คอนเสิร์ตร่วมกันครั้งแรกของ อำพลเมืองดี ปะทะ บิลลี่เข้ม
การพบกันครั้งสำคัญบนเวทีคอนเสิร์ตของขวัญใจคอร็อกชาวไทย "หนุ่ย - อำพล ลำพูน" และ "บิลลี่ โอแกน" ในชื่อคอนเสิร์ตที่ว่า "อำพลเมืองดีกับบิลลี่เข้ม" ได้ยินเพียงแค่นี้ก็คงทำให้เลือดร็อกในกายแฟนๆ สองหนุ่มต้องเดือดพล่าน ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใด เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี จึงเต็มไปด้วยแฟนเพลงมากมาย ที่พร้อมจะยกมือขวาแล้วทำหน้าเข้ม เตรียมตัวรับความมันกันแบบสุดๆ ไปกับพวกเขาทั้งคู่
ภายในฮอลล์ที่แน่นขนัดทุกชั้นชวนให้บรรยากาศสุดจะคึกคัก ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็ต้องจับจ้องไปยังวีทีอาร์เปิดตัว ที่เล่าถึงความเหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อของสองหนุ่ม ตั้งแต่ราศีกรกฎเหมือนกัน ชอบ เดอะ บีทเทิ่ล (The Beatles) เหมือนกัน ใส่เสื้อไซส์ M กางเกงเอว 32 เหมือนกัน และความเหมือนสุดท้ายที่เรียกเสียงหัวเราะไปทั้งฮอลล์เลย คือ ทั้งคู่มีสถานภาพเป็น "พ่อม่าย" เหมือนกัน
ไม่นานเสียงดนตรีที่แฟนๆ ต่างรอคอยก็ดังกระหึ่มขึ้น จังหวะมันๆ ในเพลง "หมื่นฟาเรนไฮต์" ของ อำพล กับ "จนแต่เจ๋ง" ของ บิลลี่ ที่สลับกันร้องในตอนแรก จากนั้นทั้งคู่ก็ร่วมกันร้องด้วยกันจนกลายเป็นเพลงเดียว เรียกเสียงกรี๊ดได้จากแฟนๆ ของทั้งคู่ได้อย่างไม่มีใครน้อยหน้าใครกันเลยทีเดียว
จบเพลงแรก อำพลก็ยกเวทีให้บิลลี่ที่มีอาวุโสกว่า ได้ร้องเพลงเดี่ยวของตนเอง "พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย" ที่ยังคงเป็นเพลงสนุกแบบต่อเนื่อง โดยมีแดนเซอร์หนุ่มหล่อมาดเข้ม มาเต้นท่ากวนๆ ไปกับเพลงเนื้อหากวนๆ แบบน่ารักเพลงนี้
ฟากอำพลที่มาร้องต่อด้วยเพลง "เสียมั้ย" ก็ได้ใจคนดูหนุ่มๆ ไปมากโข กับแดนเซอร์สาวสวยสุดเซ็กซี่ ในท่าเต้นที่ทำเอาตาค้างไปตามๆ กัน ซึ่งเพลงนี้ก็มันจนหลายคนลุกขึ้นมาโยกไปด้วยร้องตามกันไปด้วยอย่างสนุกสนาน
ถึงเวลาพูดคุยกับขาร็อกทั้งสอง คนดูจึงได้รู้ว่าตั้งแต่คบกันมา 20 ปี นี่คือคอนเสิร์ตร่วมกันครั้งแรกของ อำพล กับ บิลลี่ และบิลลี่ก็ยังทักทายกับพ่อของตัวเองที่นั่งอยู่ในฮอลล์วันนี้ รวมถึงแม่ของอำพลด้วย ที่บิลลี่แซวว่า "แม่ เอาทุเรียนมาเปล่าแม่" เพราะบ้านเกิดของอำพลคือจังหวัดระยองนั่นเอง ทำให้บรรยากาศของคอนเสิร์ตอบอุ่นเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น
"ฝังไว้ในผืนดิน" เพลงดังของหนุ่มบิลลี่ และ "ใจโทรมๆ" เพลงที่ขาร็อกทุกคนต้องรู้จักของอำพล แต่ในวันนี้ทั้งสองต่างเต็มใจยกให้อีกฝ่ายยืมเพลงของตัวเองไปร้อง ดังนั้น ฝังไว้ในผืนดิน แบบฉบับของอำพล ที่ต่อด้วย ใจโทรมๆ แบบฉบับของบิลลี่ จึงสร้างความประทับใจที่แตกต่างได้อย่างมากให้กับแฟนๆ ที่ได้ฟังในวันนี้
เพลงต่อมา "อย่าดีกว่า" ที่อำพลเกริ่นไว้ว่า "เป็นเพลงแรกที่ทำให้คุณ ได้รู้จักกับผม" ขณะที่ร้องก็มีวีทีอาร์ภาพในอดีตของเขาเปิดให้ดูด้วย และสำหรับบิลลี่ "วันนั้น วันนี้ วันไหน" ก็เป็นเพลงที่ทำให้รู้จักกับเขาเช่นเดียวกัน แถมเรายังได้เห็นภาพบิลลี่ในอัลบั้มแรก ที่ผมยาว หน้าใส ใส่แว่น ซึ่งไม่ได้เห็นกันมานาน จนเจ้าตัวถึงกับออกปากว่า "ไปหารูปมาจากไหนก็ไม่รู้ สมัยผมยังเอ๊าะๆ อยู่เลย"
