งัดศาสตร์การต่อสู้โบราณเผชิญหน้าศัตรูใน สยามยุทธ
"สยามยุทธ" ภาพยนตร์แนวแอ็กชันดราม่าจากปลายปากกาของนักเขียนบทไฟแรง "โซ่ - คีต ประทวน" ถ่ายทอดเรื่องราวเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก ประชาชนในสยามประเทศถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ก่อให้เกิดการแก่งแย่งอำนาจความเป็นใหญ่ ซึ่งผู้กำกับขาลุย "ดำ - ธนาวุฒิ เกสโร" ได้หยิบยกเอาศาสตร์การต่อสู้โบราณอย่างมวยไชยาและการต่อสู้ด้วยดาบ มานำเสนออย่างถึงพริกถึงขิงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เหล่านักแสดงอย่าง "ธันน์ ธนากร" "กระดุม - ธนายง ว่องตระกูล" "เก่ง - กฤษฏ์ศิรวัชร แก้วมณีกานนท์" "แคนดี้ รากแก่น" "อั้ม - ถิร ชุติกุล" "โชค - โชคชัย เจริญสุข" "แจ็ค - อธิบดี พันตาวงศ์" และ "ฮันนี่ - ไปรยาพิณ เจริญวิชิตไชยเดช" ต้องทุ่มเทฝึกวิชาการต่อสู้กันสุดตัวเพื่อเข้าถึงบทบาทให้ได้มากที่สุด
ภาพยนตร์ สยามยุทธ เปิดตัวกันไป เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 ณ ลานอินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ซึ่งได้รับเกียรติจาก "ท่านหญิงประภาพันธุ์ กรโกสียกาจ" "พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์" และ "รัตนาวุธ วัชโรทัย" ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานอีกด้วย เริ่มต้นเรียกเสียงฮือฮาด้วยการแสดงศาสตร์มวยไชยาให้ได้ชมกันสดๆ ทั้งแบบรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ จากนั้นสาวร่างเล็ก "หมิว - นัยนภา บุญเพชร" ก็ได้ปลุกเลือดรักชาติของชาวสยามให้เดือดพล่าน ด้วยการขับร้องบทเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง สยามยุทธ ในเพลง "ผู้กล้า" ก่อนส่งต่อเวทีให้ผู้กำกับและเหล่านักแสดงได้พูดคุยถึงภาพยนตร์เรื่องนี้
ดำ บอกถึงที่มาของชื่อภาพยนตร์ สยามยุทธ ว่า "ผมใช้คำว่า ประเทศไทย คือ สยาม แล้วก็ ยุทธ คือ ยุทธวิธี การคิด การรบ การทุกอย่าง ก็เลยเป็น สยามยุทธ" ด้านหนุ่ม เก่ง ที่ได้รับบทเป็น พระเจ้าตากสินมหาราช กล่าวความรู้สึกว่า "สวัสดีครับผม เก่ง กฤษฏ์ศิรวัชร ในเรื่องผมรับบทเป็น สิน ครับผม เป็น พระเจ้าตากสินมหาราช ครับ ก็หนักใจแล้วก็ถือเป็นบทที่สูงส่ง แล้วก็มีเกียรติกับตัวผมเองแล้วก็ครอบครัวด้วย เพราะว่าผมเป็นลูกทหารอยู่แล้ว คุณตา คุณปู่ คุณพ่อ พี่ชายทั้ง 2 คนก็เป็นทหาร เราก็ซึมซับระเบียบวินัยรวมถึงการปฏิบัติต่างๆ ผมเติบโตมาก็ได้ยินเสียงพลทหารอยู่ข้างบ้านแล้วครับ เราก็เลยซึมซับ แล้วพอเรารับบทนี้เนี่ยมันก็เลยทำให้เรารู้สึกอิน"
ด้าน ฮันนี่ ที่แสดงเป็น อังกาบ เผยว่าตนเองต้องเก่งทั้งบทบู๊และบทรัก "ก็เป็นหนึ่งสตรีที่เสียสละทั้งความรัก แล้วก็เสียสละเรือนร่างเพื่อแลกแผ่นดินเกิด ฮันเข้ามาตรงนี้ด้วยโอกาสจากครูดำ ครูดำถามคำถามเดียวว่า ฮันนี่หนูเลือกที่จะเป็น หรือ อยากที่จะเป็น ฮันตอบว่า ฮันเลือกที่จะเป็น การเลือกที่จะเป็นคุณจะต้องยอมรับทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสภาวะ ไม่ว่าจะด้านอารมณ์หรือสถานการณ์ ทุกๆ อย่างคุณจะต้องยอมรับความจริง และอยู่กับความจริง แล้วคุณจะถึงวันที่ประสบความสำเร็จ แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ นี่คืออังกาบ ก็ถามว่าบทในคาแรกเตอร์เนี่ยแน่นอนค่ะ พอรู้ว่าจะต้องเก่งทั้งบู๊ เก่งทั้งรัก ก็คือต้องมีเล่นเลิฟซีน ก็คิดเหมือนกันว่าจะมีปัญหาไหมถ้าเล่นไปแล้ว สรุปแล้วก็ไม่มีปัญหา"
