มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ งัดกลเม็ดกอบกู้รัก
พระเอกมาดกวน "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" ถือโอกาสพลิกบทบาทครั้งใหญ่ในภาพยนตร์เรื่อง "มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ" ต้องมารับบทเป็นนักเทนนิสหนุ่มนามว่า ดอน สีชัง ที่ชีวิตกำลังไปได้สวยทั้งในสนามกีฬาและในการคบกับ แอนนา ดาราสาวดาวรุ่ง รับบทโดย "มารี เบรินเนอร์" จนกระทั่ง จิมมี่ นักร้องสุดร้อนแรง รับบทโดย "เผือก - พงศธร จงวิลาส" เข้ามาแย่งชิงพื้นที่หัวใจ โดย ดอน พยายามกอบกู้หัวใจ แอนนา กลับคืนมา และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท ดิว รับบทโดย "หลิน - มชณต สุวรรณมาศ" ภาพยนตร์รักปนฮาเรื่องนี้เป็นฝีมือการเขียนบทและกำกับของ "นิว - อิทธิศักด์ เอื้อสุนทรวัฒนา" ซึ่งจัดงานแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
ผู้กำกับแง้มเหตุผลที่เลือก ซันนี่ มารับบทนำในเรื่องว่า "ด้วยความเป็นหนังโรแมนติกคอเมดี ซันนี่เขาจะมีความกวนอะไรของเขาอยู่แล้วแหละ แล้วความเหมาะสมกับบทเนี่ย เอาจริงๆ ผมก็นึกไม่ออกเลยนะครับว่าจะเป็นใครถ้าไม่ใช่เขา เวลาเลือกเราเลือกให้มันดีกับหนังที่สุด แล้วก็เหมาะสมที่สุด ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนเวลารับงานแสดงเขาตั้งใจ แล้วเขาสามารถเปลี่ยนตัวเองไปเป็นอีกคนหนึ่งได้เลย อย่างเรื่องนี้ก็เปลี่ยนไปเยอะเรื่องสรีระ" ส่วนการที่ให้ เผือก มาแสดงเป็นนักร้องมาดเท่ นิว เอ่ยว่า "บทจิมมี่เนี่ยเป็นร็อกสตาร์ที่อยู่ในเรื่องต้องมีความคอเมดีปนอยู่ด้วย ซึ่งผมมองว่าเผือกเนี่ยคือเขาการันตีเรื่องคอเมดีมาอยู่แล้ว แล้วถ้าเอามาปรับลุกส์ให้เป็นร็อกเกอร์เนี่ยน่าสนใจมาก ผมว่าเขามีมุมเท่ของเขาอยู่ คือพอมาปรับแล้วจะดูเท่มาก"
ด้วยความที่รับบทเป็นนักกีฬาเทนนิส ทำให้ ซันนี่ ต้องดูแลรูปร่างอย่างจริงจัง "จริงๆ ทำไม่ได้ครับ แต่ว่าต้องฝึกเป็นนักกีฬา เป็นเรื่องธรรมดาครับ มันเป็นการที่เราต้องหาคาแรกเตอร์ตัวตนนะครับผม แล้วก็สิ่งที่ชีวิตดอนต้องเจออ่ะครับว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง คือการเป็นนักกีฬาอาชีพเนี่ยเขาต้องเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก จริงๆ ผมรู้สึกเสียโอกาสเหมือนกันครับเพราะว่าเป็นกีฬาที่สนุกมาก รู้สึกว่าอยากย้อนเวลาแล้วไปฝึก" ส่วนจะต้องฝึกเล่นเทนนิสหนักขนาดไหน พระเอกหนุ่มเผยว่า "ก็ตลอดระยะเวลาครับ คือเราทำร่างกายไปด้วยเพื่อจะให้มองออกว่าเป็นนักกีฬา เพราะการมานั่งอธิบายคนว่าคนนี้เป็นนักกีฬามันเข้าใจยากครับ ก็เห็นภาพเลยดีกว่าง่ายที่สุด อย่างที่บอกก็คือเราต้องออกไปตีเทนนิสก่อนเกือบทุกเช้า 8 โมง ถึง 11 โมง แล้วก็ตอนบ่ายเราเข้าฟิตเนสต่อ" แถมยังต้องควบคุมเรื่องอาหารด้วย "ควบคุมอาหารเพราะว่าการจะสร้างร่างกายขึ้นมาเป็นนักกีฬาเนี่ย การกินเนี่ยมีความสำคัญถึง 70 เปอร์เซ็นต์"
