Circle การเปลี่ยนแปลงที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิมของ โปเตโต้
หลังจากส่งเพลง "ยื้อ" ตามมาด้วย "รอ" และล่าสุด "ทนพิษบาดแผลไม่ไหว" ให้แฟนๆ ได้ถามไถ่กันมาว่าเมื่อไร "โปเตโต้" (Potato) จะมีอัลบั้มเต็มออกมาสักที ในที่สุดเหล่าสมาชิกอย่าง "ปั๊บ - พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข" (ร้องนำ) "โอม - ปิยวัฒน์ อนุกูล" (เบส) และ "วิน - รัตนพล เก่งเรียน" (กีตาร์) ก็พร้อมแล้วที่จะมาพูดคุยถึงเรื่องราวการทำงานที่เข้มขึ้นในอัลบั้มชุดที่ 5 "เซอร์เคิล" (Circle) ภายใต้การดูแลของค่ายใหม่ จีนี่ เรคคอร์ด พร้อมกับแนะนำสมาชิกใหม่ "กานต์ อ่ำสุพรรณ" (มือกลอง) ให้เราได้รู้จักกัน
แนะนำสมาชิกใหม่
กานต์ "ชื่อ กานต์ อ่ำสุพรรณ ตีกลองครับ"
ไปเจอกับสมาชิกใหม่ได้ยังไง
ปั๊บ "ช่วงนึงที่เรากำลังทัวร์คอนเสิร์ตมือกลองคนเก่า (บ๋อม - สุวาทิน วัฒนวิทู) ต้องพัก เลยต้องหาแบ็กอัปมาเล่นแทน เขารู้จักกับเพื่อนของเพื่อนโปรดิวเซอร์ว่ามีน้องคนนึงเอามาช่วยเล่นก่อนไหม เพราะว่าเราต้องทัวร์อยู่ก็เลยลองออดิชันดู ก็เลยเลือกเลยมาเล่นเป็นแบ็กอัปไปเรื่อยๆ พอเล่นไปเล่นมาแล้วตอนนั้นเรากำลังทำอัลบั้มกันก็เลยชวนมาอยู่วงเราเลยแล้วกัน"
มีตั้งคุณสมบัติไว้ไหมว่าคนใหม่จะต้องเป็นยังไง
วิน "ก็มีบ้างนิดหน่อย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเล่นว่าเข้ากันไหม นิสัยก็เกี่ยว ต้องเป็นคนที่คุยแล้วเข้าใจ"
โอม "แต่นี่มาคนเดียว คนแรกก็อยู่เลย"
ปั๊บ "เวลาเราซ้อมดนตรีกัน เหมือนว่าเราต้องคุยกันด้วยภาษาดนตรี สื่อสารกันด้วยการเล่น แล้วพอดีน้องเขาสื่อสารออกมาแล้วเรารู้สึกได้แล้วโอเค ก็เลยอยู่กันมาได้ยาวเลย พอจะทำอัลบั้มใหม่ก็ต้องเป็นวง ดนตรีทุกชิ้นก็ต้องมีวิญญาณของมัน กลอง เบส กีตาร์ก็ต้องมี จะต้องออกมาจากเขาเองจริงๆ เวลาเราคิดเพลง"
กานต์ เคยมีประสบการณ์ทางดนตรีอะไรมาบ้าง
กานต์ "เคยทำกับพี่ๆ เขาอัลบั้ม Refresh ผมเป็นคนอัดกลอง ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นนักดนตรีอาชีพ"
เคยมอง โปเตโต้ ว่ายังไงบ้าง ในฐานะคนนอกที่ยังไม่ได้เข้ามาในวง
กานต์ "อันนี้ที่มองเองว่าวงพี่เขาอัลบั้มจะมีการเปลี่ยนแปลงดนตรีทุกอัลบั้ม ก็ดีครับ หลังมาร่วมงานกันก็ดี เพราะว่าเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะ แล้วเวลาคุยก็คุยกันรู้เรื่อง"
กดดันไหมในฐานะสมาชิกใหม่
