บิ๊กแอส อัลบั้ม Love กลั่นมาจากความรักและมิตรภาพ

เริ่มต้นจากคำว่ามิตรภาพ จนสั่งสมประสบการณ์อยู่บนถนนสายดนตรีมาถึง 16 ปี ด้วยกัน สำหรับวงร็อกฝีมือดีอย่างวง "บิ๊กแอส" (Big Ass) ซึ่งประกอบด้วย "แด๊กซ์ - เอกรัตน์ วงศ์ฉลาด" (ร้องนำ) "โอ๊ค - พงษ์พันธ์ พลสิทธิ์" (กีตาร์ / ร้องนำ) "อ๊อฟ - พูนศักดิ์ จตุระบุล" (กีตาร์) "หมู - อภิชาติ พรมรักษา" (เบส / ร้องนำ) และ "กบ - ขจรเดช พรมรักษา" (กลอง)

หลังจากออกอัลบั้ม "Begin" เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้พวกเขาก็ได้เวลากลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มชุดที่ 6 ที่ใช้ชื่อเรียบง่ายแต่ได้ใจความว่า "Love" มาพูดคุยกับ บิ๊กแอส ถึงการทำงานในอัลบั้มชุดนี้ รวมไปถึงที่มาของชื่ออัลบั้มและการทำงานร่วมกันอย่างยาวนานของ บิ๊กแอส

ทำไมถึงชื่ออัลบั้มว่า Love

แด็กซ์ "มาจากที่พวกเราคุยกันและรู้สึกกันได้ เพราะว่าการทำแต่ละอัลบั้ม พวกเราจะใช้ความรู้สึกในตอนนั้น เล่าเรื่องตอนนั้น อย่างแรกมาจากคำว่า ความรัก มันช่วยเราแก้ไขได้ทุกอย่าง ความรักเป็นสิ่งที่ดี เรารู้สึกว่าช่วงนี้คนเราไม่ค่อยรักกันเท่าไหร่ ปัจจุบันคนเราต่างคนต่างอยู่ แค่ไม่โกรธ ไม่เกลียดกัน ผมว่ามันไม่พอ อยากจะบอกให้ทุกคนมีความรักให้แก่กันด้วย"

กบ "เราเดินทางมาถึงชุดที่ 6 แล้ว ก็อยากจะเสนอมุมมองที่เรามีต่อสังคม ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ คือตั้งแต่เกิดมา เราไม่เคยเห็นประเทศไทยเป็นแบบนี้ เราเลยมานั่งปรึกษากันว่าเราน่าจะมาทำอะไรที่เราได้ให้อะไรออกไปบ้าง ไม่ได้หวังว่ามันจะเปลี่ยน ทำไม่ได้อยู่แล้ว อย่างเพลง รัก เราคาดหวังให้มีคนได้ยินก็พอ ไม่ได้หวังว่าจะดัง เพลงเนื้อหาแบบนี้ดังยาก แต่โชคดีที่พอเราตัดสินใจทำ ผู้ใหญ่ที่แกรมมี่ก็เข้าใจ งั้นเราก็เดินหน้าเลย ทุกคนเห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะช่วยกันคนละไม้คนละมือ"

อ๊อฟ "ครั้งแรกที่ตัดสินใจปล่อยเพลงรัก ก็คุยกันนานเหมือนกัน เพราะเพลงแรกที่ปล่อยจะสำคัญมากๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกัน เราเคยถูกถามว่าเลือกข้างไหน ซึ่งมันเลือกไม่ได้ เราอยู่ตรงกลาง เราก็เลยอยากบอกอะไรก็ได้ ขอแค่ให้คนรักกัน รักประเทศไทย เลยสรุปว่าเรามาทำเรื่องดีๆ กันดีกว่า ซึ่งเราทำได้แค่เพลง ร้องเพลง เล่นดนตรี อาศัยสื่อที่เรามี เผยแพร่ออกไป ก็น่าจะมีคนสนใจบ้าง เผลอๆ คำว่ารัก อาจจะเป็นคำเดียวก็ได้ที่ทำให้ปัญหาดูง่ายขึ้น เราก็เลยยึดคอนเซปต์ว่าความรักมันแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง"

โอ๊ค "ผมคิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันกระทบกับทุกคนในประเทศไทย อย่างที่บอกว่าเพลงนี้อาจจะไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย แต่อย่างน้อยๆ มันก็อาจจะมีผลกระทบให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นบ้างก็ได้ เราก็ควรจะเริ่มทำจากตัวเราก่อน"

