สุริโยไท เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
สุริโยไท ภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างภาพยนตร์ไทย ได้เปิดฉายภาพยนตร์ตัวอย่างเป็นครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ ในอาคารจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม ท่ามกลางตัวแทนบริษัทผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ดังๆ ทั้งในยุโรปและสหรัฐ ผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์หลายแห่ง นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ผู้สื่อข่าวจากเอเชียและยุโรป ฯลฯ
หลังการฉายเสร็จสิ้น ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ผู้กำกับภาพยนตร์ทรงกล่าวสั้นๆ เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมทั้งตอบข้อซักถาม ในวันรุ่งขึ้นก็ได้มีการฉายซ้ำอีกครั้งยังสถานที่เดิมแต่เปลี่ยนโรงฉายอีกแห่ง
เมื่อค่ำวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง สหมงคลฟิล์ม ผู้จัดจำหน่ายก็ได้ฉายภาพยนตร์ตัวอย่าง สุริโยไท เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ให้แก่สื่อมวลชนที่ไปร่วมชมภาพยนตร์ Driven ได้ชม ณ โรงภาพยนตร์แกรนด์อีจีวี สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ด้วยระบบการฉายสมบูรณ์แบบอย่างตื่นตา โอ่อ่าสมกับเป็นภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ของไทย
ภาพยนตร์ตัวอย่างดังกล่าวมีความยาว 2.20 นาที แบบมาตรฐานสากล ตัดต่อลำดับภาพออกมาไม่แพ้ภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดทั่วไปที่ชมกันอยู่ชินตา ภาพฉากปราสาทราชวัง ฉากรบอันตื่นตา ขบวนช้างศึกนับร้อยเชือกเต็มอัตรา ฯลฯ บรรยายภาพในตัวโดยไม่ต้องใช้เสียงบรรยาย
ระบบเสียงเพิ่งเสร็จมาหมาดๆ จากสตูดิโอ อเมริกันโซโธรบ ของ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ที่ซานฟรานซิสโก โดยมี คิม ออทรี่ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นหัวหน้าเทคนิคคุมงาน ซึ่งเขายังเป็นโปรดิว เซอร์ของหนัง Apocalypse Now Redux ฉบับใหม่ซึ่งนำไปฉาย ครั้งแรกที่เมืองคานส์อีกด้วย ในการฉายที่เมืองคานส์ได้จัดทำภาพยนตร์ตัวอย่างแยกออกเป็นสองเวอร์ชั่น ใช้คำบรรยาภาษาอังกฤษทั้งหมดเช่นกัน
หลังจากการฉายยังโรงภาพยนตร์ที่เมืองคานส์แล้ว ทาง สหมงคลฟิล์ม ได้บันทึกลงแผ่นวีซีดีฉายแพร่ภาพที่บูธของบริษัท ไปเปิด ณ ตลาดซื้อขายภาพยนตร์ของงานเทศกาล ด้วยความสนใจของผู้จัดจำหน่ายต่าง ๆ ที่แวะชมพร้อมรับเอกสารโบรชัวร์ไปพิจารณา และได้ฉายไปตลอดการจัดงาน ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2544
สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง แห่ง สหมงคลฟิล์ม ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวกับ เดลินิวส์ ว่า ได้มีสองสตูดิโอใหญ่ของฮอลลีวู้ดที่ให้ความสนใจกับภาพยนตร์ของ สุริโยไท คือ มิราแมกซ์ (ซึ่งตกลงซื้อ ฟ้าทะลายโจร ไปแล้ว) กับ นิวไลน์ ซีนีม่า กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับตัวแทนของทั้งสองในเรื่องราคา และเงื่อนไขการฉายต่างๆ แต่ยังไม่ได้ตกลงกับค่ายหนึ่งค่ายใด ทั้งนี้เพราะการทำงานหลังการถ่ายทำด้านเทคนิคต่างๆ ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ทางเขาต้องการชมภาพยนตร์เต็มเรื่อง เพื่อจะได้ดูแนวทางการตลาดต่างๆ ไปด้วย โดย ทั้งสองค่ายใหญ่นี้ ต่างให้ความสนใจที่จะซื้อด้วยตัวเลขที่น่าพอใจ พร้อมทั้งส่วนแบ่งหลังการฉาย
