นักล่าฝันประชันบทบาทเต็มที่ใน ทรู เอเอฟ 7 เดอะ โชว์เคส

เหล่านักล่าฝันจากเวที ทรู เอเอฟ 7 เอาใจแฟนคลับกันอย่างต่อเนื่อง กับคอนเสิร์ตครั้งแรกของพวกเขาหลังจากจบการแข่งขันที่มีชื่อว่า "ทรู เอเอฟ 7 เดอะ โชว์เคส" (True AF7 The Showcase) ซึ่งสร้างความสนุกสนานกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เหล่าสมาชิกจากฤดูกาลนี้รวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้ง "ปอ - อรรณพ ทองบริสุทธิ์" "ต้น - ณัฐวัตร ดีวงกิจ" "บอส - ธนบัตร งามกมลชัย" "น้ำแข็ง - ชญาน์ทัต อยู่เป็นแก้ว" "นิว - คนธนันท์ รัตนชาติวงศ์" "เกรป - สุดารัตน์ เผ่าปฏิมากร" "ปั๋ม - ปวรรัตน์ กิตติมงคลเลิศ" "เบน - เบนจามิน วาร์นี" "นัตตี้ - ณัชภัสร์ พิพัฒน์ไชยศิริ" "ผ้าแพร - ธรัญญ่า มโนลีหกุล" "กรีน - จิรพัฒน์ ศิริไชย" และ "มีน - กาญจ์คนึง เนตรสีทอง"

โดย ปอ ได้เป็นตัวแทนให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกก่อนที่จะเริ่มคอนเสิร์ตครั้งนี้ของพวกเขากันด้วย "ดีใจมากๆ เลยครับ เป็นครั้งแรกในฐานะที่เป็นศิลปินที่เราออกจากบ้านมาแล้วครับ ก็ได้มีคอนเสิร์ตของพวกเราทั้ง 12 คน คือเหมือนได้กลับมาทำงานร่วมกัน แล้วก็มีผลงานเป็นซิงเกิลแรกของพวกเรานะครับ แล้วก็มารวมเป็นอัลบั้ม"

ปอ กล่าวว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะเป็นเหมือนกับคอนเสิร์ตเพื่อขอบคุณแฟนๆ ที่สนับสนุนพวกเขา "มันเหมือนการขอบคุณน่ะครับ คนที่เป็นกำลังใจให้พวกเรามาครับ ก็เป็นการร้องเพลงแล้วก็เล่าเรื่อง แล้วก็มีโชว์ขอบคุณทุกๆ คนครับที่เป็นกำลังใจให้พวกเรา" ส่วนที่ว่าแตกต่างจากคอนเสิร์ตเมื่อครั้งอยู่ในบ้านอย่างไรบ้างนั้น ปอ ตอบว่า "มันก็รู้สึกแตกต่างนะครับ เพราะตอนนี้เหมือนไม่ต้องกดดันครับ ก็คือร้องไปเหมือนที่ใจเราอยากทำให้คนดูอ่ะครับ"

จากนั้นช่วงค่ำคอนเสิร์ตก็ได้เริ่มขึ้น โดยนักล่าฝัน เอเอฟ 7 เปิดตัวมาด้วยเพลง "อคาเดมี แฟนเทเชีย" เป็นเพลงแรก ถัดมาเป็นซิงเกิลแรกในชีวิตของแต่ละคน เริ่มด้วยหนุ่มเซอร์ น้ำแข็ง มาพร้อมกับกีตาร์ในเพลง "ไม่มีใคร...ดีกว่า" ต่อด้วยเพลง "เรื่องน่าอาย" จากหนุ่ม กรีน ถัดมากับสาว นิว ในเพลงน่ารักๆ "พูดไม่ออก" และหนุ่ม เบน กับเพลง "ใกล้ชิด คิดไกล"