ฟาก แคนดี้ เอ่ยถึงตัวละคร บัว ว่า "สวัสดีค่ะ แคนดี้ รากแก่น นะคะ ก็เป็นคนอีสานแต่ต้องมารับบทสืบทอดวัฒนธรรมของทางภาคใต้นะคะ ต้องมาเรียนมวยไชยา เรียนดาบอาทมาฏ ในเรื่องรับบทเป็นแม่หญิงบัวค่ะ แม่หญิงบัวก็จะเป็นผู้นำกองทัพหญิงนะคะ ที่รวบรวมเอาเหล่าสตรีที่ถูกทำร้ายเนี่ยล่ะค่ะรวมกันมา แล้วก็มากอบกู้ชาตินะคะ มาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับสมเด็จพระเจ้าตากสินค่ะ" แคนดี้ เปิดใจว่าตนเองได้ซึมซับมวยไชยามาเป็นที่เรียบร้อย "ในเรื่องนี่แทบไม่มีความสวยเลย แต่ละคนนี่คือแบบว่าเล่นกันสดๆ จริงๆ ก็คือเราใช้วิชามวยไชยา ซึ่งทุกคนต้องเรียนจริงๆ ค่ะ ไม่ได้เรียนมาเพื่อแค่การแสดง ทุกคนต้องเรียนเพื่อรู้จริงๆ แล้วในเรื่องเล่นจริงๆ ด้วยไม่มีแสตนด์อินใดๆ นะคะ พวกเราใช้หัวใจ แล้วก็อยู่กับเรื่องนี้มา 2 ปีเต็ม รู้สึกผูกพันแล้วก็รู้สึกว่าตอนนี้มวยไชยาซึมซับเข้าไปอยู่ในร่างกายเรียบร้อยแล้ว"
ฮันนี่ พูดถึงฉากต่อสู้ว่า "เยอะค่ะ เยอะ เพราะว่าโดยอาวุธนี่ก็ต้องใช้เป็นดาบซามูไร ใช้ระเบิดด้วย เป็นผู้หญิงที่พร็อบเยอะมาก" แว่วมาว่าสาวคนนี้แสดงฉากบู๊จนไหปลาร้าหักมาแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า "ก็อย่างที่บอกค่ะ มาร์เชียลอาร์ต แอ็ก บาย ครูดำ ธนาวุฒิ สอนให้ทุกคนเป็นนักสู้ ฉะนั้นวันนี้ที่ทุกคนมาอยู่ ณ ตรงนี้ ทุกคนก็จะได้ดูนักสู้บนจอภาพยนตร์แน่นอนค่ะ พวกเรามีสัญชาตญาณในการปกป้องตัวจริงๆ อย่างพี่เก่งเนี่ยอยู่ข้างๆ จับฮันไม่ได้นะ" ซึ่งหนุ่ม เก่ง เสริมว่า "โดนมาแล้วครับ คือตอนที่ไปทัวร์สื่อมวลชนเนี่ย เราก็อยู่กับน้องฮันนี่บ่อยๆ ใช่ไหมครับ เผลอแตะปุ๊บ เข้ากกหูเลยครับผม"
โซ่ คนเขียนบทและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ ฝากให้ทุกคนรู้จักหน้าที่ของตนเอง "จริงๆ นักแสดงในเรื่องเยอะมาก แล้วทุกคนมีบทบาทซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นทหารตัวเล็กตัวน้อย ชาวบ้าน ประชาชน ขุนนาง ขุนศึก หรือแม้พระมหากษัตริย์ ทุกคนล้วนเป็นฟันเฟืองของกันและกัน เพราะฉะนั้นฟันเฟืองเหล่านี้จะทำให้ประเทศชาติก้าวหน้า หรือสิ่งที่มุ่งหวังไว้ก้าวหน้าขึ้นไปได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากหัวเดิน แต่ว่าฟันเฟืองหรือตัวอื่นๆ ไม่ยอมหมุนหรือไม่ยอมเดินมันก็ไปไหนไม่ได้สักที เพราะฉะนั้นก็อยากจะให้รู้ว่าทุกคนในประเทศนี้นะครับ ทุกคนเรามีหน้าที่ ไม่ใช่เฉพาะแต่จะเป็นรัฐบาลหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง พยายามผลักดันให้ประเทศเราเนี่ยก้าวไปจากจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรที่จะเป็นฟันเฟืองช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อฟันเฟืองประเทศไทยก้าวไปอยู่ข้างหน้า ก้าวไปสู่อนาคตที่ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ครับผม"
ติดตามอีกหนึ่งเรื่องราวจากหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย ในภาพยนตร์เรื่อง สยามยุทธ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2558 เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์