2538 อัลเทอร์มาจีบ ชวนสัมผัสความรักฉบับย้อนยุค
"2538 อัลเทอร์มาจีบ" ภาพยนตร์ที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสู่ยุคสมัยอันเฟื่องฟูของดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ กับท่วงทำนองแห่งรักแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลงานการกำกับของ "เสือ - ยรรยง คุรุอังกูร" ซึ่งพูดถึงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟ ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ว่า "อัลเทอร์เนทีฟ ถ้าแปลตรงๆ ก็คือทางเลือกใหม่ครับ มันก็เคยเกิดกระแสใหม่ขึ้นมานะครับ จากยุคดนตรีที่เป็นเมนสตรีม เป็นป๊อปจากค่ายใหญ่ๆ ทั่วไปนะฮะ ตอนนั้นกระแสเพลงก็เปิดมากขึ้น เนื่องจากการเข้ามาของทาวเวอร์เรคคอร์ดเอง คือการเข้ามาของการทำธุรกิจเกี่ยวกับขายซีดีขายเทปของทาวเวอร์เรคคอร์ด หรือแม้แต่เอ็มทีวีไทยแลนด์ แชนแนลวีฯ ทุกคนก็ได้เสพดนตรีที่เป็นฝั่งยุโรป ฝั่งอเมริกา เยอะขึ้น ซึ่งยุคนั้นก็อัลเทอร์เนทีฟของฝั่งนู้นก็จะดัง ทำให้เป็นอิทธิพลกับศิลปินยุคนี้ที่เป็นอินดี้ขึ้นมาทำอัลเทอร์เนทีฟ"
ผู้กำกับเล่าเนื้อหาของภาพยนตร์ว่า "2538 อัลเทอร์มาจีบ เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่เป็นยุคนี้แหละ ยุคโซเชียลมีเดีย ทำอะไรก็อยู่ในจอโทรศัพท์หมด แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็จะได้ย้อนกลับไปโดยบังเอิญ เขาไปเจอเพจเจอร์แล้วก็ย้อนอดีตกลับไป ได้ไปเจอบรรยากาศตอนที่เพลงอัลเทอร์เนทีฟกำลังเฟื่องฟูเลย ไปเจอเพลง พี่ป้าง (นครินทร์ กิ่งศักดิ์) เพลงสมัยวง พราว กับอรอรีย์ (อรอรีย์ จุฬารัตน์) อะไรอย่างนี้ฮะ ก็ได้ไปอยู่ในบรรยากาศตรงนั้น ได้ไปเจอการสื่อสารที่ไม่ได้อยู่แค่ในจอสี่เหลี่ยม ไปเจอความละเอียดลออของคนยุคนั้น การคิดก่อนทำ การเพจเจอร์ การจีบกันว่าเป็นยังไง"
"ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" นางเอกของเรื่อง มองว่า ปี 2538 มีความลำบากในการสื่อสารมาก "หนูรู้สึกว่าถ้าเกิดว่าหนูอยู่สมัยนั้นคง คุยกันลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ มีการกลับไปถามแม่ว่าแล้วสมัยพ่อกับแม่จีบกันทำไง ถ้ามันยากขนาดนี้ สมัยก่อนแม่กับพ่อบอกว่ากว่าจะได้รักกันนะเธอ นัดกันป้ายรถเมล์ ทำไมพ่อไม่มาอีก ทำไมไม่มาจะไม่จริงจังใช่ไหม แค่ป้ายรถเมล์ถัดไปคนละอันอย่างนี้ก็ไม่ได้แล้ว หากันไม่เจอแล้ว สมัยก่อนยากมากเลยนะ" ด้านหนุ่ม "เนตั้น - แดนอรุณ รามณรงค์" ซึ่งเกิดในปี 2539 กล่าวว่า "คือไม่ใช่ว่าตอนเกิดยุคนี้จะหายไปแล้วครับ คือจริงๆ ไม่ได้หายไป แต่คือตอนผมเกิดเนี่ยยังมีพวกซาวนด์อะเบาต์ พวกที่เขาเล่นเทป ยังมีอยู่นิดหนึ่งครับ ก็เคยเห็นผ่านๆ ครับ แต่ไม่เคยใช้แบบจริงๆ จังๆ"
