บางกอก 2 มิติ รวมศิลปินฉลอง 222 ปี กรุงเทพฯ วันที่สอง
บรรยากาศการจัดงานวันที่สองของมหกรรมเฉลิมฉลอง 222 ปี กรุงเทพมหานคร ภายใน เดอะเต็นท์ มหรสพโรงใหญ่ของงาน "บางกอก 2 มิติ" ที่สวนลุมไนท์บาร์ซาร์ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน โดยมีศิลปินดังในอดีตและศิลปินในปัจจุบันมาร่วมงานกันอย่างมากมาย
คอนเสิร์ตในวันนี้ล่าช้ากว่ากำหนดการพอสมควร โดยเริ่มต้นเวลาประมาณ 17.00 น. ด้วยศิลปินกลุ่ม "ลำดวน" ที่มาพร้อมกับเพลงเปิดตัวอัลบั้มชุดที่ 2 "Flower Beat" ในเพลงที่มีชื่อว่า "บทสรุปของคำว่ารัก" ตามด้วยเพลงดังในอดีต "บุพเพสันนิวาส" ตามด้วยเพลงอกหัก "ผิดด้วยหรือที่รักเธอ" และปิดท้ายด้วยเพลงดังจากอัลบั้มชุดที่แล้ว "เคยรักเธอหรือเปล่า" ที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี
ตามด้วยศิลปินจากค่ายเดียวกัน "บอมบ์ ทัศธน" ที่มาพร้อมกับเพลงเก่า "แสนรัก" ต่อด้วยเพลงช้าจากอัลบั้มของตัวเอง "อย่าทิ้งกันไป" และเพลงสนุกๆ "วันแห่งความรัก" จากนั้น เป็นเวลาของ "บรรณ" ในเพลง "เป็นลม" "เอาหน้า" และเพลงดังของ "อิทธิ พลางกูร" ในเพลง "เก็บตะวัน"
2 หนุ่ม 1 สาว ซาวด์ วอร์กเกอร์ มาพร้อมกับเพลง "งานวัด" ของวงเพื่อน เข้าบรรยากาศชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน ตามด้วยเพลง "Love Is The Reason" และเพลงดัง "เสียงที่ไม่ได้ยิน"
ยกทัพมาคึกคักกันต่อกับศิลปินกลุ่ม "มะตูม" ในเพลง "จูบเย้ยจันทร์" จากอัลบั้มรวมดาว พ.ศ. 2526 ตามด้วยเพลงซึ้งๆ "รักเธออีกแล้ว" ที่กลุ่มมะตูมแสดงฝีมือเขียนเอง และเพลง "ไม่มีที่ซุกหัวใจ" ที่เหล่าเครื่องเป่าและกีต้าร์เต้นประกอบจังหวะ พร้อมกับมีลูกเล่นในการร้องเพลง และแนะนำตัวให้เพลงที่สนุกอยู่แล้วสนุกมากขึ้นอีก
ศิลปินเสียงนุ่มอย่าง ชรัส เฟื่องอารมย์ ก็ไม่พลาดงานนี้ พกพาเพลงหวานอมเศร้า "ช้ำด้วยความสมัครใจ" ตามด้วยเพลง "ในออฟฟิศ" และเพลง "เพราะฉะนั้น" ที่เคยร้องในงานฉลอง 200 ปี กรุงเทพมหานคร มาแล้ว
และแล้วก็ถึงเวลาของศิลปินที่ใช้จำนวนคนและเครื่องดนตรีมากที่สุด "ขุนอิน Of The Beat" หรือ "อาจารย์ปอง" ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า ที่คุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีจากภาพยนตร์เรื่อง โหมโรง มากันแบบเต็มวงด้วยจำนวนคนมากถึง 18 คน เครื่องดนตรี 17 ชิ้น และไมค์อีก 14 ตัว ซึ่งอาจารย์ปองได้เผยว่าเดิมมีวงบางกอกอะคูสติกอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก จึงตั้งวงใหม่เน้นเครื่องเคาะเป็นหลัก มาพร้อมกับเพลง "Siam" และเพลงสนุกๆ ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
