พชร์ ปิดตำนาน หยุดที่ หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ
"พชร์ อานนท์" หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ "พจน์ อานนท์" ผู้กำกับชื่อดัง ได้ออกมาเผยถึง ภาพยนตร์เรื่องดังในตำนานอย่าง หอแต๋วแตก ที่สร้างมาแล้วกว่า 6 ภาค โดยระบุว่า "หอแต๋วแตก แหกต่อไม่รอแล้วนะ" เรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐีอินเดียที่เข้ามาอยู่ประเทศไทย และต้องการมอบบ้านให้กับคนที่มีโอกาสจะได้ไป จะเป็นภาคสุดท้ายแล้ว พร้อมเข้าฉายในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ในโรงภาพยนตร์
ผู้กำกับที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์หลายปีเผยว่า "ก็คือตอนแรกเราทำเสร็จแล้ว ทำไปทำมาเรารู้สึกว่ามันตันไง คงจะหยุดที่ภาคนี้ เพราะว่าในเรื่องบทบอกว่า แพนเค้ก (รับบทโดย โก๊ะตี๋ อารามบอย) จะไปเกิดแล้ว" โดยผู้กำกับปัดสาเหตุที่ทำภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายไม่ใช่ว่ามุกตลกมาถึงทางตัน "มุกไม่ตัน อย่างอื่นน่ะตัน (หัวเราะ) จิตใจ ไม่หรอกมุกไม่ตันหรอกครับ เพราะมีนักแสดงตัวละครใหม่ๆ เข้ามาเล่นด้วย มันก็เลยมีอะไรที่แตกต่างกันออกไป จริงๆ แต่ละภาคๆ มันก็แตกต่างกันออกไป เพราะว่าอย่างภาคนี้เรามาอินเดียแล้วก็มีผสมอีสานหน่อย"
เจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกเสียดาย แต่คงต้องหยุดก่อน "เสียดายไหมก็เสียดาย เราทำมาถึงภาค 6 เพราะคนอยากดูต่อ แต่พอมาถึงทางหนึ่งก็ต้องหยุดก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง แต่คิดว่าคงจะไม่มีชื่อ หอแต๋วแตก อะไรแล้ว คงจะทำแบรนด์ใหม่ขึ้นมา" โดยยืนยันว่าถึงจะจบเรื่องนี้ ก็จะยังทำภาพยนตร์ต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันคืออาชีพ "ก็ยังทำหนังอยู่เรื่อยๆ ครับ เพราะว่ามันเป็นอาชีพของเรา ทำมานานแล้ว 20 กว่าปีแล้ว อะไรที่คนดูอยากดูเราก็ทำ เพราะเราเป็นผู้กำกับหนังตลาด ทำหนังแมสส์อยู่แล้ว คือทำไม พชร์ อานนท์ ทำแต่ หอแต๋วแตก คือคนดู หอแต๋วแตก แล้วนายทุนก็อยากให้ทำ หอแต๋วแตก ไม่ใช่ว่าเราทำอย่างอื่นไม่เป็น"
ส่วนงบประมาณในการสร้าง พชร์ เผยว่าใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก "มันแพง จริงๆ ดาราเรื่องนี้ก็สิบล้านแล้วนะ รวมกันน่ะ พวกพร็อปพวกคอสตูมเยอะมาก เพราะชุดแขกประมาณสี่หมื่นห้าหมื่นต่อชุด อย่างพร็อปที่เป็นตะเกียง เป็นแสนนะตะเกียงอันหนึ่ง สองแสนสามแสน ค่าเช่าบ้านก็แพงเพราะเราหาบ้านก็หาตั้งนานกว่าจะได้ตามแบบที่เราจินตนาการไว้ คือทำหนังกะเทยมันต้องลงทุนเรื่องเสื้อผ้า เรื่องพร็อปเยอะๆ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่โดน"
พชร์ ขอฝากให้ติดตามภาพยนตร์เรื่อง หอแต๋วแตก แหกต่อไม่หอแล้วนะ และรับประกันว่าเรื่องนี้แตกต่างไม่ซ้ำเดิมแน่นอน "ยังไงก็ฝากด้วยนะ หอแต๋วแตก ใครที่เป็นแฟน หอแต๋วแตก ก็ไปดูอันนี้เป็นภาคสุดท้ายแล้ว และรับประกันได้ว่าฉีกแนวแน่นอน เพราะว่าเราก็พยายามทำเต็มที่ ทำหนังทุกเรื่องมันก็เหนื่อยตั้งใจทำกันทุกเรื่อง แต่ต้องดูว่าหนังที่เราออกมาเราต้องการขายหัวเราะ ความบันเทิง ดูแล้วอิ่มใจสุขใจ ไม่ใช่ดูเป็นหนังสาระ เราก็แยกให้ถูกเพราะหนังเรื่องนี้ทำมาเพื่อความบันเทิงยังไงก็ฝากด้วย"