บทสัมภาษณ์ ศรราม อกสามศอก กับแนวเพลงที่เปลี่ยนไป
แถลงข่าวเปิดตัวอัลบั้มและวางแผงในวันเดียวกันกับผลงานเพลง "ศรราม อกสามศอก" ในแนวเพลงที่เปลี่ยนไป ของ "หนุ่ม" ศรราม เทพพิทักษ์ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2547
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยทีมงานที่มีส่วนในอัลบั้มและแขกรับเชิญพิเศษ อาทิ แม่และญาติๆ รวมถึงแฟนคลับของ หนุ่ม โดยงานนี้ได้ "แหม่ม" สุริวิภา กุลตังค์วัฒนา มาเป็นพิธีกร ซึ่ง หนุ่ม ได้โชว์เพลง "ผู้ชายขี้อาย" "ฉันรู้" และเพลงที่มีจังหวะที่เร็วที่สุดในอัลบั้มนี้อย่าง "รักกันไปพลางๆ"
เห็นว่างานละครเยอะมาก เอาเวลาที่ไหนมาทำเพลง
"ช่วงทำเพลงผมใช้เวลาที่คนอื่นเขานอนหลับกันไปแล้ว แต่เราก็ยังทำงานอยู่ เวลาทำเพลงมันมีหลายขั้นตอน ผมใช้วิธีให้เขาทำเพลงมาให้เราฟังก่อนว่าชอบไหม เข้ากับเราไหม เพราะอาชีพหลักผมเป็นนักแสดงไม่ค่อยมีความรู้ด้านดนตรี ก็เลยใช้วิธีนี้ในการทำเพลง"
เพลง ใครสักคน ที่มีส่วนในการเขียนเพลงเองด้วย เป็นอย่างไรบ้าง
"ในเพลงความรู้สึกของผมก็เหมือนกับมนุษย์ทุกคน แต่คนภายนอกจะมองว่าเป็นศรรามมากกว่า บางทีได้ยินเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือดังสนั่น ไม่มีใครรู้หรอกว่าในใจเรานั้นมันเงียบขนาดไหน แต่เวลาทำงานต้องออกไปเจอคนก็ทำให้รู้สึกดี สดชื่น"
คิดอย่างไรกับการทำเพลงในแนวที่เปลี่ยนไป
"มันเกี่ยวกับวัยและประสบการณ์จาก 2 อัลบั้มที่ผ่านมาของผม ทำให้รู้อะไรมากขึ้น จะให้ผมมาแดนซ์เหมือนอัลบั้มก่อนๆ คงไม่ไหวเพราะปีนี้ผมก็ 31 แล้ว สิ่งที่ผมกำลังทำมันเป็นความสุขที่ได้ทำ ไม่ได้สนว่าจะยอดขายมันจะดีมากหรืออย่างไร งานเพลงเป็นงานอดิเรกที่เรารู้สึกมีความสุขกับมัน"
เริ่มทำอัลบั้มนี้ได้อย่างไร
"ในการทำอัลบั้มเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้ใหญ่แล้วก็ตัวผมเอง ผลเข้าไปคุยกับเฮียว่าอยากทำอัลบั้มเพลงที่เป็นเพลงฟัง เพราะผมรู้สึกว่าผมร้องเพลงช้าได้ดีกว่าเพลงเร็วๆ"
อยากให้พูดถึงแต่ละเพลง
"เพลง ฉันรู้ เป็นแง่มุมใหม่ของผม การที่เด็กวัยรุ่นกินข้าว คุยกันเพียงข้ามคืน ความซื่อสัตย์มันก็หายไปได้ ซึ่งมันเป็นความจริงในสังคมปัจจุบัน ผมก็เลยนำเสนอออกมาในเนื้อหาของเพลง
เพลง ใครสักคน เพลงนี้ตรงกับชีวิตตัวเองมากที่สุด ความรู้สึกผมมันกร้านขึ้นมากกับความรักหลังจากเป็นทหาร ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เวลาอกหักจะเฮิร์ตมากทุกอย่างแย่ไปหมด สำหรับตอนนี้รู้สึกเฉยๆ กับความรัก มองทุกอย่างเป็นสัจธรรมมากขึ้น
เพลง ไม่มีที่ซุกหัวใจ เป็นสำนวนเหมือนกับไม่มีที่ซุกหัวนอน คือ ไม่มีใครเอา เขาไล่เราออกจากที่ที่เคยเป็นของเรา ไม่มีใครให้รัก
เพลง ขอรับรองว่าเป็นความจริง นำเสนอในแง่มุมที่ว่าเวลาพูดเล่นๆ คนมักจะเชื่อ แต่เวลาเราพูดจริงๆ คนกลับไม่เชื่อกัน เหมือนกับคำว่ารับรองสำเนาถูกต้องที่มันใช้รับรองได้ว่าเอกสารนั้นเป็นของจริง"
อัลบั้มนี้ใช้เวลาทำนานเท่าไร
"ปีครึ่งครับ ที่ใช้เวลานาน เพราะผมไม่มีความรู้ทางด้านดนตรีก็เลยต้องใช้เวลานานหน่อย เพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด จุดเด่นของอัลบั้มนี้อยู่ที่ภาษา คือเพลงมันจะถูกใจคนที่เพลงมันไปตรงกับกลุ่มคนฟัง เขาก็จะชอบกัน"
ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
"ชมมากกว่าด่าครับ เขาบอกมาว่าพี่น่าจะเป็นอย่างนี้ตั้งแต่อัลบั้มแรกแล้ว"
ตอนนี้มีผลงานอะไรอีกบ้าง
"ก็เหลือที่กำลังถ่ายอยู่ 3 เรื่อง แล้วจะไปผ่าเข่า ใช้เวลาพักประมาณ 3 เดือนเพราะเอ็นข้างในมันขาด ถ้าไม่ผ่าจะมีผลตอนอายุมาก ตอนนี้ก็กินแคลเซียมกับยาแก้อักเสบเพราะบางทีจะเจ็บ อย่างตอนเล่นเรื่องคู่กรรมต้องนั่งคุกเข่าจะเจ็บมาก หลังผ่าตัดเสร็จก็เตะบอลได้เหมือนเดิม"