เอมี่ และ ซี ฉลองรักชื่นมื่น หวานละมุนอุ่นหัวใจ
เป็นอีกหนึ่งคู่รักคนบันเทิง ที่ร่วมเส้นทางรักกันยาวนานกว่า 9 ปี ที่ใครหลายๆ คนก็ต่างพากันอิจฉาถึงความหวานของคู่รักคู่นี้ สำหรับ "ซี - ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์" และ "เอมี่ กลิ่นประทุม" ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เข้าพิธีหมั้นและวิวาห์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ณ วังจักรพงษ์ และได้มีการจัดงานพิธีฉลองมงคลสมรสกันเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2557 ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน โดยมีผู้ใหญ่รวมทั้งเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการมาร่วมแสดงความยินดีมากมาย นอกจากนี้ทั้งคู่ก็ได้เปิดใจถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่ให้ฟังกันอีกด้วย
ชีวิตหลังแต่งงานไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ซี "ก็มีความสุขฮะ จริงๆ ก็เหมือนเดิมเนอะ จริงๆ แล้วเราสองคนก็เหมือนเดิม ก็อย่างที่บอกนะฮะว่า เราก็แต่งงานกันแล้ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเวลาเราพูดกับใครว่า เมื่อก่อนพูดว่านี่แฟนผมครับ ก็ต้องพูดว่านี่เป็นภรรยาผม ส่วนใหญ่จะพูดว่าเมียมากกว่า ก็เลยรู้สึกว่า เป็นการย้ำเตือนว่าต่อไปนี้คือมันไม่มีคำว่าตัวผมคนเดียวละ มันก็จะมีเราสองคน อะไรแบบนี้ครับ ก็ดีครับ"
เอมี่ "ก็จริงๆ ก็คล้ายๆ เหมือนเดิมนะคะ แต่ว่าอาจจะมีแบบว่า คุณซีเขาก็จะมีมุมกุ๊กกิ๊กมากขึ้น เหมือนเขาก็จะ ภรรยาทำอะไรอยู่ ภรรยาเป็นไงบ้างค่ะ แล้วมันทำให้เรารู้สึกก็ดีค่ะ ก็รู้สึกสดชื่น รู้สึกแฮปปี้ดีค่ะ"
ฝ่ายชายหวานขึ้นบ้างไหม
เอมี่ "ก็มีใส่ใจมากขึ้น อาจจะช่วงเห่ออยู่"
ซี "9 ปีแล้ว มันไม่เกี่ยวหรอก"
เอมี่ "แต่มันก็ดีค่ะ ก็ดี"
ซี "คืออย่างที่บอกครับ เราสองคนไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะว่าจริงๆ ตั้งแต่วันแรกที่เราคบกันจนถึงตอนนี้ คือเราเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งแฟน และผมเป็นเพื่อนสาวเขาด้วยอย่างที่บอกนะฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว มันคงจะไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นเราก็จะทำทุกวันให้ดีที่สุดครับ เราจะทำทุกวันให้ดีที่สุด ก็อย่างที่ผมพูดเสมอครับว่า จริงๆ สิ่งที่มันยากคือเราจะทำยังไงให้วันนี้เราไม่รักกันน้อยไปกว่าเมื่อวานนี้ คือเราก็จะคุยกันตลอด"
คิดว่าการศึกษาดูใจเวลา 9 ปี นานไปหรือเปล่า