ต่อกันกับอีกสาวๆ เริ่มจาก ปั๋ม ในเพลงเศร้า "ใจเธอให้เขา ใจฉันให้เธอ" ก่อนส่งเวทีต่อให้กับ เกรป กับเพลงซึ้ง "ขอบคุณที่ทิ้งกัน" ถัดมาเป็นคราวของ มีน มาในเพลงช้าเช่นเดียวกันกับ "ลืมร้องไห้" และปรับอารมณ์ด้วยเพลงชวนขยับของสาว ผ้าแพร ในเพลงที่มีชื่อว่า "รู้จักแล้วทิ้ง"

ต่อจากนั้นนางฟ้ารับเชิญ "ปอง - สิริเนตร ทำประโยชน์" ขอส่งมอบความสนุกกันในแบบเรื่องราวของละครสอดแทรกด้วยบทเพลง ซึ่งมีถึง 4 เรื่องด้วยกัน โดยเรื่องแรกมาในชื่อเรื่อง เจ้าพ่อเซี้ยงไฮ้ กับเรื่องราวของ จางเจิ้น (ต้น) ชายหนุ่มเจ้าของกิจการเรือสำเภาผู้เป็นโรคสตรีอักเสบ ที่เมื่อต้องตัวหญิงสาวใดก็จะเป็นลมในทันที เพื่อนๆ จึงพาไปโรงน้ำชาเพื่อหวังให้ จางเจิ้น คุ้นเคยกับผู้หญิง

ที่โรงน้ำชามีผู้ดูแล ได้แก่ มาม่าซัง (ผ้าแพร) ที่ ณ โอกาสนี้ก็ได้ร้องเพลง "รู้จักแล้วทิ้ง" เหน็บแนมหนุ่มๆ ที่ไม่รักจริง เห็นจะมีก็แต่ เจ้าพ่อติงลี่ (กรีน) ที่รักและจะรับ เพ่ยเพ่ย (ปั๋ม) สาวโรงน้ำชาไปแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เมื่อถึงเวลาที่ เจ้าพ่อติงลี่ มารับเจ้าสาวในอนาคตของเขา มาม่าซัง ก็เรียก เพ่ยเพ่ย ออกมา ซึ่งสาวเจ้าก็ได้ปรากฏตัวมาพร้อมกับเพลง "ไม่ใช่ใครก็ได้" เมื่อ จางเจิ้น ได้เห็นหน้า เพ่ยเพ่ย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคือ อี้เฟย หญิงสาวที่รักเมื่อสมัยตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่สามารถแตะต้องตัวของเขาได้

จางเจิ้น มอบเพลง "คนที่ไม่ต้องรอ" ให้กับ เพ่ยเพ่ย จากนั้นทั้งสองได้ปรับความเข้าใจในเรื่องที่เธอต้องมาทำงานที่โรงน้ำชา เจ้าพ่อติงลี่ เห็นดังนั้นก็ไม่พอใจหมายจะฆ่า จางเจิ้น แต่ เพ่ยเพ่ย เข้ามาขวาง ทั้งสองพร้อมจะตายไปด้วยกัน เจ้าพ่อติงลี่ รู้สึกเสียใจกับภาพตรงหน้า จึงได้ยิงแขนตัวเองแทน เป็นเครื่องเตือนใจในรักที่ผิดหวังครั้งนี้ จากนั้นทั้ง เพ่ยเพ่ย และ จางเจิ้น ก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

เรื่องราวต่อมา มาในท้องเรื่อง ลูกทุ่งเกาหลี ของ คล้อย (บอส) หนุ่มบ้านนอกที่มีใจรักเกาหลี มีน้องสาวชื่อ ดาวเรือง (นัตตี้) เด็กสาวผู้นำหุ่นไล่กามาเป็นตัวแทนของ วอนบิน (Won Bin) ทั้งสองกำลังใช้ชีวิตท่ามกลางทุ่งนา โดยหนุ่ม คล้อย กำลังเกี่ยวข้าวในจังหวะเพลง "Sorry Sorry" ส่วน ดาวเรือง กำลังซาบซึ้งไปกับนิยายเกาหลีที่นางเอกป่วยเป็นโรคลูคิเมีย