กานต์ "ตอนแรกก็กดดัน เหมือนพี่เขาเป็นวงที่ประสบความสำเร็จมาก่อนอยู่แล้ว แล้วผมมาครั้งแรกเลยก็เลยรู้สึกกดดันมาก ตอนนี้ไม่ค่อยมีแล้ว ผมอยากจะพิสูจน์ผลงานเราเอง ก็มีทั้งกลุ่มคนที่รับเราได้กับรับไม่ได้ เราก็อยากให้กลุ่มคนที่รับไม่ได้ดูที่ฝีมือดีกว่าอย่าไปยึดติด คือผมเป็นคนที่ชอบเล่นอินเตอร์เน็ตแต่เดี๋ยวนี้ไม่จับแล้ว ช่วงแรกๆ ก็จะมีบอกว่าอ้วนก็อ้วน หล่อก็ไม่หล่อ ตีก็ไม่เก่ง นิสัยก็ไม่ดี รู้นิสัยผมอีก (หัวเราะ) เหมือนจี้จุดมากกว่า แต่ตอนนี้กระแสตอบรับเริ่มดีขึ้น ก็เลยไม่ค่อยกดดันเท่าไร"
ปั๊บ "เราก็ให้กำลังใจเขาด้วย ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลง ต้องมีทั้งคนที่แฮปปี้และคนที่ไม่แฮปปี้ แต่จุดประสงค์หลักของการทำเพลง ก็คือทำให้คนฟังจริงๆ อยากทำให้เพลงออกมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเราก็ให้กำลังใจกัน ก็ต้องบอกอย่างที่เขาบอกว่าให้มาพิสูจน์ที่ผลงานแล้วกัน ผมเชื่อว่าเขาก็ทำได้ดี"
ยังได้ติดต่อกับ บ๋อม อยู่บ้างไหม
กานต์ "ผมก็ยังคุยกับพี่เขาอยู่ ขอคำแนะนำจากพี่เขาเรื่องดนตรี"
ปั๊บ "รู้ว่าเขาไปเล่นกับวงอินดี้ จริงๆ ก็เหมือนกับเราแยกกันทำงานมากกว่า โดยพื้นฐานมนุษย์ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เหมือนเดิม บ๋อมเขาก็ดียังมาแนะนำกานต์ด้วย อย่าเครียดนะเดี๋ยวคนก็เข้าใจ"
การทำงานในอัลบั้มนี้เป็นยังไงบ้าง
วิน "เดิมกับกานต์ก็เล่นด้วยกันมาเกือบปีแล้ว ก็รู้จักกันดีพอสมควรว่าใครเล่นเป็นยังไง พอเริ่มทำเพลงก็มาเริ่มคุยกันว่าอยากใช้การทำงานแบบระบบเบรนสตอม ใครมีไอเดียอะไรก็ใส่ลงมาเลย แล้วมาคัดกันอีกทีว่าอันไหนดีไม่ดี กานต์มีอะไรไหมเสนอได้เลย เป็นเรื่องของการเบรนสตอมมากกว่า หลังจากนั้นก็จะเข้ากันเอง"
ปั๊บ "เราค่อนข้างเปิดใจพอสมควร ไม่ได้มองว่าการเบรกเป็นเรื่องที่ทำให้แบบทำไมไม่เอา เราต้องเข้าใจกันก่อนว่าเราทำเพลง เราทำให้คนฟัง แต่จะทำยังไงให้จุดประสงค์เราเข้าไปอยู่ในนั้นได้ คือไม่ได้สักจะเล่นในสิ่งที่เราคิดอย่างเดียว อยากให้ออกมาจากทุกคนไม่ใช่แค่ใครคนใดคนหนึ่ง"
แนวเพลงในอัลบั้มมีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง
ปั๊บ "ก็มีความเปลี่ยนแปลงบ้าง อันดับแรกก็คงจะเป็นเรื่องของดนตรีเข้มข้นมากขึ้น เพราะว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงสมาชิก เราต้องการดึงคาแรกเตอร์ของแต่ละคนออกมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์ เบส กลอง เวลาเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีจุดที่ทำให้อารมณ์เพลงเปลี่ยนไป ส่วนเรื่องเนื้อหาก็คงต้องโตขึ้นตามวัย อย่างคอนเซปต์ เซอร์เคิล ก็จะเป็นเรื่องราวที่เราเจอกันมาตลอด 7-8 ปี สุดท้ายเรามาสรุปได้ว่าถึงแม้ว่าเราจะเจอเรื่องทุกข์ แต่เราก็รู้ว่าเดี๋ยวเรื่องสุขก็จะตามมา เวลาเราสุขก็อย่าไปสุขมาก เพราะเราก็ต้องเตรียมรับความทุกข์ที่กำลังจะตามมาด้วย เนื้อหาในอัลบั้มนี้จะก็มีมุมมองที่กว้างขึ้น มองเห็นอะไรที่ชัดขึ้น"
ดนตรีมีการเปลี่ยนแปลงไหม
วิน "ก็หนักขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นเพราะอยู่กับจีนี่ เป็นเพราะว่าทางของวงเราเป็นอย่างนี้อยู่แล้วก่อนที่จะอยู่กับจีนี่ พอดนตรีเราเปลี่ยน เราถึงรู้สึกว่าจีนี่กับเราน่าจะไปด้วยกันได้"
โอม "อีกอย่างเราเปลี่ยนมือกลองด้วยครับ เราต้องเปลี่ยนปรับกันไป เพราะว่ากานต์เขาเล่นหนักมาก่อน เขาชอบพวกเมทัล"
ปั๊บ "อย่างเพลงแรกเพลงยื้อ ก็ต้องยอมรับเลยว่าเหนือความคาดหมายของพวกเรา พวกเราไม่ได้คิดว่าจะต้องมีว้าก ตอนแรกที่ดนตรีขึ้นเราก็รู้สึกว่าเป็นเพลงเร็วที่สนุกดี พอเขียนเนื้อเสร็จปุ๊บ จะมีท่อนอยู่ท่อนนึงที่ต้องเล่นพร้อมกัน เราก็เลยจะเติมส่วนตรงนั้นว่าจะเติมอะไรลงไป ลองกีตาร์ ซาวน์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ก็ไม่ได้ ลึกๆ ผมเชื่อว่าได้ยินเสียงคนมาตะโกน แต่ว่าต้องไม่ใช่ผม โดยเนื้อหาผมเป็นคนพูดถึงเรื่องนี้ จะต้องมีใครสักคนมาบอก ก็เลยเลือกเป็นเต๋า (ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล) ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ คนก็เลยอาจจะตกใจว่า เอ๊ะ ว้ากเองรึเปล่า ทำไมเปลี่ยนแนว คือเพลงไม่มีอะไรที่ตายตัว มันคือศิลปะ ผมรู้สึกว่าถ้าเราผสมอะไรด้วยความบริสุทธิ์ใจเชื่อว่าคนต้องรับได้"
ความแปลกใหม่ในอัลบั้มชุดนี้
วิน "ชุดนี้ดนตรีแตกต่างตั้งแต่การคิดแล้วครับ ตัวผมเองก็หาเรฟเฟอร์เรนซ์ที่แตกต่างจากชุดเก่าๆ เหมือนว่าเรามาทำกันเต็มตัวกันมากขึ้น ไอเดียดนตรีก็จะเป็นโปเตโต้ แต่ว่าจะมีส่วนผสมของดนตรีอื่นเข้ามาด้วยอย่างที่หลายๆ คนรู้สึกว่ามันเปลี่ยนไป ในเรื่องของซาวนด์ก็จะมีซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเพิ่ม"
ความกดดันที่ต้องย้ายมาอยู่กับ จีนี่ เรคคอร์ด