เอมี่ "คือพอเรา มาพูดกันว่า 9 ปี เราก็ไม่ได้รู้สึกว่า 9 ปี มันรู้สึกว่า 9 ปีแล้วเหรอ เพราะฉะนั้นคนเขาบอก 9 ปีนานมาก จริงๆ มานั่งคิดดูมันก็ไม่ได้นานมาก แต่ว่ามันทำให้เราผ่านเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันค่อนข้างเยอะ แล้วก็ พอเรานึกย้อนกลับไป มันทำให้เรานึกถึงอะไรได้หลายๆ อย่างมาก แต่ว่าถ้าให้มองไปข้างหน้า มันยังเหลือเวลาอีกเยอะมาก เพราะฉะนั้นถ้าเทียบกันว่า 9 ปี ก็ถือว่านิดเดียวเอง"
มีเหตุการณ์ไหนที่ให้เรารู้สึกมั่นใจว่าจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ซี "ก็คงจะเป็นหลังจากที่คุณแม่เสียครับ ที่มีความรู้สึกว่าชีวิตเรามันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ คือตอนเด็กๆ ผมเคยคิดว่าชีวิตเราน่าจะมีอายุสักประมาณ 70-80 ปี ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเราไม่สามารถที่จะกำหนดอะไรได้เลย ทั้งๆ ที่คุณแม่ผมก็ร่างกายแข็งแรงดี จนวันหนึ่งอยู่ๆ เขาก็จากผมไป เขามีคำทิ้งท้ายที่บอกกับผมว่าเขาอยากให้ผมแต่งงาน เพราะฉะนั้นแล้วหลังจากที่คุณแม่ผมเสีย ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากจะคาดหวัง หรือจะรอคอยอะไรอีกต่อไปแล้วในสิ่งที่ผมไม่สามารถกำหนดได้ ผมคงไม่สามารถการันตีได้ว่าชีวิตคู่ของผมสองคนจะราบเรียบ หรือมันจะดียังไง แต่อย่างน้อย มันก็คงเป็นความท้าทาย และมันก็คงเป็นเรื่องที่ดีที่เราสองคนจะช่วยกันทำให้มันดีขึ้น จะได้ไม่ต้องมีคำว่าอยากอีกต่อไปแล้ว จะได้ไม่ต้องมีคำว่าผมอยากแต่งงาน ผมอยากมีชีวิตคู่ ผมอยากมีครอบครัวให้แม่ผม เพราะฉะนั้นผมก็เลยคิดว่า ก็ลองจินตนาการดูว่า ถ้าสมมติว่าไม่มีเขาในโลกนี้ แล้วชีวิตผมจะเป็นยังไง คำตอบมันก็คือแบบ ชื่อเสียง เงินทอง อะไรทุกอย่างมันก็จะไม่มีความหมายเลย เพราะฉะนั้นผมก็เลยมีความรู้สึกว่า น่าจะพร้อมแล้วล่ะ ที่เราควรที่จะใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน"
ซี มีอาการกลัวภรรยาบ้างไหม
เอมี่ "ไม่ เขาก็เหมือนเดิมแหละ ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนปกติ (หัวเราะ) ทำงานละ ก็พอมาถึงวันนี้ค่ะ คนก็ถามว่าตื่นเต้นไหม ตอนแรกก็บอกว่าไม่ตื่นเต้น แต่เพิ่งจะมารู้สึกตื่นเต้นตอนลงมานั่งตอนนี้"
ซี "คือกลัว มันคงไม่ได้กลัวหรอกครับ ผมว่าน่าจะเป็นหน้าที่ของสามีมากกว่าครับที่ต้องดูแลเขา ที่ต้องทำอะไรที่เขาชอบอะไรก็ทำแบบนั้น แต่ว่าก็อยู่ในที่เรารับได้นะฮะ"
สินสอดมูลค่าเท่าไร
ซี "สมฐานะมากกว่าครับ คือไม่ได้คิดเลยจริงๆ ว่ามันจะประมาณเท่าไร เพราะว่าครอบครัวเขาน่ารักมากครับ ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรเลย สิ่งที่แด๊ดขอผมอย่างเดียวคือดูแลลูกสาวเขาให้ดีแค่นั้นเอง"