กระแสตอบรับเพลง รัก เป็นอย่างไรบ้าง

กบ "โชคดีที่ติดชาร์ตวิทยุต่างจังหวัด ในกรุงเทพฯ ก็ติด เคยขึ้นถึงอันดับหนึ่ง ล่าสุดเราไปเล่นที่ภูเก็ตมา แล้วเค้าร้องได้หมดเลยครับ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเพลงนี้มันจะถูกร้องเยอะขนาดนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าค่อยๆ ร้องไป มันจะค่อยซึมไปในใจ อย่างประโยคที่ ยังไงก็ช่าง ฉันจะรักเธอต่อไป เราหยุดให้เค้าร้องเลย เพราะเราอยากได้ยินเสียง เราหวังว่าจะมีคนซึมซาบมันบ้าง"

อ๊อฟ "ทุกครั้งที่เรามีเพลงฮิต เวลาไปเล่นแล้วมีคนร้องเราก็ดีใจ แต่ครั้งนี้มันแปลกออกไป คือพอคนเค้าร้อง เรารู้สึกอิ่มใจมากกว่า ผมถือว่าเพลงมันมีผลกับจิตใจคน ดีใจเวลาที่น้องๆ ร้องเพลงเราได้ หวังว่าเค้าจะกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกดีๆ"

ซิงเกิลต่อมาเพลง ส่งท้ายคนเก่าต้อนรับคนใหม่ อยากจะบอกอะไร

กบ "ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่แล้ว ก็ถือเป็นการอวยพรตัวเองด้วย ปีที่ผ่านมาเราก็เจออะไรแย่ๆ มา บางคนอาจเจอเรื่องงานแย่ๆ ครอบครัวแย่ๆ ชีวิตรักแย่ๆ ก็อยากจะให้เพลงนี้เป็นการส่งท้ายคนเก่าที่แย่ๆ ไป แล้วต้อนรับคนใหม่เข้ามา เพลงนี้ก็เป็นเพลงสนุกๆ ในแบบบิ๊กแอสครับ"

เพลงอื่นในอัลบั้มที่แนะนำให้ฟัง

อ๊อฟ "เพลงหัวใจครับ เพลงนี้พอผมได้เห็นเนื้อและฟังทำนองแล้วรู้สึกว่า เพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งทำไมเราต้องชื่ออัลบั้มว่า Love เพลงนี้ต้องให้กบอธิบายครับ เพราะเค้าไปเจอมา"

กบ "ผมมีโอกาสได้ไปเจอเพื่อนๆ ผู้พิการ ซึ่งบางคนมีขาข้างเดียว บางคนไม่มีแขนสักข้าง แล้วคนที่เป็นหัวหน้าสุด ขยับร่างกายไม่ได้เลย ขยับได้แค่คาง มากับรถเข็น และมีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินทางมาจากเพชรบูรณ์ มาคนเดียว ไม่มีขาทั้งสองข้าง ผมเลยรู้ว่าที่เขามาที่นี่ เค้าไม่ได้ใช้ร่างกายมา แต่ใช้หัวใจพามา เลยคิดว่าทำไมเค้าสู้แบบนี้ เค้าขยับได้แค่คาง แต่หน้าเค้ายังยิ้ม มีความสุขตลอดเวลา

เราก็กลับมานั่งนึกถึงตัวเรา ที่บางวันแต่งเพลงไม่ออกก็เครียด ทะเลาะกับแฟน อกหัก บางคนเอ็นต์ไม่ติดก็โดดตึก อยากให้กลับมาดูพี่ๆ เค้าครับ พวกเราครบ 32 ทำไมถึงท้อง่ายจัง อยากให้ลองดูคนอื่นบ้าง พอมาเล่าให้เพื่อนฟัง หมู ทำทำนองขึ้นมา ทุกคนก็ชอบกัน และในช่วงท้ายของเพลงนี้ เป็นครั้งแรกที่พวกเรา 5 คนได้ร้องเพลงร่วมกันครับ"