ฟังดนตรีแบบไทยๆ กันไปแล้ว ต่อกันด้วยดนตรีแบบสากลด้วยเครื่องดนตรีเปียโนจาก "โจ้ The Pianist" ในเพลง "เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชายไม่รู้" ของ ปาน ธนพร ตามด้วยเพลง "รักคงยังไม่พอ" ของ เสือ ธนพล และ "ไม่อาจเปลี่ยนใจ" เพลงดังของ เจมส์ เรืองศักดิ์ เจ้าของค่ายต้นสังกัด ID Records นั่นเอง
กลับมาที่อารมณ์นุ่มอีกครั้งกับศิลปินกลุ่ม "ซูเปอร์เบเกอร์" จากสังกัด Smallroom ด้วยเพลงชื่อยาววว "ความรู้สึกของฉันที่มีเธออยู่ด้วยกันอีกหนึ่งคนบนโลกใบนี้" ตามด้วยเพลง "วันหนึ่ง" หรือ "A Day For The One" ซึ่งเป็นเพลงแอบซ่อนอยู่ในอัลบั้ม Beautiful Day และเพลง "อีกหน่อยเธอคงเข้าใจ" ของ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ที่มี "เจ เจตมนต์" มาเป็นศิลปินรับเชิญ ส่งท้ายด้วยเพลงย้อนยุค "ใจรัก" และเพลง "กอด" จากอัลบั้มของตัวเอง
มากันเป็นคู่กับ "เดอะ พีช แบนด์" ที่นำเพลงดังในอดีต "บอกหน่อยได้ไหม" ของ ตู่ นันทิดา มาร้อง ต่อด้วยเพลงดังของตัวเอง "วอน" "วันที่เหลืออยู่" และ "อีกไม่นานก็เช้า" ซึ่ง นุ้ย และ พีช ได้ฝากบอกถึงแฟนเพลงว่า "เตรียมพบกับอัลบั้มใหม่ต้นปีหน้า"
"ตู้ ดิเรก" ศิลปินดังอดีตสมาชิกวง เจนเนอเรชั่น เมื่อ 26-27 ปีที่แล้ว มาร่วมงานนี้พร้อมกับเพลง "กระบี่ไร้เทียมทาน" แบบภาษาไทย ส่วนใครที่คาดว่าจะได้เห็นลีลาไร้กระดูกของพี่ตู้ ก็ไม่ผิดหวัง เพราะพี่ตู้วาดลวดลายเบรกแดนซ์เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยในเพลง "ฝากเลี้ยง" ของ เจ เจตริน
วง "Portrait" มาพร้อมกับเพลงฟังสบาย "ขอดาว" ตามด้วย "ขอจันทร์" และ "เพราะเรามีเรา" โดยมีศิลปินรับเชิญ คือ "เอ๋ XYZ" ต่อด้วยเพลง "กว่าจะรัก" เพลงที่โด่งดังมากในอดีตของวง XYZ ซึ่ง เอ๋ บอกว่าเป็นงานแรกที่นอกเหนืองานของ XYZ แล้วได้ร้องเพลงนี้ ก่อนที่ Portrait จะลาด้วยเพลง "โลกที่ไม่มีฉัน"
มาถึง "เล็ก วงพราว" ที่ต้องมีการย้ำก่อนเปิดตัวว่าแมนมากๆ กลัวคนจะเข้าใจผิด เพราะเลือกร้องเพลงดังของวง สาว สาว สาว "รักคือฝันไป" ตามด้วย "เพราะฉันมีเพียงเธอ" "เธอคือความฝัน" และ "โลกไม่ได้มีแค่เราสองคน" โดยมี โอ๋ ซีเปีย มาเป็นศิลปินรับเชิญ
