วงนี้พวกเรามีงานที่ค่อนข้างเยอะก็เลยไม่ได้จัดงานฉลองครบรอบ 5 ปีก่อนที่จะมาเมืองไทย พวกเราคิดว่าคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้จะเป็นปาร์ตี้ของพวกเรา พวกเราจะไปฉลองครบรอบ 5 ปีในคอนเสิร์ตครับ"
5 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
จงฮุน "ในเวลา 5 ปีที่ผ่านมาก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง อย่างเช่น ถ้าดูจากหน้าตา สไตล์ก็จะเปลี่ยนไป ดูเป็นหนุ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องผลงานในแต่ละอัลบั้มก็มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในทุกๆ ปี เวลาที่เกิดปัญหาระหว่างที่เล่นคอนเสิร์ต พวกเราก็จะมีวิธีแก้ปัญหาฉุกเฉินในเวลานั้นได้ดีขึ้นครับ"
ใครเป็นคนแก้ปัญหาได้ดีที่สุด
มินฮวาน "เอฟที ไอส์แลนด์ ต้องเล่นเป็นวง ถ้าเกิดคนนึงผิดก็จะผิดไปเลย จะกระทบกับทุกคนในวง เมื่อก่อนถ้ามีคนนึงผิดก็จะหันมองเพื่อนคนอื่นว่าทำผิดเหรอ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ถ้าเล่นผิดคนอื่นๆ ก็ช่วยกันแล้วเล่นดนตรีต่อไป เพื่อไม่ให้แฟนๆ รู้ว่าเล่นผิดไปครับ"
ความประทับใจที่มีต่อชาวพรีมาดอนน่า
ฮงกี "ไม่อยากเลือกเลยว่าประทับใจใครเป็นพิเศษ เพราะว่าทุกคนเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพวกเราครับ อย่างเวลาจัดแฟนมีตติ้ง สไตล์แฟนเพลงในแต่ละประเทศก็จะไม่เหมือนกัน บางประเทศก็จะร้อนแรงแล้วก็คึกคักมาก แต่บางประเทศก็จะอาย เขิน ไม่กล้าเข้ามา"
ครบรอบ 5 ปี อยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษไหม
มินฮวาน "จริงๆ แล้วผมคิดว่าตัวเลขไม่ใช่เรื่องที่สำคัญ วิธีการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นเวลาที่สำคัญมากและเป็นเวลาที่พิเศษสำหรับพวกเรา พวกเราก็อยากจะขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนเลยที่คอยสนับสนุนพวกเรามาตลอด 5 ปี เพราะถ้าไม่มีแฟนๆ ก็จะไม่มี เอฟที ไอส์แลนด์ ต้องขอขอบคุณมากๆ ที่ชอบทุกสิ่งทุกอย่างของ เอฟที ไอส์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือว่าเวลาที่พวกเราทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็จะได้รับเสียงกรี๊ดและได้รับความรักจากแฟนเพลงตลอดครับ ต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนเลยครับ"
เคยตั้งเป้าหมายไว้จะทำอะไรเมื่อมาถึงเมืองไทย แล้วยังไม่ได้ทำบ้าง