เมื่อคุณพ่อและคุณแม่ของทั้งสองอย่าง "ไก่ - สมพล ปิยะพงษ์สิริ" และ "ตุ๊ยตุ่ย - พุทธชาติ พงศ์สุชาติ" เห็นดังนั้นก็ไม่พอใจ เพราะอยากให้ลูกของตนเองชอบลูกทุ่งมากกว่า อีกทั้งยังอยากให้ คล้อย ได้แต่งงานกับลูกสาวของคณะลูกทุ่ง ยอดแพร้วแก้วสมร อย่าง สุดใจ (นิว) อีกด้วย แต่ถึงแม้ คล้อย จะไม่อยากแต่ง แต่ท้ายสุดแล้วก็ยอม เพราะเห็นว่า สุดใจ มีความคล้ายกับนางเอกเกาหลี จอนจีฮยอน (Jeon Ji Hyeon) ส่วน ดาวเรือง ก็บอกถึงความรู้สึกของตัวเองเมื่อมีความรักผ่านเพลง "แปลกๆ" พร้อมทั้งเต้นรำไปกับหุ่นไล่กา วอนบิน ด้วย

การแต่งงานอยู่ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า คล้อย ไม่ต้องสืบทอดคณะลูกทุ่ง ซึ่ง สุดใจ ก็รับปาก และจัดขบวนขันหมากมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน สุดใจ ได้ลองอ่านนิยายเกาหลีตามที่ คล้อย แนะนำและบอกว่านางเอกในเรื่องมักจะตายด้วยโรคลูคิเมีย สุดใจ ได้ยินดังนั้นจึงวางแผนแกล้งเป็นลูคิเมีย เพื่อหวังให้ คล้อย ได้เต้นเป็นหางเครื่องให้ดูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ซึ่ง คล้อย ก็ได้ร้องเพลง "Lovely Boss" และเต้นหางเครื่องในเพลง "เขมรไล่ควาย" ตามที่ สุดใจ ร้องขอ

เมื่อ คล้อย ได้ลองเต้นในเพลงลูกทุ่ง ก็พบว่าสนุกไม่แพ้กับเพลงเกาหลี แต่ต่อมาความจริงก็เปิดเผยว่า สุดใจ ไม่ได้เป็นโรคอย่างที่บอกกับ คล้อย และสามารถเต้นเพลง "เขมรไล่ควาย" ได้ เมื่อ คล้อย รู้เรื่องก็บอกว่าอันที่จริงถ้าเป็นแบบนิยายเกาหลีพระเอกต้องโกรธมาก แต่ตนเองไม่โกรธ เพราะแค่ สุดใจ ไม่ต้องตายก็ดีใจแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ดีใจมาก แต่ก็อดห่วง ดาวเรือง ที่ยังชอบ วอนบิน แต่สาว ดาวเรือง ก็บอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะเจ้าตัวชอบคนใหม่แล้วซึ่งก็คือหนุ่มลูกทุ่ง อ๊อฟ - ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ นั่นเอง

ถัดมากับเรื่องราวดังเทพนิยายของ ซินเดอเรลล่า ภาคพิสดารที่ เจ้าชาย (ปอ) ดูจะไม่ค่อยเต็มเต็งได้มาแต่งงานกับ ซินเดอเรลล่า (เกรป) สุดสวย ทั้งสองกำลังจะเข้าเรือนหอเพื่อผลิตหลานให้กับพระราชา (ไก่) แต่แล้วก็ต้องมาพบกับเจ้าหญิงนิทรา ออโรร่า (มีน) นอนสลบสไลอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงเดียวกัน เจ้าชายเพิ่งทราบจาก ซินเดอเรลล่า ว่าการจุมพิตเพื่อให้เจ้าหญิงนิทราฟื้นนั้นที่แท้คือการจูบปากเจ้าชาย จึงได้จุมพิต ออโรร่า แล้วเธอก็ฟื้นขึ้นมา

