โก้ ดันศิลปินน้องใหม่ คม มาพร้อมกับอัลบั้ม K.O.M
"โก้ - เศกพล อุ่นสำราญ" หรือ "โก้ มิสเตอร์แซกแมน" ดันรุ่นน้องสุดรัก "คม - นริศ สามพายวรกิจ" ที่มีฝีไม้ลายมือทางด้านดนตรีไม่แพ้ใคร ขึ้นเป็นศิลปินหน้าใหม่ประดับวงการเพลงไทยกับอัลบั้ม "เค.โอ.เอ็ม" (K.O.M) โดยส่งเพลง "ไฟไหม้ฟาง" ออกมาให้ฟังกันภายใต้สังกัดที่ โก้ ปลุกปั้นมากับมืออย่าง ชิลลิน กรู๊ฟ เร็คคอร์ด หวังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในยุทธจักรตลาดเพลงไทย งานนี้ศิลปินหนุ่ม คม ออกปากเปิดเผยถึงอัลบั้มแรกในชีวิตของตัวเองว่า
"ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่าการที่ผมได้มาทำในสิ่งที่ผมรักในครั้งนี้ ก็เนื่องมาจากว่าผมได้มาเจอ พี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม และ พี่โก้ มิสเตอร์แซกแมน ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ตอนนั้นผมเปิดบริษัทจัดงานอีเวนต์ที่ซิดนีย์ และได้เชิญพี่คิ้มและพี่โก้ไปแสดงคอนเสิร์ตที่นั่น ซึ่งคอนเสิร์ตในครั้งนั้นประสบความสำเร็จมาก บัตรขายหมดเกลี้ยงก่อนวันแสดง ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้จัดครั้งที่สอง จึงทำให้ผม พี่คิ้ม และพี่โก้ เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น และวันหนึ่งขณะที่พาพี่ๆ เที่ยวในซิดนีย์ พี่คิ้มก็ถามว่าผมชอบทำอะไร ผมก็เลยตอบไปว่าถ้าถามว่าชอบทำอะไร ผมชอบจัดคอนเสิร์ต แต่ถ้าถามว่าผมรักที่จะทำอะไร ผมรักการร้องเพลง พี่คิ้มเลยบอกว่า งั้นพี่จะให้พี่โก้ช่วยทำเพลงให้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจกลับมาเมืองไทยเพื่อสานฝันของผมให้เป็นจริงครับ
สำหรับอัลบั้มแรกในชีวิตของผมนี้มีชื่อว่า เค.โอ.เอ็ม ครับ โชคดีมากที่พี่โก้ให้โอกาส และอิสระในการคิด ทั้งคอนเซปต์เพลงและแนวทางของอัลบั้ม ผมยังมีโอกาสได้แต่งเนื้อร้องและทำนองเอง ถึง 7 เพลงในอัลบั้มชุดนี้ด้วยครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ทำและไม่เคยคิดว่าจะทำได้เลย แต่พอได้ลองแต่งเนื้อร้องแล้ว ผมก็ค้นพบเลยว่าผมชอบการแต่งเพลงมากๆ เพลงทุกเพลงคือตัวผมจริงๆ และมันก็ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ในช่วงเวลาที่เรากำลังแต่งเลยครับ"
นอกจากจะมีโอกาสแต่งเพลงเองในอัลบั้มนี้แล้ว คม ยังรับหน้าที่เป็นผู้ช่วย โก้ ในอัลบั้มนี้ด้วย "นอกจากนั้นผมก็ยังรับหน้าที่เป็นโค-โปรดิวเซอร์ ที่จะช่วยพี่โก้ดูภาพรวมของอัลบั้มทั้งหมด รวมถึงแนวทางของดนตรีด้วยครับ ที่สำคัญที่สุด ก็ได้พี่โก้มาเป็นโปรดิวเซอร์ใหญ่ให้ครับ พร้อมยังได้รับความร่วมมือจากนักดนตรี และนักแต่งเพลงระดับสุดยอดฝีมือของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นพี่สุรักษ์ สุขเสวี น้องโซ่ (แมนลักษณ์ ทุมกานนท์) จากวงอีทีซี และนักดนตรีจากต่างประเทศอีกหลากหลายท่าน ที่ฝีมือไม่แพ้ใครในโลก มาร่วมงานในอัลบั้มชุดนี้กันอีกด้วยครับ อาทิ คุณแฟรงค์ เฮอร์ก็อต (Frank Herrgott) ที่เป็นคนแต่งทำนองเพลง ว้าเหว่ ของพี่คิ้ม และเป็นมิวสิกไดเร็กเตอร์ให้กับคอนเสิร์ต My Name is Kim อีกด้วยครับ ยอมรับว่าปลื้มมากๆ ครับ ต้องขอขอบคุณทุกคนจริงๆ ครับ ที่สำคัญขอขอบคุณพี่คิ้มที่ให้โอกาสและพี่โก้ที่ดูแล และช่วยสร้างสรรค์อัลบั้มชุดนี้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ครับ"