ปั๊บ "ก็เล็กน้อย ทุกครั้งที่โปเตโต้ออกอัลบั้ม เราจะคิดว่าเรานับหนึ่งใหม่ เราไม่ได้มองว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรมาบ้าง คิดว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่เราต้องทำ เพราะฉะนั้นทุกอัลบั้มก็จะมีความแตกต่างออกมา อย่างอัลบั้มนี้เราก็รู้สึกว่าเราได้ย้ายบ้าน เราก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่พวกเราตื่นเต้น เราก็เลยทำเต็มที่ไม่ได้มีอะไรกดดัน"
วิน "พวกเราก็รู้ตัวเราดีว่าพอเราโตขึ้น เราก็เริ่มทำในสิ่งที่เราอยากจะทำมากขึ้น พอเราทำดนตรีอย่างนี้ออกมา เราก็อยากให้เขารู้สึกใช่เหมือนกับเรา เขาไม่ได้มากดดันอะไรเราเลย ปล่อยให้เราทำงานอิสระมาก"
ปั๊บ "อยากให้ฟังอัลบั้มมากๆ "
โอม "เรายังเป็นเหมือนเดิม เป็นโปเตโต้เหมือนเดิมคนเดิมอยู่ การวางเพลงยังคล้ายๆ เดิมอยู่"
ปั๊บ "เรายังเป็นป๊อปร็อกเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าความเข้มข้นเพิ่มขึ้น เมโลดี เนื้อหา ยังเพราะอยู่"
วิน "ส่วนเรื่องดนตรีเป็นความพอดีระหว่างตัวตนของเรากับคนฟังที่เขาอยากจะฟัง นี่แหละคือตัวตนของพวกเราและส่วนที่ผมเชื่อว่าคนฟังเขาจะรับได้"
ปั๊บ "ทีมเพลงก็ยังเป็นทีมเดิม พี่ฟองเบียร์ (ปฏิเวช อุทัยเฉลิม) ก็ดูแลเหมือนเดิม อัลบั้มนี้โดยเนื้อเพลงก็จะมาจากเราทั้งหมด มีการบอกเล่าคอนเซปต์ มีการบอกเล่าเรื่องราวว่าเราไปเจออะไรมา เหมือนเราขนกระเป๋าแล้วก็ย้ายชั้นเท่านั้นเอง"
วิน "เราทำงานอยู่กับปัจจุบัน ที่ผ่านมาเราไม่ได้ไปยึดติดว่าเราเป็นโปเตโต้แบบนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็ต้องเป็นแบบนี้สิ เราเชื่อว่าเราเป็นคนยังไง เราก็ยังเป็นคนแบบนั้นอยู่ เรายังเป็นโปเตโต้เหมือนเดิม แต่เราเอาประสบการณ์ที่เราเจอมาเอามาใส่เพิ่มเข้าไปให้เข้มข้นมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อร้อง ดนตรี ก็เลยเกิดเป็นสิ่งใหม่ขึ้นมาแต่ก็ยังเป็นเรา"
พูดถึงเพลง ทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ปั๊บ "เรารู้สึกว่าเพื่อนๆ น่าจะอยากได้ยินเพลงช้าสไตล์เราบ้างในกลิ่นใหม่ๆ ผมว่าเพลงนี้มันเจ๋งดี ตอนที่เราทำเราก็รู้สึกแบบนั้นว่าคนน่าจะชอบกัน เป็นเพลงช้าปกติ แต่ในมุมมองของพวกเรารู้สึกว่าเพลงนี้มีจุดหักมุมจุดนึง ถึงแม้ว่าจะฟูมฟายตะโกนร้องไห้ยังไง สุดท้ายก็ต้องกลับมาแคร์หัวใจตัวเอง คือจุดที่เราชอบในเพลงนี้ ในความผิดหวังก็ยังมีความสว่าง มีความหวังให้กับเรา"
แล้วเพลง รอ ล่ะ