ซึงฮยอน "ทุกครั้งที่เดินทางมาเมืองไทย เวลามองจากเครื่องบินก็จะเห็นทะเล จริงๆ แล้วผมก็ได้ไปเที่ยวทะเลในเมืองไทยมาแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ลองนั่งเรือเที่ยวเลย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะล่องเรือเที่ยวทะเลไปตกปลาแบบชิลๆ สบายๆ ครับ"
จงฮุน "ปกติเวลาเดินทางไปประเทศไหนก็ตาม มักจะบอกว่าให้ไปลองเที่ยวตลาดของประเทศนั้นดู จะได้เห็นวัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนแต่ละประเทศ ผมก็เลยอยากลองไปเดินเที่ยวตลาด ไปหาของกินอร่อยๆ แล้วก็หาซื้อของที่ระลึกให้กับเพื่อนๆ ครับ"
แจจิน "ผมอยากมีเพื่อนที่เป็นคนไทยรุ่นๆ เดียวกันกับพวกเราครับ อยากรู้ว่าคนไทยในวัยเดียวกันเขาทำอะไรในเวลาว่าง หรือว่าเขาใช้ชีวิตกันยังไง เลยอยากมีเพื่อนเป็นคนไทยครับ"
ฮงกี "จริงๆ แล้วก็มาเมืองไทยบ่อยมากเหมือนกันนะครับ แต่ว่ามาทำงานอย่างเดียวเลย ไม่เคยได้ไปเที่ยวเลย ถ้ามีเวลาว่างก็อยากเที่ยวเมืองไทยอย่างจริงจัง อยากไปซื้อของที่ห้าง อยากไปเดินเล่น อยากเห็นช้างมากแล้วก็อยากขี่ช้างด้วย โอกาสหน้าถ้ามีเวลาก็คงจะได้ไปขี่ช้างครับ"
มินฮวาน "ช่วงนี้จงฮุนเขาจะชอบไปทำให้ผิวเป็นสีแทน แต่ผมไม่อยากจะใช้เครื่องอาบแดดเพื่อทำให้ผิวเป็นสีแทน ก็เลยอยากจะไปนอนอาบแดดแถวๆ ชายหาดในเมืองไทยมากกว่าครับ"
ผลงานใหม่ๆ
ฮงกี "ถ้าเป็นผลงานเดี่ยว ตอนนี้ซึงฮยอนก็กำลังจะเตรียมตัวเล่นละครเวทีเรื่อง Jack the Ripper ก็ฝากให้ทุกๆ คนช่วยติดตามกันด้วยนะครับ เนื้อเรื่องสนุกมากๆ แล้วช่วงนี้ซึงฮยอนก็ฝึกซ้อมหนักมาเลยครับ ส่วนเรื่องงานละครหรือว่าภาพยนตร์ของผมเองตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่ก็อยากให้รอติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วช่วงนี้พวกเราก็กำลังเตรียมทำอัลบั้มใหม่ที่เกาหลีอยู่ด้วยครับ ก็ฝากให้ทุกคนติดตามผลงานของ เอฟที ไอส์แลนด์ ด้วยนะครับ แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่เมื่อกี้นี้ผมเผลอพูดภาษาญี่ปุ่นออกมา คือก่อนที่จะมาเมืองไทยผมเพิ่งจะมีเพื่อนใหม่ที่เป็นชาวญี่ปุ่น ช่วงนี้ก็เลยติดพูดภาษาญี่ปุ่น ต้องขอโทษด้วยนะครับ"
มีเทคนิคยังไงในการเขียนตอบกลับทวิตเตอร์เป็นภาษาไทย