เนตั้น รับบทเป็น ก้อง ชายหนุ่มที่ข้ามเวลามาจากปี 2558 เผยความรู้สึกที่ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกว่า "หนังเรื่องแรกครับ ก็ตื่นเต้นนิดหนึ่งครับ เพราะว่าไม่เคยเล่นหนังมาก่อนแต่ก็รอดครับ (ยิ้ม) สนุกมากครับ ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ในชีวิตจริงไม่ได้ทำ" ฟากผู้กำกับกล่าวถึงการทำงานกับพระเอกน้องใหม่ว่า "เนตั้นต้องให้กล้องตามเขาครับ เราอย่าไปตั้งแล้วให้เขาเล่น ต้องให้เขาเล่นไปเลยจะได้แอ็กติ้งที่ดีมาก เขาเล่นเหวี่ยงๆ (หัวเราะ) แต่ว่าดีฮะ" ส่วนนางเอกสาวยังได้แง้มวีรกรรมเด็ดๆ ของหนุ่ม เนตั้น ให้ฟังอีกด้วย "นี่เขาก็เก่งอยู่แล้ว เขามีความตั้งใจ เนตั้นเป็นเด็กที่ตั้งใจแล้วพลังเยอะมาก สมมติว่าพี่เสือบอกว่าซีนนี้เดี๋ยวเนตั้นต้องวิ่งเข้าฉากนะ พอจะถ่ายมันไปไหน ไปตั้งอยู่หน้าปากซอยเตรียมวิ่งค่ะ พลังเยอะมาก คือไกลจริงค่ะ ดีดตลอดเวลา ดึกๆ นี่ดีดมาก"
สาว "โฟน - ชลกาญจน์ พวงน้อย" ก็มาประเดิมภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเช่นเดียวกัน "เรื่องนี้ก็เป็นหนังเรื่องแรกของโฟน จริงๆ ก็ตื่นเต้นมาก" สาว โฟน เอ่ยถึงวิธีการเตรียมตัวเป็น แหม่ม คุณแม่ของ ก้อง ในปี 2538 ว่า "ทำการบ้านเหมือนกันค่ะ เพราะว่าเราเกิดในยุคที่มีโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว เราไม่ทันในยุคนั้น เราก็เลยจะต้องไปศึกษาว่าสมัยนั้นเป็นยังไง ก็จะไปดูโฆษณาสมัยนั้น ก็จะให้พ่อแม่เล่าให้ฟังว่าเป็นยังไงบ้าง" ฟาก "แวน - ชนินทร์ จิตปรีดา" เล่าถึงบทบาท ตั้ม ในช่วงวัยรุ่นว่า "คือด้วยตั้มเนี่ยบ้านเขาขายเทปครับ ก็ใช้บัตรจีบ จีบกัน ก็ได้ผ่านตรงนั้นมาบ้าง เพราะว่าบ้านขายเทปจริงๆ แล้วก็บัตรจีบที่บ้านก็ขายนะครับ นี่ผมถือมาเนี่ย (หยิบบัตรจีบออกมาให้ดู) ก็ชอบครับ ตัวละครก็มีเสน่ห์ เล่นดนตรีอะไรอย่างนี้ครับ ก็ชอบครับผม"