เห็นว่ามีแหวนเพชรด้วย
ซี "อันนี้เป็นแหวนของคุณแม่ครับ คุณแม่เอาไว้ให้ ก็ดีแล้วครับ เราก็ไม่ต้องไปอะไรเพิ่มมากมาย ประมาณ 5.3 ครับ"
เรือนหอที่ยังไม่เสร็จ ตอนนี้ถึงไหนแล้ว
ซี "ก็หลังจากแต่ง ก็เดี๋ยวตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จจริงๆ ครับ เพราะว่าคือเราก็ไม่มีเวลาไปดูเลย คือกลัวว่าเดี๋ยวถ้าเกิดให้คนอื่นเข้าไปดูเดี๋ยวจะมีปัญหาครับ ตอนนี้ยังอยู่ที่บ้าน รามฯ 92 อยู่"
คาดว่าจะย้ายเข้าไปอยู่เรือนหอประมาณช่วงไหน
ซี "คงให้เสร็จก่อนครับ เพราะว่าเราไม่อยากจะเข้าไปอยู่แล้วก็ทำครึ่งๆ กลางๆ ครับ อยากให้ทำให้เสร็จและก็ทำบุญขึ้นบ้านทีเดียว แล้วก็มาอยู่เลย"
เรือนหออยู่แถวไหน
ซี "ลำลูกกาครับ มันก็ไม่ไกลนะ"
วางแผนว่าจะมีลูกกันเลยไหม
ซี "ยังครับๆ ยังคิดว่าคงจะยังสนุกกับการใช้ชีวิตคู่อยู่ แล้วก็ยังสนุกกับการทำงาน เพราะว่าเราสองคนก็มีโปรเจกต์เยอะ เขาเองก็ต้องทำงาน ผมก็ต้องทำงาน ก็เลยคิดว่าเดี๋ยวเราทำงานสักปีหนึ่ง สองปี แล้วเดี๋ยวเรามาคุยอีกทีครับว่าเราจะมีตัวเล็กเลยไหมครับ"
เอมี่ "คิดตรงกันค่ะ ก็อาจจะยังอยู่ในช่วงทำงานกันอยู่ แล้วก็ยังอยากที่จะไปโน่นไปนี่ ยังอยากเที่ยวกันอยู่ ยังอยากทำอะไรที่ๆ ยังเป็นสองคนอยู่ เราก็เลยรู้สึกว่าเดี๋ยวเอาให้ทุกอย่างพร้อมจริงๆ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาสร้างครอบครัวกัน"
แล้วแผนเรื่องการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์
เอมี่ "ฮันนีมูนยัง เหมือนยังเลือกประเทศอยู่นะคะ แต่ว่าตั้งใจจะไปหลายๆ ที่หน่อย แต่คงจะเป็นโซนยุโรป"
ของชำร่วยในงานแต่งงานเป็นอะไร
ซี "คือความคิดของเราสองคนนะครับ เรามีความรู้สึกว่า คือเราไม่อยากหนึ่ง เราไม่อยากสร้างภาระให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาในงาน เราก็เลยมีความรู้สึกว่าแทนที่เราจะเอาเงินเป็นแสนๆ ไปลงทุนกับของชำร่วย ซึ่งน้อยมากที่จะเป็นประโยชน์ บางคนก็ลืมบ้าง บางคนก็ไม่อยากเอากลับไปบ้าง ก็เลยคิดว่าเราเอาไปทำบุญดีกว่า ก็เลยเอาไปมอบให้กับน้องๆ โรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลมูลนิธิ (มูลนิธีโรงพยาบาลเด็ก) ที่ราชวิถี ซึ่งทุกปีผมก็ไปเวลาทำบุญวันเกิด ก็จะไปที่นั่นอยู่แล้ว ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าเราน่าจะทำ เอาเงินก้อนนี้แทนที่จะไปซื้อของชำร่วยที่บางคนอาจจะอยากได้ แต่บางคนก็ทิ้งหายไป ก็เลยเอาไปทำประโยชน์ดีกว่าที่ๆ คนเขาต้องการครับ ก็เลยแจ้งบอกทุกๆ ท่านไปว่าขออภัยนะครับที่เราอาจจะไม่ได้มีของชำร่วยติดไป"
เอมี่ "ก็คือเหมือนทุกคนได้ทำบุญด้วยกัน"