จงฮุน "จริงๆ ต้องขอบคุณทวิตเตอร์ด้วยนะครับ เพราะว่าเวลาคนที่อยู่คนละประเทศกันก็มักจะพูดภาษาของอีกฝ่ายไม่ค่อยได้ แต่ถ้าพูดคุยกันในทวิตเตอร์ก็จะสามารถบอกแฟนเพลงทุกคนได้ว่าตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่ รู้สึกยังไง ทุกครั้งผมก็จะอ่านทวีตที่แฟนคลับส่งมาให้ผม ผมก็ถามแฟนคลับว่าควรจะพูดอะไรที่จะทำให้ทุกคนชอบ แฟนคลับก็จะเขียนเป็นภาษาไทยมาให้ ผมก็ก๊อปปี้เพสต์ทวีตกลับไปหาทุกคนครับ เมื่อก่อนผมเคยใช้โปรแกรมทรานสเลตช่วยแปล แต่แปลออกมาแล้วไม่รู้เรื่องเลย ผมก็เลยถามแฟนคลับแทน แล้วแฟนคลับก็จะคอยบอกทุกครั้งเลยครับ"
อยากเรียนภาษาไทยแบบจริงจังกันบ้างไหม
ซึงฮยอน "ทุกๆ ครั้งที่ไปประเทศไหนผมก็อยากที่เรียนรู้ภาษาของประเทศนั้น เพื่อที่จะได้คุยกับทุกคนรู้เรื่อง แต่ว่ามาเมืองไทยบ่อยๆ ก็เลยทำให้รู้สึกว่าอยากเรียนภาษาไทยแบบจริงจังมากเลยครับ "
มีภาษาไทยคำไหนที่พูดแล้วติดปากมากที่สุด
ซึงฮยอน "ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ขอบคุณครับ (ภาษาไทย)"
ตอนนี้ยังอยู่หอพักเดียวกันอยู่หรือเปล่า
ฮงกี "ล่าสุดพวกเราเพิ่งจะย้ายบ้านใหม่กันครับ ผมกับจงฮุนจะอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนน้องๆ อีก 3 คนก็จะอยู่ด้วยกันอีกห้อง เป็นอพาร์ตเมนต์เดียวกันแต่อยู่กันคนละชั้นครับ ก่อนหน้านี้เราอยู่หอพักเดียวกันค่อนข้างนานประมาณ 7-8 ปี ผู้ชาย 5 คนอยู่ในหอพักเดียวกันแล้วค่อนข้างจะแคบ ไม่มีเวลาส่วนตัว เพิ่งจะย้ายไปที่ใหม่เมื่อไม่นานนี้เองครับ จะได้มีเวลาส่วนตัวมากขึ้นครับ"
ใครที่มีพฤติกรรมการนอนแบบแปลกๆ บ้าง
ฮงกี "ส่วนมากจะไม่มีนะครับ แต่แจจินเวลานอนเขาจะชอบขยับตัวไปมาตลอดเลยครับ"
ใครที่ได้รับผลกระทบจากการนอนของ แจจิน
ฮงกี "ผมเองครับ แต่ตอนนี้แยกกันอยู่แล้วก็คิดถึงพฤติกรรมนั้นเหมือนกันครับ"
ใครทานเก่งที่สุด
ฮงกี "มินฮวานเป็นคนที่ทานเก่งที่สุดครับ จริงๆ แล้วมินฮวานไม่ได้ผอมอย่างที่ทุกคนคิดนะครับ"
แต่ละคนมีวิธีในการดูแลรูปร่างอย่างไรบ้าง
ฮงกี "ช่วงนี้จงฮุนจะชอบออกกำลังกายก็เลยทำให้หุ่นค่อนข้างฟิตที่สุดในวงเลยครับ มินฮวานทานเก่งที่สุดแต่ว่ากล้ามเนื้อที่แขนและขาของเขาจะเยอะมาก เพราะว่าเขาทำหน้าที่ตีกลอง ซึ่งต้องใช้พลังจากแขนและขามากๆ ส่วนแจจินกับซึงฮยอนเป็นคนที่ผอมอยู่แล้ว ส่วนผมก็เป็นคนที่อวบนิดนึงครับ"
มีเทคนิคในการออกกำลังกายอะไรเป็นพิเศษไหม
จงฮุน "จริงๆ ก็ไม่ค่อยมีเทคนิคอะไรนะครับ แต่ว่าตอนที่ออกกำลังกายก็ต้องพยายามทำให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้มีหุ่นที่ฟิตครับ"
เวลามาเมืองไทยชอบทานอาหารไทยจานไหนเป็นพิเศษ