นอกจากนี้ เสี่ยเจียง ยังกล่าวอีกว่า ยังคิดที่จะจัดจำหน่ายเองในตลาดเอเชีย เพราะกระแสของหนังไทยเรา แรงในตลาดเอเชียด้วยกัน ซึ่งจากการพูดคุยกับตัวแทนผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ที่ฮ่องกงซึ่งได้มาชมกล่าวว่า เป็นหนังฟอร์มใหญ่ยิ่งจริงๆ คาดว่า คงจะฉายทำเงินได้ดีในตลาดเอเชีย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีการเจรจากันอีกครั้ง เมื่อกลุ่มผู้ซื้อดังกล่าวได้ชมภาพยนตร์เต็มเรื่องไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ได้ประทานสัมภาษณ์ เดลินิวส์ ที่เมืองคานส์ว่าหนังจะเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แน่นอนในเร็ววัน ขณะนี้ได้ทีมงานของคอปโปล่า ที่ซานฟรานซิสโกช่วยบรรจงเรื่องเสียง ด้านเทคนิคพิเศษก็ทำที่ ไอแอลเอ็ม บริษัทของยอร์จ ลูคัส ซึ่งอยู่ที่ซานฟรานซิสโกเช่นกัน
ซึ่งหมายความว่าโปรแกรมฉายที่เตรียมไว้ในวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม 2544 พร้อมกันทั่วประเทศจะทันแน่นอน โดยจะมีการฉาย รอบปฐมทัศน์ในต้นเดือนสิงหาคม ณ โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งจะกราบบังคมทูลขอพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เพื่อเป็นมหามงคล เป็นประวัติศาสตร์สำหรับภาพยนตร์ไทย เรื่องนี้
สุริโยไท ภาพยนตร์ไทยเรื่องเดียวที่ใช้เวลาการในเตรียมการและถ่ายทำยาวนานที่สุด นานกว่า 5 ปี ใช้ทุนการสร้างหลายร้อยล้านบาท มีผู้คนที่เกี่ยวข้องในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มากถึง 120,000 คน นำแสดงในบทสำคัญๆ คือ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี แสดงเป็น สุริโยไท, ใหม่ เจริญปุระ แสดงเป็น ท้าวศรีสุดาจันทร์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช แสดงเป็น ขุนพิเรนทรเทพ, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง แสดงเป็น พระเฑียรราชา, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงเป็น พระชัยราชา, จอนนี่ แอนโฟเน แสดงเป็น ขุนวรวงศา, สรพงษ์ ชาตรี แสดงเป็น หมื่นราชเสน่หา, อำพล ลำพูน แสดงเป็น ขุนอินทรเทพ และดาราน้อยใหญ่ในวงการภาพยนตร์อีกมากมาย
ระหว่างการถ่ายทำ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ทรงได้รับความร่วมมือจากผู้กำกับชื่อดังในวงการอีกหลายท่าน มาช่วยกำกับเรื่องนี้ อาทิ เปี๊ยก โปสเตอร์, อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นต้น พร้อมทีมงานมืออาชีพอีกคับคั่ง โดยมี อิกอร์ ลูเธอร์ ผู้กำกับภาพฝีมือดี จากภาพยนตร์หลายเรื่อง รับหน้าที่กำกับภาพเรื่องนี้ ซึ่ง ท่านมุ้ย ยังทรงรับหน้าที่ด้านตัดต่อลำดับภาพ รวมทั้งงานเขียนบทภาพยนตร์อีกด้วย
แฟนๆ ภาพยนตร์เตรียมชมอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ถูกนำมาถ่ายทอดอย่างถูกต้อง และสวยงาม บนจอภาพยนตร์ได้ในเร็ววันนี้ หลังจากที่ได้รอคอยกันเป็นเวลานาน