หนุ่ม คงกะพัน หวานฉ่ำ ฉลองสมรสสาวนอกวงการ
เรียกได้ว่าปีนี้ เป็นปีแห่งความชื่นมื่นของเหล่าคนวงการบันเทิง ที่ควงคู่เข้าประตูวิวาห์กันมากมาย คราวนี้ถึงคราวของนักแสดงและพิธีกรมากความสามารถ "หนุ่ม - คงกะพัน แสงสุริยะ" กับสาวผู้บริหารสถาบันสอนภาษา "อุ้ม - ปาณิศา ชันคณารักษ์กูล" หลังจากที่ทั้งคู่ศึกษาดูใจกันประมาณ 5 ปี โดยเข้าพิธีวิวาห์แบบไทยๆ ไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ที่จังหวัดร้อยเอ็ด บ้านเกิดของเจ้าสาว โดยมีสินสอด ทองหมั้น ประกอบด้วย ชุดเครื่องเพชร แหวนเพชร 3 กะรัต ทองคำ 288 บาท เงินสด 9.9 ล้านบาท รวมทั้งที่ดินใกล้ทะเลที่จังหวัดชุมพร บ้านเกิดของเจ้าบ่าวด้วย
และในวันที่ 15 มิถุนายน 2557 ทั้งคู่ก็ได้อวดความหวานให้ได้อิจฉาตาร้อนกัน ในพิธีฉลองมงคลสมรส ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล งานนี้คู่ข้าวใหม่ปลามันก็ได้เผยถึงความรู้สึกต่างๆ รวมทั้งเส้นทางความรักของทั้งคู่อีกด้วย
ได้จัดงานไปก่อนหน้านี้แล้ว ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง
หนุ่ม "วันที่ 8 ใช่ไหมครับ ก็รู้สึกในวันนั้นนะครับ ตื่นเต้นมากเลย เพราะว่าจัดงานที่บ้านเจ้าสาว แล้วก็แขกมีถึง 2,000 คนเนอะ อุ้มรู้สึกยังไงครับ"
อุ้ม "ก็ตื่นเต้นมาก"
หนุ่ม "วันนั้นครอบครัวของน้องอุ้มก็มีความสุขมาก ผม ปาป๊า หม่าม้า ร้องไห้ใหญ่เลย รวมถึงอุ้มด้วยเนอะ"
ได้จดทะเบียนสมรสกันเลยหรือเปล่า
หนุ่ม "จดทะเบียนสมรสเรียบร้อยเลยครับ ในวันที่ 8 ก็เป็นงานเช้า เราก็จะตักบาตร ทำพิธีสงฆ์ และก็มีจดทะเบียนสมรส ทำพิธีสวมแหวนหมั้น พอตกเย็นก็เป็นงานเลี้ยงกลางคืน ก็เลี้ยงพ่อแม่พี่น้อง และก็เหล่าบรรดาลูกค้าของทางปาป๊าอุ้ม ก็เป็นครอบครัวของทางน้องอุ้ม ซึ่งอยู่ที่อยู่ที่อุบลฯ และก็ที่ร้อยเอ็ดนะครับ แขกเยอะมากวันนั้น อาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็สนุกมาก"
สินสอดทองหมั้นมีอะไรบ้าง
อุ้ม "ก็มีแหวน 3 กะรัต"
หนุ่ม "ทองก็ประมาณ 288 บาทครับ มันเป็นเลขมงคล เห็นเขาบอกว่าคนจีนชอบเลข 8"
เรือนหออยู่ที่ไหน
หนุ่ม "เรือนหอที่กรุงเทพฯ ครับ อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็คือจะอยู่แถวเลียบด่วนครับ เป็นบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบันนี้ คือจริงๆ บ้านที่อยู่เป็นสองหลัง เราก็ทำหลังหนึ่งเพื่อที่เป็นเรือนหอ ไม่ได้สร้างใหม่ครับ แต่ว่าตกแต่งใหม่ รื้อทำใหม่ อยู่ที่กรุงเทพฯ ดีกว่า แล้วก็ค่อยไปร้อยเอ็ด ไปๆ มาๆ"
ฝ่ายหญิงต้องปรับตัวเยอะไหม
อุ้ม "นิดนึง ก็ (หัวเราะ) นิดหน่อยค่ะ เราก็คบกันมาสักพักหนึ่งแล้ว ก็เหมือนตื่นมามีอีกคนหนึ่งอยู่เป็นเพื่อนแค่นั้นเอง"