แจจิน "ผมชอบทานผัดไท ปูผัดผงกะหรี่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวเหนียวมะม่วง แล้วก็ชอบทานผลไม้ของไทยต่างๆ อย่างมังคุดด้วยครับ"
มินฮวาน "ชอบทานปูผัดผงกะหรี่ครับ จริงๆ แล้วชอบทานอาหารที่มีรสเผ็ดเหมือนกัน แต่ทานเผ็ดเยอะๆ ไม่ได้ครับ"
จงฮุน "ผมชอบทานต้มยำกุ้งมากครับ แฟนเพลงก็ชอบให้มาม่ารสต้มยำกุ้งกลับไปที่เกาหลีด้วย เวลาอยู่ที่บ้านก็จะชอบหยิบมาทานคนเดียวครับ"
ได้ทานอาหารจานโปรดกันแล้วหรือยัง
ฮงกี "ยังไม่มีเวลาไปทานกันเลยครับ"
คอนเสิร์ตครั้งนี้จะมีความพิเศษที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างไรบ้าง
ฮงกี "คอนเสิร์ตวันพรุ่งนี้จะมีธีมเหมือนชื่อคอนเสิร์ต ก็คือความอิสระ ทุกคนอยากจะทำอะไรก็ได้หมดเลยครับ แต่ว่าห้ามถ่ายรูปอย่างเดียว พวกเรา เอฟที ไอส์แลนด์ ก็จะเล่นคอนเสิร์ตให้สนุกที่สุดครับ"
ชวนแฟนเพลงให้ไปร่วมสนุกกันในคอนเสิร์ต
ซึงฮยอน "รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ อยากจะให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ คิดอยู่ตลอดเวลาเลยว่าในคอนเสิร์ตจะทำยังไงให้ทุกคนเอ็นจอยและสนุกที่สุด วันพรุ่งนี้ก็อยากให้ทุกคนมากันเยอะๆ นะครับ มาสนุกกันให้เต็มที่กับพวกเรานะครับ"
แจจิน "พวกเรา เอฟที ไอส์แลนด์ จะพยายามเล่นกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม ยังไงก็มาสนุกกันในคอนเสิร์ตนะครับ"
มินฮวาน "ผมจะเล่นให้เต็มที่เลยครับ"
ฮงกี "รู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ พวกเราก็ไม่ได้มาเยี่ยมเมืองไทยนานแล้วเหมือนกัน ก็อยากจะให้คอนเสิร์ตครั้งนี้สนุกกันให้เต็มที่ พรุ่งนี้จะเอาอะไรมาก็ได้ แต่ว่าห้ามเอากล้องถ่ายรูปมานะครับ"
จงฮุน "พวกเราไม่ได้มาเยี่ยมเมืองไทยนานแล้ว พวกเราก็จะเล่นคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้สนุกที่สุด มีพลังมากที่สุด ก็อยากให้แฟนๆ ไปคอนเสิร์ตในวันพรุ่งนี้กันเยอะๆ ไม่อยากให้ความทรงจำในคอนเสิร์ตหายไปในระยะเวลาสั้น อยากจะให้ทุกคนมีความทรงจำที่ดีนะครับ ยังไงพวกเราก็จะพยายามมาเมืองไทยให้บ่อยๆ นะครับ"
หลังจากนั้นหนุ่มๆ เอฟที ไอส์แลนด์ ก็เดินทางมายัง ลานสแควร์ เอ บริเวณลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อร่วมงานแถลงข่าวและร่วมพูดคุยถึงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 3 ของทั้ง 5 หนุ่ม นอกจากนั้นยังเป็นการพบปะทักทายกับเหล่าแฟนเพลงที่มารอต้อนรับ เป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะไปสนุกกันในคอนเสิร์ต ซึ่งพอ เอฟที ไอส์แลนด์ ปรากฏตัวก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสนั่น ก่อนจะแนะนำตัวเป็นภาษาไทยทีละคน