"อิงค์ - อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา" กล่าวถึงการมารับบท ตั้ม คุณพ่อของ ก้อง ในยุคปัจจุบันว่า "นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองนะครับ แต่ว่าเรื่องแรกนั้นเป็นพระเอกแล้วก็หมดยุคไปแล้วนะครับ ก็ตอนนี้ก็เป็นพ่อพระเอกแล้ว เรื่องหน้าอาจจะเป็นปู่พระเอกหรืออะไรก็ว่ากันไป (หัวเราะ) เขาติดต่อมาผมก็ยินดีเลย ไม่มีเอะใจว่าเป็นพ่อแล้วจะดียังไง คือผมชอบการเล่นภาพยนตร์ แต่ว่าโอกาสได้เล่นมีไม่เยอะที่เข้ามา เพราะฉะนั้นพอมันเข้ามาเราก็ยินดีที่จะเล่นครับ ก็ดีนะครับ ก็คือได้กลับไปเห็นเพจเจอร์ใหม่ ซึ่งคือที่บ้านยังมีอยู่แต่ไม่ได้ใช้แล้ว คือเราก็ผ่านยุคนั้นมา คือผมเนี่ยตั้งแต่เห็นเครื่องเล่นวิดีโอเทปครั้งแรกเลยด้วยซ้ำไป ก็ย้อนไปไกลมากฮะก็เห็นมา มันก็เปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ก็เปลี่ยนผ่านมาหลายยุคนะครับ ก็ตั้งแต่สมัยนั้นมาแล้วก็พอมาเล่นเป็นพ่อมันก็ได้อีกฟีลหนึ่งครับ แล้วก็มาดูเรื่องย่อที่พี่เสือเขาทำไว้ก็น่าสนใจดีครับ"
สาว ใบเฟิร์น บอกความต่างของภาพยนตร์รักเรื่องนี้กับเรื่องอื่นๆ ว่า "สิ่งหนึ่งที่เฟิร์นว่าเรื่องนี้มันไม่เหมือนหนังรักเรื่องอื่นๆ คืออย่างเฟิร์นได้อ่านบท เฟิร์นได้กลับไปทวนตัวเองเลยนะว่าเราลืมมองอะไรรอบๆ ตัวไปหรือเปล่า เราลืมมองคนข้างๆ หรือว่าเราลืมให้ความสำคัญกับการรอคอยไปหรือเปล่า เฟิร์นเพิ่งมาคิดๆ ดูว่าทุกวันนี้เฟิร์นเลือกเพลงที่เฟิร์นอยากฟังได้เลย เฟิร์นไม่เคยต้องรอว่าต้องรอฟังเพลงที่เราชอบบ้างไม่ชอบบ้าง เพื่อไปถึงเพลงที่เราอยากจะฟัง เราไม่เคยให้คุณค่าของการรอคอยเลย บางทีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต หนังเรื่องนี้อาจจะเตือนสติทุกคนได้ก็ได้นะคะ ก็อยากให้ไปดู นอกจากความสนุกแล้วมีอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นประโยชน์แล้วก็ดีๆ กับชีวิตแน่นอนค่ะ"
ผู้กำกับยังได้ฝากภาพยนตร์ไว้ด้วยว่า "มันเป็นภาพยนตร์อย่างที่ใบเฟิร์นบอก ทำให้เรานึกถึงอดีตได้สำหรับคนที่อยู่ยุคนั้นนะครับ แล้วก็ทำให้คนยุคนี้ หวนกลับไปคิดว่าเราร้อนไปหรือเปล่า เราเร็วไปหรือเปล่า ความละเอียดของจิตใจคน ความละเอียดของการที่เราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อให้สำเร็จตามขั้นตอน แต่ทุกวันนี้รวดเร็วจนข้ามรายละเอียดเหล่านี้ไป ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะให้ตรงนี้ด้วย แล้วก็เรื่องของความรักความสนุกสนานมีครบครันอยู่แล้ว ดนตรี เพลง ที่ทำหน้าที่ของเขาได้ดี แล้วก็ยังได้อยู่ในบรรยากาศ 2538 จริงๆ อยากให้ทุกคนไปดู 19 มีนาคม ครับ"
ร่วมเรียนรู้วิธีสานสัมพันธ์กับคนที่ถูกใจฉบับยุคอัลเทอร์เนทีฟ แล้วจะพบว่าโลกหมุนช้าลงกว่าที่เคย ในภาพยนตร์ 2538 อัลเทอร์มาจีบ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม นี้ ที่ โรงภาพยนตร์