กับการพลิกบทบาทครั้งนี้ถือว่ายากไหม ซันนี่ เปรยว่า "ไม่รู้ เราอยากเป็นตัวละครตัวนี้ เราก็ไม่เคยคิดว่ายากหรือไม่ยากแต่ว่ามันตื่นเต้นตั้งแต่เห็นบท เป็นบทภาพยนตร์ที่ดีครับ เราอ่านแล้วเราสนุกมากเลยเรารู้สึกว่าอยากทำ แล้วก็มีเวลาเท่านี้ผมจะทำให้ได้ ต้องเป็นนักกีฬาให้ได้ ได้เจอเทนนิสที่เป็นกีฬาที่สนุกด้วย" ฟาก มารี บอกว่าตื่นเต้นมากที่ได้มาแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก "ก็ตื่นเต้นมากๆ เลยนะคะ โดยเฉพาะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกนะคะที่มีโอกาสได้มาเล่น แล้วก็ดีใจมากๆ ที่ได้มาเล่นกับนักแสดงฝีมือดีขนาดนี้ แล้วก็ได้เจอกับผู้กำกับที่น่ารักขนาดนี้ด้วยนะคะ รู้สึกเป็นเกียรตินะคะที่ได้ร่วมงานกับพี่ซันนี่ แล้วก็ตื่นเต้นค่ะ ก็สนุกดีค่ะพี่ซันนี่ก็น่ารักมากๆ เลยค่ะ แล้วก็ดีใจด้วยนะคะที่ได้ร่วมงานกับพี่เผือก พี่เผือกน่ารัก เป็นคนที่อินคาแรกเตอร์มากๆ จนหนูเองยังกลั้นหัวเราะไม่อยู่เลยค่ะ" พร้อมเล่าฉากที่ประทับใจในเรื่องว่า "ที่ส่วนตัวถูกใจนะคะ แล้วก็รู้สึกว่ายากพอสมควร ก็คือซีนที่เล่นกับพี่เผือกนะคะจะเป็นซีนที่อยู่ในร้านอาหาร เพราะว่าเล่นยากมาก เพราะว่าตลกมากค่ะ จนตัวเองนี่นั่งแบบเอะอะก็หลุดหัวเราะแต่ก็เป็นซีนที่ตลกมาก แล้วก็รู้สึกว่าโชว์ถึงคาแรกเตอร์ของตัวจิมมี่แบบชัดเจนมากๆ ค่ะ"
หลิน นางแบบสาวที่ผ่านการเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอมาก่อน บอกถึงความแตกต่างที่ต้องมารับบทสาวห้าวในเรื่อง "ก็แตกต่างนะคะ เพราะส่วนมากด้วยความเป็นเอ็มวีทุกอย่างมันจะมีความอิงการเป็นนางแบบด้วยส่วนใหญ่ แต่คาแรกเตอร์นี้ก็คือเป็นคนธรรมดา ดิวเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งเลยค่ะ ก็ถือว่าท้าทายดีนะคะเพราะเราต้องทิ้งมาดของการเป็นนางแบบทั้งหมด ต้องทิ้งไปให้หมดแล้วก็เป็นดิวจริงๆ" ทางด้าน เผือก เอ่ยความในใจที่ได้หวนมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งหลังจากฝากผลงานไว้ใน "พี่มาก..พระโขนง" ว่า "ก็ 3 ปีกว่านะครับที่ไม่ได้เล่นหนัง มันก็คิดถึงแหละ แต่ก็เหมือนกับรอเวลาให้มันมีบทอะไรให้เราได้กลับมาสักทีหนึ่ง แล้วพอได้รับบท มิสเตอร์เฮิร์ท เขาบอกว่าเราได้เป็นร็อกสตาร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ก็ชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว มันน่าสนุก ผมจะชอบบทแปลกๆ ก็คือเป็นคาแรกเตอร์ที่แปลกดีครับ ก็เลยอยากจะกลับมาเล่น แล้วก็จังหวะเวลาอะไรมันลงตัวพอดีเลย ก็เลยกลับมา"