ซี "ใช่ ก็คือพวกเราทุกคนให้แขกผู้มีเกียรติที่มาเนี่ยก็เหมือนร่วมทำบุญให้กับเราด้วย และก็มอบให้กับน้องๆ"
งานฉลองสมรสมีแนวคิดอะไรเป็นพิเศษไหม
ซี "ไม่มีเลยครับ สนุกอย่างเดียวครับ ขอให้สนุกอย่างเดียว จริงๆ แล้วเนี่ยมากัน ใส่ชุดแบบนี้กันก็ได้นะ แบบสบายๆ เพราะว่าผมแฮปปี้แล้วจริงๆ"
เอมี่ "ก็จริงๆ ธีมก็คือแบบเหมือนคล้ายๆ ด้วยความที่เราเดินทางไปถ่ายพรีเวดดิงที่นิวยอร์ก ก็เลยเหมือนเป็นธีมเหมือนให้ทุกคนอยู่เซ็นทรัลพาร์กเหมือนกันค่ะ เพราะเป็นที่ๆ เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน แล้วเราก็กลับไปถ่ายพรีเวดดิงด้วย ก็เลยให้มันเป็นแบบที่ร่มรื่น คุณซีเองก็ชอบต้นไม้ ก็อยากได้อะไรที่มันร่มรื่นๆ เข้ามาแล้วก็รู้สึกสบายใจ เย็นสบาย"
ภายในงานจะมีใครมาทำอะไรเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่า
ซี "ผมไม่แน่ใจ ถ้าตัวผมไม่มีแน่ๆ แต่ตัวเขาผมไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะมีเซอร์ไพรส์ให้ผมเปล่า"
เอมี่ "ไม่มี (หัวเราะ)"
มาถึงตรงนี้แล้วอยากบอกอะไรแก่กันบ้างไหม
ซี "จริงๆ แล้วผมคุยกันทุกวัน ผมบอกกันทุกวันนะครับ ก็มีผัวแล้วนะเรา"
เอมี่ "นึกว่าจะแบบอะไรซึ้งๆ"
ซี "จะบอกว่ามีแล้วก็อย่าทิ้งกันนะ เพราะว่าไม่เอาแล้วนะ หมดแล้วนะ คือก่อนหน้านี้คือเราเฉยๆ ไง เรามีความรู้สึกว่าความโสดมันเป็นเรื่องธรรมดา พอคนจะสูญเสียเอกราช เรามีความรู้สึกว่าความโสดมันเหมือนเนื้อสด ราคาไม่ลดแต่มีคนอยากได้ แต่ตอนนี้ผมหมดสิทธิ์แล้วนะ หมดสิทธิ์แล้ว ก็เลยบอกว่า เออตัวเอง คือมีผัวแล้วนะ อย่าทิ้งเขานะ ประมาณนั้น ไม่มีใครเอาแล้วนะ"
เอมี่ "มีเมียแล้วนะ รู้ไว้นะ"
ซี "บ้า ถ้าไม่เจ้าชู้ จะรู้ได้ไงว่าตัวเองหึง พูดเล่นๆๆ"
คำมั่นสัญญาที่มีต่อกันคืออะไร
ซี "คือเราจะไม่สัญญากัน เราจะทำวันนี้แหละ คือเราจะอยู่ ณ ความสุข ณ ปัจจุบัน คือผมเชื่อว่าชีวิตคู่เนี่ย คือเราคบกันมา 9 ปี มันมีทั้งดี มันมีทั้งไม่ดี มันมีทั้งสุข มันมีทั้งทุกข์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว คงจะไม่มี ผมคงไม่สัญญาว่าจะไม่ทำให้เขาเสียใจ เพราะว่ามันมีอยู่แล้ว แต่ว่าผมจะสัญญาว่า คือผมจะไม่ยอมแพ้แค่นั้นเอง ตอนที่เรารักกันเนี่ยเราก็รักกัน ตอนที่เราทะเลาะกันเราก็จะรักกันด้วย นั่นคือสิ่งที่เราคุยกันนะครับ ผมว่าน่าจะดีที่สุดแล้วครับ"
บรรยากาศภายในงานได้เนรมิตห้องจัดงานให้คล้ายคลึงกับสวนเซ็นทรัลพาร์ก ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ร่มรื่นและสวยงาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทั้งคู่เคยไปเที่ยวด้วยกัน ภายในงานเจ้าสาวก็รู้สึกตื่นตันใจและขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในวันนี้ "ขอบคุณแขกในวันนี้ทุกคนนะคะ ที่เสียสละเวลามาร่วมงานแล้วก็มาแสดงความยินดีกับเราสองคนนะคะ มันมีความหมายมาก ยังพูดกับคุณซีเลยว่า วันนี้จะมีคนมาหรือเปล่า คนจะเบื่อเราสองคนไหม จัดงานอยู่นั่นแหละนะคะ ขอบคุณ ขอบคุณมากนะคะที่วันนี้มาอยู่ด้วยกันนะคะ"