เมื่อถามว่าถ้าพูดถึงประเทศไทยจะคิดถึงอะไร ฮงกี กล่าวเป็นภาษาไทยว่า "ต้มยำกุ้ง" จงฮุน ตอบว่า "ผมนึกถึงคำว่า รักนะจุ๊บๆ (ภาษาไทย) มินฮวานชอบพูดคำนี้ตลอดเลยครับ" ส่วน มินฮวาน บอกว่า "ผมชอบทานปูผัดผงกะหรี่มาก ก็เลยนึกถึงปูผัดผงกะหรี่เป็นอย่างแรกเลยครับ" ด้าน แจจิน ก็พูดว่า "นึกถึงนวดแผนไทยครับ" และ ซึงฮยอน บอกว่า "นึกถึงต้นมะพร้าวที่เมืองไทยครับ"
ฮงกี เผยถึงความแตกต่างของคอนเสิร์ตที่เมืองไทยกับที่อื่นๆ ว่า "ที่เกาหลีก็ได้มีการจัดคอนเสิร์ตไปแล้ว บรรยากาศในคอนเสิร์ตก็น่าจะคล้ายๆ กัน แต่ในแต่ละประเทศแฟนคลับจะชอบเพลงไม่เหมือนกัน เพลงไหนที่แฟนคลับชาวไทยชอบก็จะเอามาใส่ไว้ในคอนเสิร์ตด้วย คิวเพลงก็จะเปลี่ยนไปจะไม่เหมือนกับประเทศอื่น ชุดก็จะมีการเปลี่ยนไปด้วยต้องไปติดตามกันในคอนเสิร์ต อยากให้ทุกคนสนุกกันให้เต็มที่เลยนะครับ" พร้อมบอกถึงสิ่งที่อยากทำในคอนเสิร์ตว่า "จริงๆ แล้วอยากทำหลายอย่างมากเลยครับ อยากให้เป็นคอนเสิร์ตที่เป็นอิสระเลยครับ อยากให้เหมือนกับคอนเสิร์ตร็อกแบนด์ของฝรั่งที่สามารถกระโดดไปหาคนดู ก็อยากที่จะกระโดดไปหาคนดูได้ ถ้าบรรยากาศคึกคักมากก็อยากไปเต้นกับคนดูด้วย อยากเล่นให้เต็มที่ที่สุดครับ"
ฮงกี รับถ้ามีเวลาว่างก็จะคุยกับแฟนคลับเสมอ "เป็นเรื่องจริงครับ ถ้ามีเวลาว่างก็จะเข้าไปในแฟนคาเฟ่หรือว่าทวิตเตอร์คุยกับแฟนคลับ เพราะถ้าไม่มีแฟนคลับก็คงไม่มี เอฟที ไอส์แลนด์ ถ้าไม่มี เอฟที ไอส์แอนล์ ก็คงไม่มีทุกคน อยากให้ทั้ง เอฟที ไอส์แลนด์ และชาวพรีมาดอนน่าเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมคิดว่าการที่เราสื่อสารกันทางอินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องที่สำคัญมากเหมือนกันครับ"
เมื่อถามว่าสมาชิกในวงว่าอยากลองทำอะไรอื่นๆในวงการบันเทิงบ้างไหม จงฮุน บอกว่า "อยากลองแสดงหนังแอ็กชันครับ" มินฮวาน ก็สนใจงานแสดงเหมือนกัน "ถ้ามีโอกาสก็อยากแสดงหนังหรือว่าเล่นละคร ตอนสมัยเรียนผมเป็นเด็กดีมากๆ ก็เลยอยากลองแสดงเป็นเด็กดื้อครับ" ส่วน ฮงกี ขอแซว แจจิน ว่า "ถ้าเป็นบทเด็กดื้อ ผมว่าแจจินน่าจะเล่นได้เก่งกว่านะครับ เพราะว่าเขาเป็นเด็กดื้อมาตั้งแต่เกิดเลยครับ" แจจิน ก็รีบแก้ทันทีว่า "ไม่ใช่นะครับ" ฮงกี ก็แอบเตือนแฟนเพลงว่า "ทุกคนระวังโดนหลอกนะครับ"