วิน "เพลงนี้เกิดจากตอนแรก กานต์เขาคิดกลองมาก่อน ผมได้ยินแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ ผมก็เลยใส่คอร์ดอารมณ์เพลง แล้วหลังจากนั้นเราก็ต่อออกมาเป็นเพลงมาทำเนื้อกันทีหลัง"
ปั๊บ "ส่วนใหญ่อัลบั้มนี้เนื้อเพลงจะมาสุดท้าย ดนตรีมาก่อน จะเป็นข้อดีตรงที่ว่าเราสามารถเล่าเรื่องให้ตรงกับดนตรีได้อย่างลงตัว"
อัลบั้มนี้ วิน มีร่วมร้องด้วยไหม
วิน "มีครับ เพลงสิ่งที่ใจต้องการ"
คิดที่จะเป็นนักร้องนำคู่กันบ้างไหม
วิน "ไม่หรอกครับ ส่วนใหญ่อยากจะไปเสริมปั๊บเขามากกว่า คงจะเป็นในเรื่องประสานเสียงมากกว่า ผมเองเล่นกีตาร์ ร้องด้วยคงลำบากพอสมควร คงต้องพึ่งปั๊บให้ปั๊บร้อง"
ปั๊บ "ถึงวันนั้นเราก็อาจจะตกงานได้ จริงๆ วินเป็นคนร้องเพลงเพราะ ตัวปั๊บเองก็ชอบ ก็เลยรู้สึกว่าแทนที่ในอัลบั้มนึงคนจะได้ยินแต่เสียงเรา เราก็อยากให้ได้ยินเสียงวินบ้าง เพราะว่าเสียงเขาก็จะเป็นอีกอารมณ์นึง"
อัลบั้มนี้การร้องของ ปั๊บ มีการปรับเปลี่ยนยังไงบ้าง
ปั๊บ "จะร้องตามอารมณ์ของดนตรี กับทำนองมากกว่า มีเทคนิคบ้างนิดหน่อย ผมพยายามทำให้กลมกลืนกับดนตรี ผมว่าอัลบั้มนี้โดยซาวนด์ เรื่องดนตรี การร้อง ผมว่าค่อนข้างออกมาเป็นก้อนเดียวกันไม่มีอะไรอันนึงโดดออกมา"
กดดันไหมกับอัลบั้มชุดนี้
ปั๊บ "เราไม่ได้ลุ้นกับการประสบความสำเร็จ เราไปลุ้นกับว่าคนเขาจะชอบเพลงเรารึเปล่า ตื่นเต้นทุกครั้งที่เพลงถูกเปิดบนวิทยุ ทุกครั้งที่ออกอัลบั้มก็เหมือนนับหนึ่ง ก็จะตื่นเต้นตลอดเวลา ไม่ได้ไปกดดันอะไรมากทำให้ดีที่สุดครับ"
ฝากอัลบั้ม
กานต์ "ฝากอัลบั้มชุดนี้ไว้ด้วย เพราะว่าเราใส่ใจในรายละเอียดเยอะ ทำกันเอง คิดกันเอง ก็เลยอยากให้ทุกคนลองฟังกันดู"
ปั๊บ "ก็ฝากผลงานอัลบั้มชุดที่ 5 แล้วชื่ออัลบั้มว่า เซอร์เคิล นะครับ อยากให้ฟังเพลง ถ้าเป็นไปได้และมีโอกาสอยากให้ลองฟังกันดู แล้วตัดสินใจว่ามันเป็นยังไง เราตั้งใจทำออกมาจากใจ ผมเชื่อว่าจะสัมผัสได้ว่าเพลงจะมีวิญาญาณของมันอยู่"
วิน "อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ทำงานแปลกกว่าทุกชุด เป็นอัลบั้มที่เหนื่อยแต่ก็สนุก โดยส่วนตัวสนุกมากกับอัลบั้มชุดนี้ อยากให้ลองฟังดู โปเตโต้ในแบบที่เราหาวิธีการใหม่ๆ สีสันใหม่ๆ เข้ามาผสมดู แต่อาจจะต่างจากเดิมไปบ้างนิดหน่อย อยากให้ลองฟังกันดูว่าชอบกันหรือเปล่า"
โอม "ชุดนี้เหนื่อยกันมาก ตั้งใจทำมาก และเป็นตัวเองมากที่สุด ชุดนี้เป็นโปเตโต้มากลองฟังดูครับ"
อัลบั้ม เซอร์เคิล พร้อมให้ทุกคนได้พิสูจน์ฝีมือและสัมผัสความเป็น โปเตโต้ ที่เข้มมากกว่าเดิม ตั้งแต่ 15 ธันวาคม นี้