บทสัมภาษณ์ ลิตา กับงานเพลงที่ผสานกลิ่นอายแบบอินเดีย
ใกล้คลอดแล้วสำหรับอัลบั้มใหม่จากค่ายบูลด็อก กับผลงานเพลงของสาวน้อย "ลิตา" สริตา วอลช ที่มาพร้อมกับเพลง "ชีวิตชีวา" ในอัลบั้มที่มีชื่อว่า "Lively Rita" (ไลฟ์ลี ลิตา) มีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน ฟังสบายๆ กับแนวเพลงป๊อปร็อกที่มีกลิ่นอายความเป็นอินเดียผสมอยู่ ทั้งเสียงร้องเอื้อนแบบแขกและเครื่องดนตรี ถือเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมทางดนตรีได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบเสียงดนตรีแปลกๆ ใหม่ๆ ใส่เข้าไปในแต่ละเพลงได้อย่างหลากหลาย ที่สำคัญเครื่องดนตรีทุกชิ้นอัดสดทั้งหมด จึงทำให้งานเพลงในอัลบั้มชุดนี้เหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาจริงๆ
มีบทสัมภาษณ์ของสาวน้อยคนนี้มาให้อ่านกันด้วย เผื่อว่าใครอยากรู้จักจะได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสาวน้อยคนนี้เพิ่มมากขึ้น
มีการเตรียมตัวในการทำงานอย่างไรบ้าง
"ก็มีไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เพราะในอัลบั้มมีเพลงที่ต้องเต้นด้วย แต่ไม่ใช่เพลงลิตาจะออกแนวแด๊นซ์ ก็เต้นนิดๆ หน่อยๆ เพราในอัลบั้มมีเพลงช้าเยอะกว่าเพลงเร็ว"
ใช้เวลาในการทำงานเพลงชุดนี้นานเท่าไร
"ใช้เวลาในการทำอัลบั้มประมาณปีกว่าๆ การทำงานอัลบั้มก่อนที่จะร้องเองก็จะมีพี่ที่เป็นโปรดิวเซอร์ช่วยร้องไกด์ไว้ให้ แต่เสียงพี่เขาเป็นเสียงผู้ชาย ลิตารู้สึกว่าร้องแล้วได้ไม่เหมือนพี่เขา ตอนหลังก็เลยเปลี่ยนเป็นให้ครูที่สอนร้องเพลงมาไกด์ให้ ส่วนที่เป็นคอรัส ลิตาร้องเองทั้งหมด แต่ละเพลงที่อัดเป็นแบบทยอยอัดไปเรื่อยๆ"
มีเพลงไหนที่รู้สึกว่าร้องได้ดี
"เพลง เมื่อไหร่จะใช่เขา เพลงนี้ร้องง่ายหน่อย ตอนที่อัดแป๊บเดียวก็ผ่านเลย ใช้ได้เลย พี่เขาบอกว่าลิตาทำการบ้านมาดี แต่พอมาตอนหลังๆ ที่อัดเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มไปแล้ว พี่เขารู้สึกว่าลิตาร้องได้ดีขึ้นก็เลยเอาอันเก่าที่ร้องผ่านแล้วมาร้องใหม่ ลิตาคิดว่าเป็นการดี เพราะว่าถ้าเราทำได้ดีกว่า ทำไมเราจะไม่ทำล่ะ"
ถนัดร้องเพลงช้าหรือเพลงเร็ว
"จะว่าไปแล้วเพลงช้าๆ ที่คิดว่าจะง่ายมันก็ร้องยากเหมือนกัน บางเพลงก็ร้องได้ดี เพลงเร็วบางเพลงก็ร้องยากเพราะบางทีอารมณ์อาจจะไม่ถึง โทนเสียงในการร้อง จริงๆ แล้วตอนแรกเขาให้ลิตาร้องแบบใสๆ น่ารัก แล้วก็ลองให้ลิตาเปลี่ยนมาเป็นเสียงใหญ่ๆ แบบพี่ใหม่ เจริญปุระ แต่ก็รู้สึกว่าลิตาร้องเสียงใหญ่เกินไป ก็เลยลดเสียงลงมาเป็นกึ่งๆ"
เคยคิดอยากที่จะแต่งเพลงเองบ้างหรือเปล่า