ฮงกี เล่าถึงความประทับใจตลอดระยะเวลา 5 ปีว่า "ผมจดจำทุกๆ วินาทีได้ทั้งหมดเลยครับทุกๆ นาทีคือความประทับใจของ เอฟที ไอส์แลนด์ ก่อนหน้าช่วงที่ใกล้ๆ จะครบ 5 ปีก็มีแฟนๆ จากทุกประเทศ อย่าง เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย จะชอบทำโปรเจกต์ให้แล้วไปลงในยูทูบ พวกเราก็ได้ดูแล้ว รู้สึกประทับใจมากๆ ซึ้งมากๆ ด้วย ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนเลยนะครับ" ด้าน จงฮุน ก็พูดความประทับที่เกิดขึ้นในเมืองไทยว่า "มีเรื่องนึงที่ผมจำได้และประทับใจมากก็คือตอน 4 ปีที่แล้วที่พวกเรามาเมืองไทยแล้วก็ได้มาเล่นน้ำสงกรานต์กับทุกๆ คน ตอนนั้นรู้สึกสนุกมากๆ เลยครับ" จนทำให้ ฮงกี เกิดแรงบันดาลใจอยากเล่นน้ำในคอนเสิร์ตขึ้นมาทันที "อยากลองเล่นสงกรานต์ในคอนเสิร์ต น่าจะสนุกนะครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ทุกคนอย่าลืมเอาปืนฉีดน้ำมาด้วยนะครับ จะได้มาเล่นน้ำในคอนเสิร์ตด้วยกันนะครับ"
แจจิน บอกถึงประเทศที่อยากจะไปแสดงคอนเสิร์ตว่า "อยากไปประเทศอังกฤษ บราซิล สเปน อาร์เจนตินาด้วยครับ" ฮงกี ก็ไม่วายที่จะเอ่ยแซว แจจิน "ที่แจจินอยากไปบราซิลก็เพราะว่าที่นั่นมีสเปกสาวๆ ที่แจจินชอบเยอะมากเลยครับ" แจจิน เลยตอบกลับ ฮงกี ไปว่า "ไม่อยากให้ฮงกีพูดโม้อย่างนี้อีกแล้ว เพราะว่าไม่ใช่เรื่องจริงเลยครับ"
ก่อนจะลากันไป หนุ่มๆ ยังทิ้งท้ายด้วยประโยคภาษาไทยที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ เริ่มที่ ฮงกี พูดว่า "ต้มยำกุ้ง รักนะ ไอ เลิฟ ยู มาเล่นกันเถอะ เอาอีกๆ เอาเยอะๆ" ซึงฮยอน กล่าวด้วยประโยคติดปากว่า "ไม่ได้เจอกันนานนะครับ" แจจิน บอกกับแฟนๆ ว่า "เจอกันพรุ่งนี้" ส่วน มินฮวาน ก็มาพร้อมกับท่าทางน่ารักเมื่อโดนเพื่อนๆ คอยยุให้พูด "รักนะจุ๊บๆ บริ๊งๆ" และสุดท้ายที่ จงฮุน กล่าวว่า "คุณสวยมาก"
มาถึงความมันของคอนเสิร์ต 2012 FTIsland Concert Play! FTIsland in Bangkok ในวันที่ 9 มิถุนายน 2555 เริ่มต้นเมื่อห้าหนุ่มเดินออกมาประจำที่ พร้อมกับโน้ตแรกของเพลง "Hello Hello" ต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุดอารมณ์ด้วย "I'll Get You" และ "Bad Woman" หลังจากหวดเครื่องดนตรีเต็มๆ ไป 3 เพลงรวด หนุ่มๆ ได้มาแนะนำตัวเป็นภาษาไทยกันอย่างน่ารัก โดยเฉพาะ ซึงฮยอน มาพร้อมประโยคเด็ด "ไม่เจอกันนานนะครับ ผมรักคุณ"
