วานรคู่ฟัด ผงาดศาสตร์ต่อสู้ผสานมวยลิงของโขนและงิ้ว

ต้อนรับปีวอกและฉลองเทศกาลตรุษจีนไปกับศาสตร์การต่อสู้ที่ผสานมวยลิงของ 2 ซีกวัฒนธรรม ได้แก่ โขนของไทยและงิ้วของจีนไว้ด้วยกัน เป็นรูปแบบของหนุมานและเห้งเจียใน "วานรคู่ฟัด" หรือ "Monkey Twins" ภาพยนตร์เรื่องแรกของค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ ก้าวไทยทะยาน ที่ใช้เวลาในการผลิตถึง 5 ปีด้วยกัน โดยได้มีการแถลงข่าวภาพยนตร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ณ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ งานนี้ผู้กำกับแอ็กชันมือฉมัง "กุ้ง - นนทกร ทวีสุข" พร้อมกับอีก 2 ผู้บริหาร "ท็อป - วีระพล ภูมาตย์ฝน" "เมี่ยง - อิสรีย์ แสงมงคลเลิศสิริ" นำทัพนักแสดงมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ "โอ๋ - สำเร็จ เมืองพุทธ" "โซซีน - ปัณณ์ญาณัช จิรโรจน์ธนเกษม" "คาซู แพทริก แทง" (Kazu Patrick Tang) "มืด - ประสาท ทองอร่าม" "เม้ง - อำพัน เจริญสุขลาภ" หรือ "เม้ง ป.ปลา" "วิทย์ - ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล" "โจ๊ก - อรรถวุฒิ อินทอง" "สายเชีย วงศ์วิโรจน์" บรรยากาศในงานเริ่มต้นขึ้นด้วยการแสดงศิลปะการต่อสู้ของคู่พระนางอย่างมันถึงใจ ต่อด้วยนักร้องหนุ่มเสียงดี "เจมส์ - เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" ที่ออกมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อันมีความหมายแสนกินใจ "หน้ากาก" ให้ได้ฟังกันเป็นการอุ่นเครื่อง

เจมส์ พูดถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ผมได้รับการทาบทามครั้งแรกจากผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือพี่กุ้ง จริงๆ แล้วพี่กุ้งมีความเป็นมากับผมนี่เกือบ 20 ปีนะฮะ ถ้าใครจำได้เนี่ย 10 กว่าปีที่แล้ว ผมเคยสวมบทบาทอินทรีแดงนะฮะ ตอนนั้นผมร่วมงานกับพี่กุ้ง พี่กุ้งจะดูแลเรื่องภาพ ที่เห็นภาพสวยๆ ที่เป็นที่จดจำของอินทรีแดง พี่กุ้งเริ่มต้นจากตรงนั้น ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่กุ้งว่ามีโปรเจกต์อยู่อันหนึ่ง พี่กุ้งใช้เวลาใช้ประสบการณ์ชีวิตทุ่มเทกับมันถึง 5 ปีด้วยกัน ผมฟังแค่นี้ ผมบอกพี่กุ้งมีอะไรให้ผมทำบ้าง พี่กุ้งบอกว่าอยากได้เสียงของผมมาร่วมร้องในเพลงประกอบภาพยนตร์ แล้วก็ส่งเพลงให้ผมฟังเลย ผมก็เซย์เยสเลย บอกพี่ไม่ต้องคุยค่าตัวกัน (หัวเราะ) แล้วก็พอมีโอกาสได้ฟังความหมายของเพลงแล้วเนี่ย ผมค้นพบเลยว่าวันนี้สิ่งสำคัญที่สุด ภาพยนตร์หรือหนัง หรืออะไรก็แล้วแต่ มันเป็นมหรสพหนึ่ง ซึ่งจะสื่อสารข้อความบางอย่างไปสู่ผู้ชม แล้วเพลงนี้พูดถึงคำว่าหน้ากาก เขาบอกว่าถ้าวันนี้ทุกคนเปิดใจคุยกัน เราก็จะเห็นตัวตนที่แท้จริง ผมก็เลยบอกพี่กุ้งว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่นอกจากจะมีความเพราะแล้ว ผมว่ามันให้อะไรกับคนได้เยอะ"