"มันยากตรงที่เวลาลิตาคิดอะไรออกมาเนี่ย อยากจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจตรงกันทั้งหมดยังไม่ได้เลย เรื่องที่จะฝึกเขียนเพลงคงยังไม่ได้"
ปกติแล้วแต่งตัวแบบนี้หรือเปล่า
"การแต่งตัวจะออกใสๆ มีชีวิตชีวา แต่จะมีความยุ่งเหยิงอยู่ มีส่วนของความเป็นอินเดียอยู่ เช่น กางเกงลายๆ สร้อยข้อมือ สร้อยคอ เครื่องประดับต่างๆ โดยส่วนตัวก็ชอบแนวนี้อยู่แล้ว เวลาไปไหนมาไหนก็แต่งตัวประมาณนี้ จะต่างกันก็ตรงที่ลิตาจะไม่ใส่กางเกงลายๆ จะใส่เป็นกางเกงยีนส์สบายๆ มากกว่า"
คิดว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร
"ลิตาเป็นคนที่มี 2 บุคลิก ด้านหนึ่งจะเป็นคนง่ายๆ ไม่คิดมาก เวลาเจอใครๆ ก็จะตามสบายตามใจเขา ส่วนอีกด้านของลิตาก็จะตรงข้ามเลย จะเป็นคนซีเรียส คิดมาก คิดลึก บ้าๆ บอๆ"
เวลาเครียดทำอย่างไร
"ส่วนมากจะอยู่กับเพื่อน แต่ไม่พูดระบายอะไรจะให้เพื่อนมานั่งอยู่ด้วย แล้วลิตาก็จะนั่งนิ่งๆ เงียบๆ หรือไม่ก็จะเขียนๆๆ พอวันหลังเอากลับมาอ่านก็จะฉีกทิ้ง เพราะว่าไม่อยากเก็บความรู้สึกที่มันไม่ดีเอาไว้"
มีงานอดิเรกอะไรบ้างที่ชอบทำ
"ชอบวาดรูป ทำอาหาร ทำงานที่เป็นศิลปะ แต่เวลาว่างส่วนใหญ่จริงๆ แล้วชอบไปหาอะไรกินมากกว่า ชอบนั่งรถตุ๊กๆ ไปที่ตรอกข้าวสาร ไปเดินช้อปปิ้งซื้อพวกสร้อยอะไรพวกนี้ ที่สำคัญไปกินค่ะ ลิตาชอบผัดไท ที่นั่นอร่อยมากๆ เรื่องอาหาร ชอบทำพวกแกงกะหรี่ เค้ก บราวนี่ คุกกี้ แต่คนอื่นๆ ที่มีโอกาสได้ชิมจะชมว่าลิตาทำมาม่าอร่อย เพราะเวลาทำจะใส่อะไรเข้าไปหลายๆ อย่าง อย่างเช่นทูน่า ใส่ไปก็อร่อยดี
ชอบอ่านหนังสือตลกๆ แต่ไม่ค่อยมี จะมีของ ปราบดา หยุ่น, วินทร์ เลียววาริณ ชอบวาดรูปมากกว่า อย่างล่าสุดลิตาวาดชุดกิโมโนสีแดง หัวเป็นกะโหลก ที่มือถือพัดรูปหน้าคนด้วย ลิตาวาดก็เพราะอยากวาด คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พอวาดเสร็จเอาไปให้คุณแม่ดู คุณแม่ก็จะชอกว่า เอ๊ะ นี่อะไร แต่ลิตาว่าดูสวยดีลิตาชอบของลิตา ชอบอะไรที่มันแปลกๆ แต่เวลาลิตาเอารูปที่วาดให้คนอื่นดู จะไม่บอกว่าคิดอะไรถึงวาด จะให้เขาคิดเองแล้วมาคุยกัน จะได้จินตนาการที่แปลกๆ ออกไป"
เคยไปงานโชว์ศิลปะต่างๆ หรือเปล่า
"ศิลปะในไทย เขาจะเน้นศิลปะแบบสวยงาม แต่ลิตาชอบแบบแปลกๆ ในเมืองไทยจะไม่ค่อยมี ก็เลยไม่ค่อยได้ไปดูค่ะ"
อยากเรียนต่อด้านไหน คณะอะไร
"เรื่องเรียนตอนนี้ดร็อปเอาไว้ เพราะ ลิตาอยากเรียนด้านศิลปะ แต่ที่เมืองไทยไม่ค่อยมีที่เรียน ที่มีจริงๆ ก็ที่ศิลปากร แต่ลิตาไม่แน่ใจว่าจะเข้าได้หรือเปล่า เพราะเขาเรียนแบบหลักสูตรไทย ก็คิดเอาไว้ว่าประมาณปีหน้าจะกลับไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียค่ะ"