สภากาชาดยืนยัน คนเห็นผี ไม่มีผลกระทบยอดบริจาคตา
ภาพยนตร์เรื่อง คนเห็นผี ผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของ อ๊อกไซด์ และ แดนนี่ แปง สองผู้กำกับชาวฮ่องกง ได้นำเสนอเรื่องราวผู้ได้รับบริจาคดวงตาจากผู้เสียชีวิตแล้วเกิดเห็นภาพน่าสะพรึงกลัว เช่น ภาพคนตาย และเรื่องราวในอดีตของผู้บริจาคดวงตา
อ๊อกไซด์ ผู้กำกับยืนยันว่า เนื้อหาภาพยนตร์เป็นสิ่งที่เขาจินตนาการขึ้นมาเอง ไม่ได้นำเรื่องจริงมาสร้าง และไม่มีเจตนาทางทางลบต่อการบริจาคดวงตา
"หนังเรื่องนี้ทำออกมาให้น่ากลัว แต่ผมว่าคนสมัยนี้ดูแล้วก็น่าจะรู้ว่าเป็นหนัง ไม่ได้เป็นสารคดีที่จะเป็นความจริง อย่างมีหนังที่มีผู้ร้ายไปปล้นร้านทอง คนดูคงไม่ได้คิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงหรอก เพราะคนดูเขาดูแล้วรู้ว่าอย่างไหนเป็นการสร้างขึ้นมา และอย่างไหนเป็นเรื่องจริง
อย่างในเรื่องที่นางเอกเป็นผู้หญิงที่รับบริจาคตามา คนที่เล่นเขาก็เล่นไปตามบทมากกว่า แต่ในความเป็นจริงผมก็ไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า แต่เคยมีเหตุการณ์ที่มีคนผ่าตัดตามาแล้วเขาก็ฆ่าตัวตาย ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไรอย่างที่ในหนังเป็นหรือเปล่า เพราะเขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเห็นอะไรถึงได้ฆ่าตัวตาย ซึ่งผมก็เอาเรื่องราวจากตรงนั้นออกมาแต่งเป็นหนังเรื่องนี้ออกมา"
ภาพยนตร์เรื่อง คนเห็นผี ยังมีฉากรถแก๊สระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว อ๊อกไซด์บอกกับเราว่า เขาสร้างเรื่องราวเหล่านี้ เพื่อต้องการให้เป็นการสอนให้คนดูรู้จักระวังตัวเอง
"ส่วนเรื่องของรถแก๊สที่ผมสร้างขึ้นมา ผมก็สร้างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นมาอีก เพราะเป็นความผิดของคนที่ขับรถเอง เพราะเขาขับรถประมาท แล้วอย่างเวลาที่รถแก๊สคว่ำก็ให้ออกไปห่างๆ จากที่ตรงนั้น เป็นการสอนให้คนดูได้รู้ว่า ถ้าเกิดมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นมาอีกก็ให้หนีทันที ไม่ได้ให้อยู่เพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมทำหนังก็ต้องการที่จะให้คนดูไปด้วยแล้วก็คิดตามด้วย"
นอกจากนี้หนังยังมีเหตุการณ์ที่พาดพิงไปถึงจรรยาบรรณแพทย์ด้วย ซึ่งอ๊อกไซด์บอกว่า หนังก็เป็นเพียงเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาเพื่อความสนุก ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ดูแล้วซีเรียส
"อย่างเรื่องของหมอที่เขาบอกชื่อของคนที่เขาบริจาคตา ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแพทย์ไม่สามารถทำได้ ผมว่าอยู่ที่ผู้ทำมากกว่า ว่า การที่แพทย์บอกออกไปแล้วมีผลกระทบต่อคนนั้นด้วยหรือเปล่า เพราะในเรื่องที่ผมเขียนบทให้บอกชื่อของผู้ที่บริจาค เพราะมันจะช่วยให้คนที่เขาอยากรู้สบายใจ ไม่ได้กลัวว่าจะมีผลกระทบต่อวงการแพทย์แต่อย่างใด เพราะหนังของผมไม่ได้เป็นสารคดีที่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่เป็นเพียงเหตุการณ์ที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น เพราะผมทำหนังเพื่อความสนุกและน่ากลัว"
นายวิโรจน์ ชื่นชม หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ รักษาการณ์แทนผู้อำนวยการ ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย ให้ความเห็นเกี่ยวกับการจินตนาการของภาพยนตร์เรื่อง คนเห็นผี ว่า หนังเรื่องนี้เป็นแค่การจินตนาการ ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับคนที่ต้องการรับบริจาคตา
"มันเป็นหนัง เขาจะมีการจินตนาการยังไงก็ได้ จริงๆ แล้วจากประสบการณ์ผู้ป่วยที่ผมได้ทำมา ก็ไม่เคยเห็นมีเจ้าของตาตามมาทวงคืน หรือมาทำให้เห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตเก่าๆ เพราะว่าคนที่เขาจะบริจาคดวงตาก็มีจิตใจที่ดีงาม มีความตั้งใจจริงที่จะบริจาค สิ่งใดที่เขาจะสามารถทำได้ก่อนที่เขาจะตาย แล้วมันยังมีสิ่งที่เป็นประโยชน์ เขาก็บริจาคให้ คงเป็นไปไม่ได้ว่า เขาจะมาคิดมิดีมิร้ายเมื่อบริจาคไปแล้ว
ด้วยวิชาการทางแพทย์กับเรื่องของสิ่งลี้ลับ มันเป็นคนละเรื่องกันเลย บางคนที่เจอเขาอาจจะคิดมากไปเอง แต่เท่าที่ผ่านมา คนที่เขาได้รับการบริจาคนั้น เขาจะรู้ว่ากระจกตาที่ได้รับก็มาจากคนที่ตายไปแล้ว ถ้าเขากลัวเขาก็คงไม่รับการผ่าตัด เท่าที่ผมเห็นมีแต่อยากจะรู้ว่าใครเป็นผู้บริจาค จะได้ทำบุญไปให้ แต่ว่าด้วยจรรยาบรรณทางการแพทย์แล้ว เราจะห้ามไม่ให้รู้ว่าใครเป็นผู้บริจาค เพราะการบริจาคตาจะต้องให้ใครก็ได้
ผลกระทบมันก็อาจจะมีบ้าง แต่มันก็น้อยเต็มที เพราะทุกคนก็รู้ว่ามันคือหนัง เขาจะสร้างยังไงก็ได้ เราคงไปห้ามเขาไม่ให้ทำไม่ได้ แต่ถ้าเกิดว่าเขามีการพาดพิงว่า ได้ตามาจากศูนย์ดวงตาแห่งใดแห่งหนึ่ง ก็คงจะเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา แต่ถ้าเป็นผลกระทบว่า คนจะไม่กล้ารับบริจาค คงไม่มี เพราะเท่าที่เห็นเขาก็มีแต่อยากจะได้ เพราะรอคิวนานเต็มที ปีนึงมีคนต้องการ 700 คน แต่เราหาได้แค่ 300 คนเท่านั้น"