พกพาลูกเล่นมาเต็มที่กับศิลปินคู่ "สครับ" ด้วยเพลง "เธอ" และ "เก็บมันเอาไว้" ตามด้วยเพลงดัง "บ้าหอบฟาง" ของศิลปินคู่พี่น้อง อัสนี วสันต์ และเพลง "See Space" โดย บอล และ เมื่อย เผยว่าที่ไม่ได้ร้องเพลง "ทุกอย่าง" เป็นเพราะร้องบ่อยแล้วนั่นเอง
อีกหนึ่งศิลปินคู่ที่มาร่วมร้องเพลงในงานนี้ เป็นคู่พี่น้องฝาแฝด สังกัดค่ายเพลงดังในอดีต KITA (พ.ศ. 2528 - 2539) คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก "ฝันดี ฝันเด่น" ที่มาร้องเพลงน้อยมากๆๆ แค่เพลงเดียว "แกล้งโง่" แต่ไม่ยอมลงจากเวที ขอต่อในเพลง "หมื่นคำลา" แบบท่อนเดียวไม่มีดนตรี
กลับสู่บรรยากาศเพลงละมุนหูอีกครั้งกับ "บอย ตรัย" ที่เปิดตัวด้วยเพลง "ตัวสำรอง" จนหลายคนนึกว่า อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ มาเอง ตามด้วยเพลงจากอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง "เพลงเศร้า" "เขาไม่เกี่ยว" และ "เมื่อไม่มีเธอ"
และแล้วก็ถึงช่วงที่หลายคนรอคอย การพบกับศิลปินดังในอดีตที่คืนเวทีอีกครั้งในงานนี้ ได้แก่ พีรสันต์ จวบสมัย, เสนีย์ ฉัตรวิชัย และ สายชล ระดมกิจ ในนาม "ดิ อินโนเซ้นท์" แม้จะผิดหวังเล็กน้อยที่มากันแบบไม่ครบคน โดยเฉพาะ ชาตรี คงสุวรรณ ที่ติดธุระมาไม่ได้ แต่บทเพลงที่เลือกมาร้องอย่าง "เพราะเธอหรือเปล่า" "ฝากรัก" และ "เพียงกระซิบ" ก็ทำให้หายคิดถึงได้พอสมควร
บอย ตรัย คืนเวทีอีกครั้งด้วยบทเพลง "เพียงครึ่งใจ" ของ ดิ อินโนเซ็นต์ จากอัลบั้ม รักคืออะไร ตามด้วยศิลปินกลุ่มเลือดใหม่ "B5" ที่เปิดตัวด้วยเพลงเด่น "บางสิ่ง" ต่อด้วยเพลงเมดเล่ย์ 5 คน 5 เพลง "รักคุณเข้าแล้ว" "ขอให้ผม" "อีกที" "ดาว" "คนไม่พิเศษ" ตามด้วยเพลง "ตัดสินใจ" "นิยามรัก" ของ นูโว และ "ที่ว่าง"
ศิลปินคนสุดท้ายของงานที่วัยรุ่นหลายคนรอคอย และต่างกรูเข้าไปที่หน้าเวทีทันที เพื่อต้อนรับการกลับมาของ "ดัง" พันกร บุญยะจินดา ด้วยเพลง "ฝ่ายเดียว" ของ ปุ๊ อัญชลี ที่ดังบอกว่าเป็นเพลงแรกที่ดังร้องได้ ตามด้วยเพลงจากอัลบั้มใหม่ "ตัวจริง ยิ่งเจ็บ" "ตรงไหนของหัวใจเธอ" และ "เกิดมาเพื่อช้ำ" ซึ่งดังพูดอย่างติดตลกถึงผลงานเพลงชุดใหม่ว่า "ใครที่คิดว่าจะซื้ออัลบั้มชุดใหม่ของดัง คงต้องรีบไปซื้อนะครับ เพราะคงขายดีมาก วันแรกคงจะขายหมดเลย" ขนาดน้านนนนน :O
ปิดท้ายคอนเสิร์ตกับศิลปินต่างยุคต่างสมัยในมหรสพโรงใหญ่ของงาน บางกอก 2 มิติ กันแบบเต็มอิ่มในอรรถรสของเสียงดนตรี