สาว เอมี่ ยังได้ขอบคุณคู่ชีวิตอย่างหนุ่ม ซี ที่คอยอยู่เคียงข้างกันมาตลอด "ขอบคุณคุณซีที่ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทิ้งไปไหนนะคะ ขอบคุณที่ไม่เคยท้อ ไม่เคยไปไหน แล้วก็ไม่เคยยอมแพ้กับความรักของเราค่ะ" ฟากเจ้าบ่าวก็จะขอใช้เวลาทั้งชีวิตในการพิสูจน์ชีวิตคู่ของตัวเอง "แม้ว่าคำว่า รัก ของผมจะใช้เวลาไปแค่หนึ่งวินาที แต่ผมจะใช้เวลาทั้งชีวิตนี้ ที่จะพิสูจน์ว่าผมรักคุณเอมี่มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเป็นกำลังใจให้เราสองคนด้วยนะครับ ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ" นอกจากนี้ภายในงานยังได้นักร้องหนุ่ม "หนึ่ง - อภิวัฒน์ พงษ์วาท" สมาชิกวง "อีทีซี" มาร้องเพลงให้บรรยากาศภายในงานหวานละมุนไปทั้งงาน อาทิ "เพราะเธอ...คือคำตอบ" และอีกช่วงที่หลายคนรอคอยก็คือการโยนช่อดอกไม้จากเจ้าสาว งานนี้ผู้ที่ได้รับไป คือ "เมย์ - พิชญ์นาฏ สาขากร" และ "ชมพู่ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต"
สำหรับผู้ใหญ่และเพื่อนพ้องในวงการบันเทิง ก็เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง "ดู๋ - สัญญา คุณากร" "เอก - รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง" "ไอซ์ - อธิชนัน ศรีเสวก" "บี - มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์" "เจี๊ยบ - ชมพูนุช ปิยธรรมชัย" "ติ๊ก - กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ" "นุ่น - วรนุช ภิรมย์ภักดี" "นก - อุษณีย์ วัฒฐานะ" "ขวัญ - อุษามณี ไวทยานนท์" "เอ๋ - พรทิพย์ สกิดใจ" "เติ้ล - ตะวัน จารุจินดา" ควงคู่มากับภรรยา "กระแต - เสาวคนธ์ พลัดพูลผล" "ยิ่งยง ยอดบัวงาม" "ฮาย - อาภาพร นครสวรรค์" "เข็ม - ลภัสสรดา ช่วยเกื้อ" "เอส - กันตพงศ์ บำรุงรักษ์" "เป๊ก - สัณชัย เองตระกูล" ที่มากับลูกสาว "ลียา - ลลียา เองตระกูล" "นีโน่ - เมทนี บุรณศิริ" "ตั๊ก - นภัสกร มิตรเอม" "เบนซ์ - พรชิตา ณ สงขลา" มากับหนุ่ม "มิค - บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ" "เบนซ์ - ปุณยาพร พูลพิพัฒน์" "เชน - ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์" "อ๊อฟ - ชนะพล สัตยา" "เกรซ - กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า" กับหวานใจ "ก้อง - กรุณ ซอโสตถิกุล"