อ๊อฟ "เพลงมหา'ลัยไม่มีสอน คือเริ่มแรก เพลงนี้อยู่ท้ายๆ อัลบั้ม แต่พอได้อัดในห้องอัดเรียบร้อย ได้ฟังครั้งแรกก็คุยกับกบว่าเพลงนี้ต้องอยู่เพลงแรก เพราะสำหรับผมมันดีมาก ความลงตัวทั้งเนื้อ ทั้งเสียงร้อง มันสมบูรณ์แบบมาก เหมือนจะพาทุกคนไปสู่อัลบั้มนี้ คือดีกรีของดนตรี วิธีร้อง กับเนื้อเพลง ค่อนข้างจะบอกได้เลยว่าอัลบั้มชุดนี้จะเจอประมาณนี้ มันไม่ได้รุนแรง โหดร้าย ผมก็เลยชอบ เลยเลือกให้เพลงนี้เป็นเพลงแรก"

แด๊กซ์ "เนื้อหาเพลงประมาณว่าไม่อยากให้ทุกคนปิดกั้นตัวเอง อยากให้เปิดหัวใจ เปิดความคิด รับสิ่งใหม่ๆ อยากให้ทุกคน ค้นหาตัวเอง ค้นหาประสบการณ์ เปรียบเทียบว่าโลกเราไม่ใช่ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ มันกว้างใหญ่ คุณเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา"

แล้วในส่วนของดนตรี เป็นอย่างไร

กบ "เราก็อยากให้คนรู้ว่ายังเป็นบิ๊กแอสอยู่ แต่มันแปลกอย่างหนึ่ง คือชุดนี้เป็นชุดที่ 6 แต่เหมือนกับเราไปเริ่มงานตอนทำชุด 1 ชุด 2 เรามีความรู้สึกสดใหม่มาก เพราะยุคนั้นเราทำงานแบบไม่มีกรอบอะไรเลย ชุดนี้เราทำกันแบบนั้น ก่อนทำอัลบั้ม เรายังไม่รู้เลยว่าชุดนี้เราจะทำอะไร แต่เรารู้ว่าเราจะไม่ทำอะไร"

อ๊อฟ "ในชุดนี้เราไม่รู้สึกเครียดอะไรเลย สบายๆ ไม่กดดัน เลยรู้สึกว่าเพลงมันควรจะเป็นอย่างนั้นด้วย เพื่อให้มีความแตกต่างกัน ณ ช่วงที่กำลังสรุปกันว่าเราจะทำอะไร เราควรจะรู้ว่าเราจะไม่ทำอะไรบ้าง ก็ค่อยๆ ตัดสิ่งที่เราไม่ทำออก เลยเหลือความเป็นบิ๊กแอสล้วนๆ ทั้ง 10 เพลง เราทำมันอย่างเรียบง่ายมาก บรรทัดฐานก็คือถ้าฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นเพลงบิ๊กแอส นั่นคือใช่แล้ว และน่าจะเป็นอัลบั้มที่ป๊อปที่สุดของบิ๊กแอสด้วยซ้ำไป แต่ว่าถ้าให้พูดเวอร์ๆ ก็คือใช้เวลาในการทำอัลบั้มนี้ถึง 16 ปี เรารู้สึกดีกับมัน เปิดฟังทุกวันเลย ชุดนี้เราเดินเข้าห้องอัดด้วยความรู้สึก มีแค่โครงคร่าวๆ มีคอร์ดนี้ มีเมโลดีแบบนี้ แล้วเราจะไปเพิ่มเติมในห้องอัด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่สบายๆ"

แด๊กซ์ "สิ่งที่เราเพิ่มเติม ที่เราอยากให้มีในเพลง อย่างเพลงรัก เอาเสียงขลุ่ยเข้ามาในดนตรีของบิ๊กแอส ซึ่งเราไม่เคยทำ อย่างตอนแรกที่คิดกันไว้ว่าอาจจะซ่อนๆ อยู่ในเพลง พอได้หมูมาเป่าขลุ่ยให้ ก็รู้สึกว่าอยากให้มาอยู่กับเพลงและจริงจังไปเลย"

16 ปี ของ บิ๊กแอส การทำงานเป็นอย่างไรบ้าง

กบ "ยิ่งนานมันยิ่งยากนะ คนอาจจะมองว่าง่ายแล้ว ทำมาตั้ง 16 ปี แต่การทำเพลงไม่เหมือนกัน ในสมัยนี้นอกจากจะแข่งกับตัวเองแล้ว ยังต้องแข่งกับหลายๆ ด้าน พฤติกรรมของคนฟังเพลงก็เปลี่ยนไป เพลงเปลี่ยนไป ตัวเลือกเยอะขึ้น เราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านตลอด จากยุคคาสเซ็ต มาเป็นยุคซีดี แล้วมาถึงจากยุคซีดี มาเป็นยุคดิจิตอลอีก มันเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาตลอดเวลา เฝ้าดูตลอดเวลาว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น สมัยนี้แต่งเพลงอย่างเดียวไม่พอ เพราะใครๆ ก็แต่งเพลงได้ มันอยู่ที่ว่าเราจะพาเพลงไปสู่คนฟังยังไงมากกว่า"