ทำกับข้าวให้ หนุ่ม กินบ้างไหม
อุ้ม "ยังค่ะ (หัวเราะ)"
หนุ่ม "ปอกมะม่วงๆ เก่งมาก"
อุ้ม "ก็ช่วงนี้ยุ่งๆ ค่ะ ก็ยังไม่ได้มีโอกาสเลย หลังจากกลับจากร้อยเอ็ดมา ไม่กี่วันเองก็มีงานฉลองที่นี่ ก็เลยยังไม่ค่อยได้มีโอกาสได้เข้าครัว"
หนุ่ม "จริงๆ เขาเป็นคนแม่บ้านแม่เรือนนะ ผมก็ไม่เคยรู้ว่า จริงๆ ผู้หญิงยุคใหม่ทำกับข้าวเก่ง และก็เป็นคนที่มีฝีไม้ลายมือในการเข้าครัว ทำเป็น ปอกผลไม้ หรือว่าทำกับข้าว เตรียมอาหารนี่เก่งมากนะฮะ เก่งมากจริงๆ ยอมรับเลย"
ทั้งสองคนรู้จักกันได้อย่างไร
หนุ่ม "ก็รู้จักกันที่ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ครับ เป็นสถานที่ที่น่ารักมาก เหมือนรู้จักกันตอนเด็กๆ ไปเดินห้าง ไม่ใช่ พอดีว่า อุ้มเขาทำโรงเรียนไอแคนรีดนะครับ และก็เพื่อนพี่หนุ่มเนี่ย เป็นเพื่อนรักกัน เป็นเพื่อนสนิทกัน ก็บอกว่ามีน้องคนหนึ่ง เขาทำโรงเรียนนะ อยากทำเรื่องการตลาด หนุ่มทำโทรทัศน์ช่วยให้คำปรึกษาหน่อย เราก็เลยไปหาเขาที่ไอแคนรีดที่แจ้งวัฒนะวันนั้น ก็เลยไปเจอกัน ก็คุยกันธรรมดานะครับ ก็คุยกันเหมือนคุยงานธรรมดา ให้คำปรึกษา เพื่อนเขาก็แนะนำว่าเออนี่อุ้มนะ นี่พี่หนุ่มนะ เราก็คุยธรรมดา อุ้มทำอะไรครับ โรงเรียนไอแคนรีด เขาบอกเป็นโรงเรียนสอนภาษา เราก็เลยให้คำแนะนำว่าอย่างนี้สิครับ อย่างนี้สิ อย่างโน้นสิ อย่างนั้นสิ ก็ไม่ได้คุยอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรเลย"
ตอนเจอ หนุ่ม ครั้งแรกรู้สึกอะไรบ้าง
อุ้ม "ครั้งแรกเหรอ ครั้งแรกก็เฉยๆ นะ เพราะว่าพี่หนุ่มเขาเรียบร้อย พูดน้อย"
หนุ่ม "พอหลังจากนั้นก็คุยเรื่องงาน พี่หนุ่มก็คุยเรื่องงาน ก็โทรไป พี่หนุ่มคิดว่าอย่างนี้นะ แผนนี้ดีไหมสำหรับไอแคนรีด เราทำอย่างนี้ดีไหม การตลาดสำหรับเด็กอย่างนี้นะ เราควรจะหาพรีเซนเตอร์เป็นเด็กนะ น่ารักๆ อะไรก็ว่ากันไป ก็คุย แต่ว่าก็คุยตามประสาคนเหงาเนอะ มันก็จะคุยยาวกว่าปกตินิดนึง แล้วผมก็จะเลือกเวลาโทร ผมจะโทรตอนประมาณห้าทุ่มกว่า"
อุ้ม "โทรวันละครั้ง"
หนุ่ม "เพราะเขาอยู่ไอแคนรีด เขาก็จะยุ่งมาก งานยุ่งเวลาอยู่ที่โรงเรียน เราก็จะไม่โทรตอนกลางวัน เราก็จะโทรไปห้าทุ่ม และไม่โทรเวลาอื่นเลย เพราะว่าจะเป็นการรบกวน ผมเป็นคนเรียบร้อยมาก มีวินัยในการทำงาน ก็โทรไปห้าทุ่มๆ พอวันไหนห้าทุ่มไม่โทรไป ก็จะถามละ ทำไมเมื่อวานไม่โทรมา เราก็ อ้าวแล้วคิดถึงกันเหรอถึงได้ถาม"
ใช้เวลานานไหมกว่าจะจีบติด
หนุ่ม "ก็ใช้เวลาอยู่หลายเดือนนะครับ ก็ใช้วิธีนี้แหละ พี่หนุ่มก็โทรไปเวลาเดิมๆ ทุกวันจนเขาบ่น"
อุ้ม "แล้วก็หายไปสองวันบ้าง"