ผู้กำกับมากฝีมือเอ่ยถึงที่มาที่ไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็ประทับใจกับคำของ ครูเชิด (เชิด ทรงศรี) นะครับ ที่บอกว่าเราจะสำแดงความเป็นไทยให้โลกดูนะครับ ก็เลยอยากทำหนังเรื่องนี้ที่มีกลิ่นของความเป็นไทย มีคัลเจอร์วัฒนธรรมไทย แต่ก็ไม่เชยหรือล้าสมัยจนคนในรุ่นนี้รับไม่ได้นะครับ" ฟากพระเอกของเรื่องแนะนำตัวละครที่ตนเองได้รับว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ โอ๋ สำเร็จ เมืองพุทธ นะฮะ เล่นเป็นพระเอกชื่อ เหนือ ในภาพยนตร์เรื่อง วานรคู่ฟัด ครับ" ตามด้วยนางเอกสาวคนเก่ง "สวัสดีค่ะ ซีน ปัณณ์ญาณัช จิรโรจน์ธนเกษม ค่ะ รับบทเป็น ลี่อิน ค่ะ ในเรื่อง วานรคู่ฟัด ค่ะ" ส่งต่อกับ ครูมืด อีกหนึ่งนักแสดงคนสำคัญ "ผม ครูมืด ประสาท ทองอร่าม นะครับ ได้รับบทเป็นพระเอกนะครับ (หัวเราะ) ได้รับบทเป็น ปู่กล้า นะครับ เป็นปู่ของพระเอกนะครับ ซึ่งมีความรู้ในเรื่องของมวยต้องห้ามไว้ในตัว แล้วก็มาเก็บเอาไว้นะครับ แล้วก็จะเป็นเรื่องจะต้องต่อเนื่องไปอีกนะครับ"

ด้าน เม้ง ป.ปลา เผยเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า "ชีวิตจริงผมก็คือเป็นอาจารย์สอนงิ้วนะฮะ โดยตรงฮะ ผมศึกษางิ้วตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ไปเรียนที่ประเทศจีน แล้วก็เป็นอาจารย์สอนงิ้วตั้งแต่อายุ 20 กว่า 50 ปีแล้วฮะ ได้ทำงิ้วไทยมา 30 กว่าปีฮะ ตอนนี้ก็ขอบพระคุณที่ผู้กำกับคุณกุ้งได้ให้โอกาสมาเป็นพ่อของนางเอกคนสวย เป็นเตี่ยฮะ" ขณะที่นักแสดงมากฝีมืออย่าง วิทย์ แนะนำบทบาทตัวละครที่ได้รับว่า "รับบทเป็น ชาญชัย พ่อของคาซูนะฮะ เป็นตัวร้ายของเรื่อง" หนุ่มลูกครึ่งจีน-เวียดนาม ที่เติบโตในประเทศฝรั่งเศส ที่เคยแสดงชั้นเชิงการต่อสู้ในภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่องอย่าง คาซู กล่าวทักทายว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ คาซู แพทริก แทง ในเรื่องผมเล่นชื่อ โซ ครับ เป็นตัวร้าย" และหนุ่มอารมณ์ดี สายเชีย "สวัสดีครับ ผม สายเชีย วงศ์วิโรจน์ ครับ รับบทเป็นคนเก็บเงินกู้ ชื่อว่า เชีย นี่แหละ ตอนแรกที่รับงานก็ถามเขาว่าขำไหม เขาบอกว่าขำ งั้นรับ"

กุ้ง เผยวิธีการคัดเลือกพระเอกและนางเอกในเรื่องนี้ว่า "การเลือกพระเอกนางเอกหนังแอ็กชันมันค่อนข้างยากนะครับ ในใจผมเนี่ยนึกถึงว่าอยากได้หล่อแบบ นิชคุณ (นิชคุณ หรเวชกุล) เก่งแบบ โทนี่ จา (จาพนม ยีรัมย์) เลยนะ แต่ผมหาไม่ได้ (หัวเราะ) ภาระเลยตกอยู่กับเขา ตัวของโอ๋ก็ไม่ได้โนเนมนะครับ ก็ได้เล่นหนังมาแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ได้เล่นเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก เขาก็เป็นหนึ่งในทีมงานในการออกแบบคิวบู๊ด้วยนะครับ คอนเซปต์แอ็กชันดีไซน์ด้วย เป็นผู้ช่วยของท็อปนะครับ แล้วเราก็เห็นแววเขา เขาคลุกคลีอยู่กับโปรเจกต์เรามายาวนาน แล้วที่สำคัญคือเขาไม่เคยทิ้งผม ความดีของเขาก็เลยได้รับโอกาสเป็นพระเอก นอกจากเก่งแล้วก็ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนดีที่ไม่ทิ้งผมเลย ในภาวะที่เราจะสุขหรือจะทุกข์ก็ตาม นี่คือข้อดีที่เขาได้รับโอกาส ก็ยกเป็นความดีของเขาแล้วกัน ส่วนน้องซีนยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลยครับ ในการจะหานางเอกแอ็กชันนะครับ เราก็เปิดแคสติงมาเยอะเหมือนกัน แต่ว่ามาได้น้องเขาเพราะว่าน้องเขาเรียนเต้นมา แล้วสเต็ปเต้นของน้อง แลงเกวจบอดีของเขาดีมาก ภาษากายเขาดีมาก และที่สำคัญเขาจำคิวบู๊ได้เป็นอันดับหนึ่ง เพราะว่าเขาใช้สเต็ปแอนด์ 1 แอนด์ 2 แอนด์ 3 อะไรของเขา ก็เลยทำให้พวกเราเห็นว่าเขามีสกิลพอที่จะมาฝึกแอ็กชันได้ บวกกับที่ท็อปดูบอดีเขา ดูเซนส์เขา ผมกับท็อปก็เลยเลือกน้องเขาครับ"