มาต่อกันที่ขบวนเพลงสนุกสุดคึกคัก ตั้งแต่ "I Hope" "Bing Bing Bing" "The Cool VS The Pretty" แล้วเข้าสู่ช่วงร็อกกับฉบับภาษาอังกฤษของซิงเกิลญี่ปุ่น "Neverland" "Satisfaction" "I Want (Hope)" และ "Flower Rock" ที่เป็นช่วงแสดงฝีมือลีดกีตาร์ขั้นเทพของ จงฮุน บวกการหวดกลองอย่างเมามันของ มินฮวาน
หลังจากพักหายใจสักนิดด้วยวีทีอาร์ที่แสดงให้เห็นความน่ารักน่าหยิกของแต่ละคน ห้าหนุ่มตัวเป็นๆ ก็กลับออกมาอีกครั้งในชุดลำลองสบายๆ นั่งเรียงแถวหน้ากระดานร้องเพลงละลายใจอย่าง "Always Be Mine" ตามด้วย "We Hope to Become Lovers" ที่แสดงการร้องของหนุ่มๆ ทั้ง 5 คน และเพลงนี้เองที่เหล่าพรีมาดอนน่าพร้อมใจกันชูกระดาษรูปหัวใจสีแดงบนพื้นเหลืองสวยพรึ่บไปทั้งฮอลล์ แถมมีการพับจรวดกระดาษพุ่งขึ้นไปบนเวทีแบบเบาๆ ด้วย ทำเอาหนุ่มๆ ยิ้มแป้นและเอ่ยคำว่า "ขอบคุณครับ"
เชื่อมต่อความหวานกับเพลงถัดมา "I Confess" ที่พวกเขาแต่งขึ้นเพื่อบอกรักแฟนๆ โดยเฉพาะ จบเพลง แจจิน พยายามพูดภาษาไทยประโยคปราบเซียนว่า "ทุกคนเข้าใจความจริงใจของเราไหมครับ" ซึ่งพรีมาดอนน่าส่งเสียงกรี๊ดแทนคำตอบว่าเข้าใจแน่นอน แล้วหนุ่มๆ ชวนลุยต่อกับเพลง "That Person in Shinsadog" "I'll Love Everything" "Don Quixote's Song" และ "Troublemaker"
ปิดท้ายด้วย "Primadonna" เพลงที่ตั้งชื่อตามชื่อเรียกแฟนคลับของพวกเขา แน่นอนว่าเพลงนี้ต้องไม่ธรรมดา ตามที่ ฮงกี ออกปากไว้ในงานแถลงข่าวว่าถ้าเป็นไปได้พวกเขาอยากจะนำปืนฉีดน้ำมาเล่นกับแฟนๆ ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย แฟนๆ ในโซนบัตรยืน 4,500 บาทจึงชุ่มฉ่ำจากการฉีดน้ำของ ฮงกี ซึ่งวิ่งซนไปทั่วเวทีสนุกสนานกันถ้วนหน้า
จะลาไปแบบนี้มีหรือที่แฟนๆ จะยอมกลับบ้านกันง่ายๆ เมื่อเสียงเรียกดังกระหึ่ม ทั้ง 5 สมาชิกจึงก็กลับออกมาในชุดลำลองเสื้อยืดขาวกางเกงสีดำ ก่อนจะร้องเพลง "Severely" ให้ได้ตะลึงกับน้ำเสียงและทักษะการร้องของ ฮงกี จากนั้นเปลี่ยนอารมณ์เป็นเพลงสนุกๆ "Love Love Love"
ถึงเวลาอำลาของจริงด้วยเพลงเอกซึ่งขาดไม่ได้อย่าง "Like Birds" ที่ ฮงกี และเพื่อนๆ สมาชิก เอฟที ไอส์แลนด์ คว้าปืนฉีดน้ำออกมาไล่ยิงกระหน่ำใส่แฟนๆ อีกครั้ง จากนั้นก็พากันออกมาตั้งแถวที่ปลายเวทีด้านหน้าเพื่อโค้งขอบคุณ พร้อมด้วยประโยคภาษาไทยซึ้งๆ "ผมจะไม่ลืมวันนี้ครับ" แถมด้วยประโยคเด็ดก่อนลาเวทีของนักร้องนำขี้เล่น "Will you marry me?" พร้อมยื่นกุหลาบสีเหลืองส่งคืนให้กับผู้ชม เรียกเสียงกรี๊ดถล่มทลายปิดท้ายคอนเสิร์ตในครั้งนี้