แล้วบิลลี่ก็ร้องต่อด้วยเพลง "อย่างน้อย" เพลงรักที่มีความหมายดีๆ ตามด้วยเพลงซึ้ง "หยดน้ำในทะเล" และ "อยากตะโกน" ที่ใครๆ ก็ร้องตะโกนตามไปกับเขา ส่งท้ายช่วงนี้ด้วย "หน่อมแน้มไปหน่อย"
ช่วงสำคัญของงาน ที่บนเวทีตอนนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงเปียโนหลังใหญ่ กับแขกรับเชิญพิเศษที่บิลลี่บอกว่า "เธอเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด" แต่ "เสียดายจริงๆ ที่วันนี้เธอไม่มีโอกาสมาอยู่ตรงนี้กับผม" บิลลี่หยุดยืนนิ่งอยู่ที่เปียโน พร้อมกับสวมมงกุฎกระดาษที่หนุ่มเข้มบอกว่าเป็นตัวแทนของเธอคนนั้น เสียงเปียโนดังขึ้นเมื่อเขาเริ่มต้นบรรเลง "สุดปรารถนา" เพลงในอัลบั้มชุดใหม่ ที่บิลลี่แต่งให้กับลูกสาวสุดรัก "นนนี่ - นนลนีย์ โอแกน " และบนจอด้านหลังก็ได้ฉายภาพน่ารักของสองพ่อลูก คลอไปกับเสียงเพลงเศร้าๆ เข้ากับบรรยากาศจนคนดูน้ำตาซึมไปตามๆ กัน
ต่ออารมณ์เศร้ากันด้วยอีกสองเพลงอกหัก "คำมักง่าย" และ "ฟ้าคงสะใจ" จากนั้นคนดูก็ได้โอกาสโยกกันอีกครั้งกับเพลง "ลาออก" และ "เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม" ปิดท้ายความสนุกในช่วงของบิลลี่ด้วย "โสภาสถาพร" ที่คราวนี้เขาได้แดนเซอร์สาวที่แต่งตัวเป็นปอมปอมเกิร์ลมาเสริมบรรยากาศให้คึกคักชวนโดดยิ่งขึ้น
แล้วก็ถึงคราวของอำพลที่จะมาเรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูบ้าง "บอกมาคำเดียว" "เอาไปเลย" "คนไม่มีสิทธิ์" "ไว้ใจ" และ "เติมน้ำมัน" ห้าเพลงยอดนิยมที่ทุกคนในฮอลล์ร้องตามกันได้เสียงดังแบบต่อเนื่อง พร้อมกับมือขวาที่พร้อมใจกันยกแบบไม่มีใครยอมเอามือลงกันเลยทีเดียว
"อยากจะบอกใครสักคน" เพลงที่อำพลบอกกับแฟนๆ ในคอนเสิร์ตว่า "ผมขอเชิญคุณทุกคนเป็นแขกของผมได้มั้ยครับ" และเสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเมื่อกล้องได้จับภาพไปยังคนดูหนุ่มน้อยสุดหล่อ "กาย - นวพล ลำกูน" ลูกชายสุดรักของอำพล ที่แม้จะไม่ได้ขึ้นเวทีเป็นแขกรับเชิญให้ แต่ก็มานั่งร่วมชมคอนเสิร์ตเป็นกำลังใจอย่างดีให้กับคุณพ่อของเขา
ยังคงซึ้งกันต่อกับเพลงเจ็บๆ อย่าง "จำฝังใจ" และเพลงต่อมาสายตาทุกคู่ก็ต้องจับจ้องอยู่ที่จอเบื้องหลังของอำพล กับภาพหนังสือหลายฉบับที่พาดหัวเกี่ยวกับเรื่องราวรักร้างของเขากับอดีตภรรยา "มาช่า วัฒนพานิช" อำพลไม่พูดอะไรมากกว่านั้น นอกจากการบรรยายความรู้สึกผ่านทางบทเพลง "รุนแรงเหลือเกิน" ที่ได้เพื่อนสนิทมาเล่นกีตาร์และเดี่ยวเปียโนให้ รวมทั้งยังมีวงออเคสตาร์ขนาดเล็กร่วมขับกล่อมให้เป็นเพลงที่กินใจในความรู้สึกมากยิ่งขึ้น
เพลงต่อมา "แผลในใจ" ที่หนุ่มร็อกมือขวาบอกว่าตรงกับชีวิตมากๆ เหมือนกับเป็นเพลงที่เขียนให้เขาโดยเฉพาะทีเดียว และสองเพลงถัดมาที่ขอเปลี่ยนอารมณ์เป็นสนุกสนานบ้าง กับ "ส้มหล่น" และ "มันก็ยังงงๆ"
ปิดท้ายความประทับใจ หลังจากเต็มอิ่มกันมานานกับบทเพลงดังของทั้งคู่แล้ว ก็ถึงคราวส่งท้ายด้วยเพลงที่เหมือนเป็นการล่ำลาของทั้งสองหนุ่มในวันนี้ "เพื่อนไม่ทิ้งกัน" ที่หนุ่มเข้มบิลลี่และหนุ่มร็อกมือขวาอำพล กอดคอกันร้องพร้อมกับริ้วกระดาษเป็นประกายที่โปรยปรายลงมาจากด้านบน คอนเสิร์ตครั้งนี้คงจะอยู่ในใจชาวร็อกไปได้นานอย่างไม่ต้องสงสัย