เรื่องราวเหมือนจะดูสวยงาม แต่ก็กลับวุ่นวาย เมื่อเจ้าชายจะต้องเลือกสาวสวยนางใดนางหนึ่งเพื่อเป็นเจ้าหญิง และผลิตหลานให้กับพระราชา โดยการตัดสินว่าใครจะเป็นเจ้าหญิงนั้น จะมาจากของขวัญที่ทั้ง ซินเดอเรลล่า และ ออโรร่า เตรียมมา ซึ่งถ้าหากของชิ้นใดถูกใจเจ้าชาย ผู้นั้นก็จะได้รับตำแหน่งเจ้าหญิงไปในที่สุด

ทั้งคู่ต่างห่อตัวเองใส่กล่องของขวัญเพื่อให้เจ้าชายถูกใจ แต่ก็ไม่วายทะเลาะกัน จนเจ้าชายมึนหัวและไม่เลือกใครทั้งนั้น จนกระทั่ง สโนวไวท์ (ตุ๊ยตุ่ย) หญิงสาวผู้นำแอปเปิ้ลมาให้กับ เจ้าชาย ซึ่งเมื่อเจ้าชายได้กินแอปเปิ้ลก็หายจากอาการสติไม่ดี และหลงรัก สโนวไวท์ ก่อนมอบเพลง "แฟนครับ" ให้อีกด้วย ส่วน ซินเดอเรลล่า เมื่อได้กินแอปเปิ้ลเข้าไปก็เลิกชอบ เจ้าชาย และหันไปชอบทหารแทน ด้าน ออโรร่า เมื่อกินแอปเปิ้ลไปแล้วก็หันไปตกลงปลงใจกับ พระราชา นั่นเอง

เรื่องสุดท้ายกับ ชิคาโก้ พิเศษสุดๆ กับการได้รุ่นพี่ เอเอฟ ทั้ง "แอน - ศิริพรรณ นำเจริญสมบัติ" "แท็บบี้ - รฐา โกกิลานนท์" และ "กฤษ - กฤษมงคล ศิลป" โดยเป็นเรื่องราวของ เบนจามิน (เบน) และ ริชาร์ด (น้ำแข็ง) คู่หูนักสืบผู้รับหน้าที่สืบคดีปริศนาที่ว่า ณ โรงละครชิคาโก้ นักเต้นคนใดก็ตามที่ได้รับบทบาทเป็นตัวละคร ร็อกซี่ และ เวลม่า ทั้งสองคนจะต้องฆ่าตัวตาย ซึ่งสองรายล่าสุดอย่าง แอนนี่ (แอน) และ เคธี่ (แท็บบี้) ก็จบชีวิตลงหลังจากได้รับบทนี้เช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ เบนจามิน และ ริชาร์ด จึงต้องปลอมตัวเป็นนักเต้นที่แสนจะเย้ายวน ใส่ลีลาเต็มที่ในเพลง "All That Jazz" จนเจ้าของโรงละครอย่าง โอลิเวอร์ (กฤษ) ติดใจในลีลาและความสวย โดยเฉพาะ เบนจามิน ที่ โอลิเวอร์ ถูกใจมากๆ คืนหนึ่งเมื่อถึงเวลาพักผ่อนของนักเต้น โอลิเวอร์ จึงย่องเข้าไปลวนลาม เบนจามิน แล้วความจริงก็เปิดเผยว่าที่นักเต้นหลายต่อหลายคนฆ่าตัวตายเพราะโดนข่มเหงจิตใจนั่นเอง

ทั้งสองเปิดเผยตัวว่าเป็นนักสืบ รวมไปถึง แอนนี่ และ เคธี่ ที่ไม่ได้เสียชีวิต แต่เป็นแผนของพวกเธอเพื่อที่จะจับผิด โอลิเวอร์ เช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วโรงละครก็ตกเป็นของ เจสสิก้า (ปอง) ผู้ช่วยของ โอลิเวอร์ ส่วนทั้งสองสาว และสองหนุ่มก็ลงเอยกัน เรื่องราวจบลงไปด้วยดี

ก่อนจบคอนเสิร์ต เหล่านักล่าฝัน เอเอฟ 7 ขอทิ้งท้ายด้วย "Play Girl" และเพลงชวนซึ้งอย่าง "ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด" เป็นการส่งท้ายคอนเสิร์ตครั้งแรกหลังออกจากบ้านในครั้งนี้