American Pie 2 เจอผี ระบาดทั่วอินเตอร์เน็ต ก่อนเข้าฉาย
ถึงแม้ว่า American Pie 2 ภาคต่อของภาพยนตร์ตลกในปี 1999 จาก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ จะยังไม่ถึงกำหนดออกฉายตามโรงภาพยนตร์ก็ตาม (กำหนดเปิดฉายในสหรัฐวันที่ 10 สิงหาคม) แต่ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เน็ตผ่านบริการแลกเปลี่ยนแฟ้มข้อมูล
การแลกเปลี่ยนแฟ้มข้อมูลนี้ เกิดขึ้นผ่านบริการ Hotline ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ฮอทไลน์ คอมมิวนิเคชัน ในโตรอนโต โดยจะถูกบีบอัดให้อยู่ในรูปแบบ DivX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อใช้ในการส่งผ่านแฟ้มข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายที่คนมักจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในทางที่ผิด โดยการนำไปแลกเปลี่ยนแฟ้มข้อมูลที่ละเมิดลิขสิทธิ์
ว่ากันว่าการแลกเปลี่ยนแฟ้มข้อมูลที่ละเมิดลิขสิทธิ์นี้ เริ่มต้นมาจากบริการแลกเปลี่ยนเพลงของ Napster ซึ่งนอกจากบริการ Hotline แล้ว ยังมีบริการในรูปแบบเดียวกัน คือ Grokster และ Gnutella ด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ ทำให้ความสามารถในการเคลื่อนย้ายแฟ้มข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เช่น แฟ้มข้อมูลภาพยนตร์ขนาด 1 กิกะไบต์ เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น
หากใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงอย่าง เคเบิล โมเด็ม ซึ่งมักจะใช้กันทั่วไปในครัวเรือน หรือ สาย T1 ซึ่งมักจะใช้ในสำนักงานต่างๆ จะสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ทั้งเรื่องได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เทคโนโลยี Grokster จะทำให้ผู้ใช้บริการอินเตอร์สามารถค้นหาแฟ้มข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตรายอื่นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากลองค้นหาภาพยนตร์ของ วอร์นเนอร์ บราเดอร์ส เรื่อง Swordfish จะได้ผลลัพธ์จำนวนมากให้ผู้ใช้เลือกดาวน์โหลดได้โดยไม่เสียค่าบริการ
เดวิด โพเวลล์ กรรมการผู้จัดการในส่วนของการควบคุมลิขสิทธิ์ บริษัทกิลด์ฟอร์ด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศอังกฤษ กล่าวว่าขณะนี้มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ถูกเผยแพร่อยู่ในอินเตอร์เน็ตก่อนที่จะออกฉายในโรงภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ มักจะเป็นภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับเด็ก
แม้จะเกิดเหตุการณ์ละเมิดลิขสิทธิ์ขึ้น และทาง ยูนิเวอร์แซล ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ ยูนิเวอร์แซล ก็ยังคงคาดหวังว่า American Pie 2 ซึ่งใช้ดาราชุดเดิมจากภาคแรก อาทิ เจสัน บิกซ์, แชนนอน อลิลาซาเบธ, มีน่า ซูวารี่, คริส ไคลน์ จะโกยรายได้มหาศาล โดยในปี 1999 ภาคแรกของเรื่องนี้โกยรายได้ในสหรัฐไปมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์