เผือก เผยว่าต้องทำการบ้านพอสมควรกับบทนักร้องชื่อดัง "ก็ศึกษา ศึกษาเยอะเลยครับก็เปิดดูคลิปการให้สัมภาษณ์ของศิลปินร็อกเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย คือดูตัวตนจริงๆ อย่างพี่ตูน (อาทิวราห์ คงมาลัย) ทุกคนจะเห็นว่าจะมีความนอบน้อม มีความแบบพูดเบา ใช้เสียงเบาๆ หรืออย่างพี่เสก (เสกสรร ศุขพิมาย) ก็จะมีความเป็นคิง เป็นแบบคิงออฟร็อกแอนด์โรลล์ เราก็เลือกเอาบุคลิกของแต่ละคนเอามาผสมๆ กันให้มันเป็นจิมมี่" ทั้งยังได้อวดเสียงร้องเป็นครั้งแรกในเรื่องนี้ด้วย "จริงๆ เรื่องการร้องเพลงมันไม่เคยฝัน ไม่เคยคิดถึงแล้วมันจะเป็นสิ่งที่ผมจะทำลำดับสุดท้ายของชีวิตน่ะครับ มันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกไม่ถนัด แล้วก็มีคนมาติดต่อให้ทำก็คงไม่ทำด้วย สมมติว่ามีคนบอกออกซิงเกิลไหม คงไม่ทำ แต่ว่าพอมาเป็นคาแรกเตอร์ของจิมมี่ มันจำเป็นที่จะต้องเข้าห้องอัดต้องทำเพลง แล้วก็สิ่งที่กดดันที่สุดคือจิมมี่เป็นเบอร์หนึ่ง เพราะฉะนั้นซิงเกิลมันควรออกมาดี ผมรู้สึกแบบนั้นเลยกดดันมาก"
ทิ้งท้ายด้วยการให้นักแสดงและผู้กำกับฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ ซันนี่ ถึงกับออกปากว่าผู้ชมจะต้องมีความสุขแน่นอน "2 กุมภานะครับ ฝากดูด้วยนะครับ เป็นภาพยนตร์น่ารักสนุกสนานแล้วก็มั่นใจคนดูเรื่องนี้จะมีความสุขมากๆ แน่นอนครับผม" มารี ชวนมาฮามาเจ็บไปด้วยกัน "มาร่วมกันฮา มาร่วมกันเฮิร์ตนะคะ ก็สนุกแน่นอนอยากให้ติดตามค่ะ" หลิน เสริมว่า "ก็เป็นหนังน่ารักๆ เรื่องหนึ่งนะคะที่อยากให้ทุกคนไปดูกันค่ะ ไม่ว่าจะอกหักหรือว่าจะมีความรักก็ไปดูได้ค่ะ" เผือก แง้มว่าเรื่องนี้จะทำให้หัวเราะไปกับความเจ็บ "เรื่องนี้มันมีสองอารมณ์อยู่แล้วนะครับ ความเฮิร์ต ความเจ็บ แต่ว่ามันเป็นความเฮิร์ตที่ทำให้คุณได้หัวเราะกับมันได้มีความสุข ก็ไปดูกันครับ มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ" ผู้กำกับหนุ่มฝากภาพยนตร์เรื่องที่ตั้งใจสร้างมาเพื่อมอบความสุขให้ผู้ชม "ก็ฝากด้วยนะครับ ก็เป็นหนังที่ตั้งใจสร้างมาเพื่อให้ความสุขกับผู้ชมนะครับ ก็ทั้งตลกแล้วก็มีความโรแมนติกซาบซึ้ง ก็ฝากติดตามด้วย"
ติดตามภารกิจกอบกู้หัวใจของ มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ กำหนดเข้าฉาย 2 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์