แด๊กซ์ "ทำงานด้วยกันมา 16 ปี เห็นหน้ากันทุกวันเลยครับ มีเบื่อบ้าง แต่เราคือเพื่อนกัน อยู่กันแบบเพื่อนจริงๆ พื้นฐานแรกคือการเป็นเพื่อนกัน อย่างที่สองคือเราชอบเหมือนๆ กัน คือดนตรีและเพลง ผมว่าแค่สองเหตุผลนี้ก็เหลือเฟือแล้วที่เราก้าว เราเติบโตมาถึงทุกวันนี้ อย่างวันเกิด หน้าแบบนี้แหละครับ มาร้องแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ก็แปลกๆ เขินเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันก็ทำอย่างนี้ลำบาก นี่คือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนครับ"

อ๊อฟ "อีกอย่างที่เราอยู่กันได้มานาน เพราะเราเป็นวงดนตรีธรรมดาๆ วงหนึ่ง เราไม่ได้คาดหวังว่าออกเทปแล้วจะโด่งดัง แต่มันค่อยๆ เป็นสเต็ปไป ตอนนี้มีคนรู้จักเราเยอะแล้ว เราก็เลยทำในสิ่งที่เรามี ให้เกิดประโยชน์บ้าง และการเอาตัวรอดให้ได้กับมรสุมทั้งเรื่องการเมือง เรื่องโลกดิจิตอล มันก็ท้าทายว่าต่อไป โลกมันจะเป็นยังไง เราก็จะอยู่รอ"

อยากให้ บิ๊กแอส ฝากอัลบั้มนี้

แด๊กซ์ "สิ่งที่พวกเราคิดอยู่ และสิ่งที่พวกเราอยากพูดถึง ผมก็ยังยืนยันว่าอยากให้คนเรารักกันมากๆ อยากให้เพิ่มความรัก ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สังคมจะน่าอยู่ขึ้น อีกอย่างหนึ่งคือรอยยิ้ม ตอนนี้ไม่มีให้กันเลย"

อ๊อฟ "เราไปเล่นดนตรีมาทั่วประเทศแล้ว คือทุกครั้งที่ได้เจอคนไทยในจังหวัดต่างๆ พวกเรารู้สึกดีใจมากที่พวกเค้ายิ้มให้กัน คือเค้าจะมีวิธีทักทายในแบบของเค้า ผมไม่รู้ว่าทัวร์อัลบั้มชุดนี้ เวลาไปที่ต่างๆ แล้วความรู้สึกจะเป็นยังไง เรายังอยากให้เป็นเหมือนเดิม ประเทศไทยก็คือประเทศไทย หวังว่าไปเล่นที่ไหนเราก็จะได้รับรอยยิ้ม และเพลงของเราจะช่วยอะไรได้บ้าง"

หมู "สำหรับอัลบั้มชุดนี้ เราก็อยากให้ลองฟังกันดู เพราะในด้านของเรื่องซาวนด์ คือเรามีการเปลี่ยนแปลงจากชุดที่แล้ว ได้ลองอะไรใหม่ๆ และซาวนด์ชุดนี้จะค่อนข้างแปลกออกไป"

กบ "ฝากเพลงรักด้วยครับ เพราะแต่งมาจากใจเลย"

โอ๊ค "ฝากคนไทยให้รักกันครับ และฝากกล่องซีดี เพราะชุดนี้เป็นแพ็กเกจลิมิเต็ดอิดิชั่น ครั้งนี้เรามีงานดีไซน์ปกให้ซับซ้อนขึ้น ก็สวยดีนะครับ"

คนรัก บิ๊กแอส ที่กำลังรอ Love อัลบั้มชุดที่ 6 ของวงร็อกแถวหน้า ก็คอยอีกอึดใจเดียว ใกล้จะวางแผงให้ซื้อหามาเก็บสะสมกันได้ วันที่ 12 ธันวาคม ที่จะถึงนี้