นางเอกสาวอธิบายความเหมือนของการเต้นและการออกท่าทางในการต่อสู้ว่า "คือเบสออนของการแอ็กชันกับการเต้นมันก็คือการขยับแขน ขยับร่างกายเหมือนกัน ดังนั้นตอนที่ไปแคสต์คือเราก็ไม่รู้ว่าบู๊ยากง่ายขนาดไหน แต่เขาต่อท่าเราแบบนี้ เราก็จำเป็นท่า 1 แอนด์ 2 3 แอนด์ 4 5 แอนด์ 6 แอนด์ 7 ลง 8 เตะ 1 อะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยไปเข้าตาพี่กุ้งพี่ท็อปค่ะ" สาว โซซีน เล่าเกี่ยวกับการเข้ามาเป็นนางเอกของภาพยนตร์เรื่อง วานรคู่ฟัด ให้ฟังว่า "คือซีนต้องบอกว่าจบเอกแดนซ์ ของมศว. คณะศิลปกรรมศาสตร์ แล้วก็พอเรียนจบปุ๊บ ยังไม่ทันได้ทำงานเลยค่ะ มาแคสติงหนังเรื่องนี้เลยค่ะ แล้วก็เขาบอกว่าแอ็กชันง่ายๆ ไม่มีอะไรหรอก เขาบอกซีนแบบนี้นะคะ ซีนก็เลยไปด้วยความไม่ประหม่าเลย เพราะว่าเขาบอกว่าซีนทำได้อยู่แล้ว ซีนก็เลยไป ตอนแคสต์ซีนว่าง่าย แต่ตอนที่มาเวิร์กชอป แล้วก็ตอนถ่ายจริงแบบร้องไห้หลายรอบมาก คือเหนื่อยมาก คนที่ไม่เคยเป็นบู๊เลย อยู่ดีๆ จะต้องมาเตะ ต้องมาเจ็บตัวเองอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยหนังเรื่องนี้คือทุกคนรังสรรค์กันมากๆ"

ผู้กำกับมือดีฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็อยากขอให้โอกาสแล้วกันนะครับ ก็อยากจะบอกแบบนั้น ผมก็เป็นหนึ่งในทีมที่ทำแอ็กชันมาอย่างยาวนานนะครับ ผมก็มีส่วนเหมือนกันในการที่จะทำบทหนังแอ็กชัน แล้วก็โดนดุโดนว่าโดนด่าว่าบทแอ็กชันมันไม่ค่อยดีหรืออะไรก็แล้วแต่นะครับ เราเลยรู้สึกว่าเรื่องของเราที่จะทำครั้งต่อไปนี้ เราต้องทำอย่างเต็มที่ที่สุด ในแง่ของบทภาพยนตร์ แล้วก็ในแง่ของการวางคอนเซปต์แอ็กชันดีไซน์ต่างๆ แล้วก็เมสเซจต่างๆ ที่เราพยายามอยากจะเล่า ไม่ใช่แค่มาดูหนังแอ็กชันมันๆ แล้วก็กลับไป เราอยากให้ฟินในหลายแง่มุมนะครับ เรื่องเกี่ยวกับความงดงามของวัฒนธรรมไทยที่คนโบราณของเราซ่อนเหลี่ยมลับพับมวยอยู่ใน รามเกียรติ์ ได้อย่างประณีตบรรจงมาก แล้วก็ไม่มีใครเอาออกมาเป็นรูปธรรมนะครับ หนังเรื่องนี้จะว่าด้วยเรื่องมวยลิงต้องห้ามซึ่งถูกซ่อนไว้ เป็นเรื่องจริงเลยนะฮะ นี่ถอดออกมาจากความเป็นจริงของคนโบราณที่เขาทำกันไว้ เพียงแต่ว่าไม่เคยมีใครนำท่วงท่าพวกนี้มาพรีเซนต์เป็นแอ็กชันอย่างเป็นรูปธรรม หนังของเราจะเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำเกี่ยวกับมวยลิงไทยโบราณครับ อยากจะขอโอกาสให้ทุกคนลองมาให้โอกาสในการมาดูนะครับ"

ร่วมพิสูจน์ความเก่งกล้าในเชิงศาสตร์และศิลป์ของการต่อสู้สุดเดือดในภาพยนตร์ วานรคู่ฟัด ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์