หนุ่ม "ตอนหลังคือหายให้ถามไง"
อุ้ม "หายไปสองอาทิตย์ก็มี หายไปเลย"
หนุ่ม "หายให้ถาม ให้รู้สึกว่า ทำไมห้าทุ่มวันนี้ไม่โทรมา พอคนมันเป็นกิจวัตรๆ เขาจะเริ่มเคยชินกับชีวิตประจำวัน พอห้าทุ่มเขาก็จะมีคนคุยเป็นเพื่อนจนถึงสักเที่ยงคืนแล้วก็นอน ช่วงนี้ไม่มี ก็ต้องคุยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เหงาไง คราวนี้ก็เรียกร้องให้โทร ผมบอกว่า พี่ไม่ว่างละ แอ็กเลยคราวนี้"
ประทับใจอะไรกันและกัน
หนุ่ม "คุณอุ้มเป็นคนที่รักเด็กนะครับ พอเราได้มีโอกาสไปที่โรงเรียน ก็รู้ว่าเขารักเด็ก เขาดูแลเด็กได้ดี คือเวลาคนที่ทำงานอยู่กับเด็ก เด็ก 5 ขวบ 6 ขวบ 7 ขวบเนี่ย ซนมาก คืออยู่กับเด็ก แล้วเวลาเด็กเขาอยู่ด้วยกัน 40-50 คน ซนมากๆ แล้ววุ่นวายมาก แต่ว่าอุ้มเขามีความอดทนในการที่ คนนี้ปีนโต๊ะ คนโน้นเอาดินสอมาเขียนเล่น คนนี้โวยวาย คนนี้จะกินขนม คนนี้ทำน้ำหก เขาก็มีความอดทน เออ ลูกครับ ใจเย็นๆ นะครับ อย่าทำอย่างนี้นะครับ อย่าทำอย่างโน้นนะครับ ใจเย็นมากเลย กับเด็กอย่างเดียวนะ กับพี่หนุ่มนี่โหดมาก จนตอนหลังเราก็ คนนี้แหละใช่แล้ว ดูแลลูกเราได้ และเป็นคนดี รักเด็ก แต่พอกับผู้ใหญ่ โหดมาก (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ ล้อเล่น และก็ดูแลเราดีนะครับ ตอนช่วงแรกเขาก็พยายามดูแลเราเรื่องอาหารการกิน คือเราเป็นคนทำงานนะครับ กินไม่เป็นเวลา ก็มีโรคกระเพาะอาหารเป็นโรคประจำตัว แล้วเราก็อยู่คนเดียว ไม่มีแม่บ้านหรือมีใครทำกับข้าวให้ ก็กินแต่พวกอาหารแช่แข็ง เวลาคุยโทรศัพท์กันห้าทุ่มเที่ยงคืน เขาก็จะได้ยินเสียง ติ๊ง เขาก็จะรู้แล้วว่าเรากินพวกของแช่ พี่หนุ่มก็ต้องซื้อมาแช่ไว้ และก็มาอุ่นทานตอนกลางคืน เขาก็บอกว่า กินอย่างนี้ไม่น่าสุขภาพดีนะ เขาก็แนะนำเรื่องอาหารการกินให้นะครับ ก็ดูเขาก็เป็นห่วงดูแลเราดีนะ"
อุ้ม "ก็พี่หนุ่มเป็นคนสม่ำเสมอเนอะ อย่างที่เขาเล่าให้ฟัง โทรมา ห้าทุ่ม แรกๆ อุ้มก็งงนะ ไปไหน หกโมง สองทุ่ม ต้องไปกินข้าวกับคนอื่นแน่เลย ไม่โผล่มา โผล่มาห้าทุ่ม แล้วก็จะใช้วิธีเดียวตอนห้าทุ่ม เหมือนอุ้มมีนาฬิกาปลุกตอนห้าทุ่มตลอดเวลา เราก็เริ่มซึมซับเขาเป็นคนสม่ำเสมอ เขาเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก เป็นคนใจเย็นมาก ในขณะที่เราก็มีอะไรที่ต่างกันเยอะ แล้วเราก็มีอะไรที่คล้ายๆ กัน พี่หนุ่มเป็นคนชอบออกกำลังกาย เราเห็นชีวิตประจำวันเขา เรารู้แล้วว่าชีวิตไม่มีอะไรเลย"
หนุ่ม "อ้าว"
อุ้ม "ไม่ใช่ๆ หมายถึงทำงาน ทำแต่งาน และก็หลังจากเลิกงาน สี่โมงเย็นถึงสองทุ่มเนอะ ไปตามได้ที่ฟิตเนส เขาก็ชีวิตอยู่แค่นี้ บางวันก็สนามกอล์ฟ เราก็รู้สึกว่าโอเค"
มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรบ้างไหม
หนุ่ม "ก็จริงๆ แล้วเราก็มีความต่างกันหลายเรื่องนะครับ ในวันที่อุ้มเจอพี่หนุ่มครั้งแรก ก็ยังแซวเลยว่า ทำไม ผู้ชายคนนี้เชยจัง คือเราเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจด้านแฟชั่นน่ะ คือก็สบายๆ ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ นึกออกไหม เราก็ลุยๆ ทางนี้เขาก็เป็นคนแบบ เป็นผู้หญิงนะ เขาก็รักสวยรักงาม เขาก็ยังชื่นชมพี่หนุ่มว่า ทำไมคนนี้เชยจัง"
อุ้ม "ไม่ อุ้มรู้สึกว่า ใช้เงินน้อยดี แล้วก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย อุ้มรู้สึกโอเค เป็นคนรู้จักเก็บตัง"
หนุ่ม "ก็นั่นแหละครับ ก็แต่ว่าช่วงปรับตัว ก็ยอมรับว่ามีปัญหาบ้างนะครับ เนื่องจากว่าเราก็มาจากคนละท้องถิ่น คนละวัฒนธรรม ครอบครัวก็ไม่คล้ายกันเท่าไร ก็แต่ว่าตอนหลังก็ลงตัว ก็ดี"
วางแผนจะไปจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหน
หนุ่ม "แพลนแล้ว ให้อุ้มเล่าดีกว่า"
อุ้ม "ก็พอดีจะไปเยี่ยมญาติอุ้มอะนะคะ เขาอยู่ที่เยอรมัน ก็จะไปอาทิตย์หน้า ไปประมาณ 20 วัน"
หนุ่ม "ไปนานนิดนึง เพราะว่าช่วงที่ผ่านมาเตรียมงานแบบเหนื่อยมาก ไม่หรอกครับที่จริงแล้วเราไปประมาณ 14 วัน แต่ว่าพอดีจังหวะพอดี พี่หนุ่มกับพี่แท่ง (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) ต้องมีงานที่จะไปทำที่ปารีสกับสตอกโฮล์มพอดี เราก็เลยจบทริปฮันนีมูนพอดีเป๊ะเลย เราก็เลยบอกว่า โอเคถ้างั้นเดี๋ยวผมบินจากอิตาลีไปทำงานที่ฝรั่งเศสเลย ที่ปารีส จากนั้นก็บินจากอิตาลี โรม ไปปารีส แล้วก็จากปารีสไปสตอกโฮล์ม แล้วก็เราก็จบทริปการทำงานปุ๊บ เราก็ไปต่อที่ออสโลอีกประมาณ 2-3 วัน แล้วก็กลับเมืองไทยฮะ"
จะมีลูกเลยไหม
หนุ่ม "ก็ตั้งใจไว้ยังงั้นอะนะ ใช่ไหมครับ ก็คือว่าตั้งใจว่าจะมีตามธรรมชาติก่อนนะครับ ถ้าเกิดว่าดูแล้วว่าตามธรรมชาติ อาจจะช้าไปละ ก็อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์แต่ว่าตอนนี้ก็จะมีตามธรรมชาติไปก่อนครับ"
ตั้งใจจะมีกี่คน
หนุ่ม "ความตั้งใจจริงๆ ก็น่าจะสองคนพอ"
อนาคตจะทำธุรกิจร่วมกันไหม
หนุ่ม "ในอนาคตก็คงมีครับ แต่ตอนนี้ก็ต่างคนต่างทำงานของตัวเองก่อน อุ้มก็ทำไอแคนด์รีดนะครับ พี่หนุ่มก็ทำบริษัท ดี.ดอคคิวเมนทารี่ ปกติเราก็ช่วยๆ กันอยู่แล้ว ปกติไอแคนด์รีดเนี่ย เขามีเรื่องของการตลาด เรื่องมาร์เกตติ้ง เราก็จะไปช่วยทำให้ จะทำวิดีโอพรีเซนเทชัน จะทำเกี่ยวกับรายการ หรือว่าทำไทด์อินในรายการ เราก็จะช่วยกันอยู่แล้ว อันนี้เป็นการช่วยในลักษณะยังไม่ได้ร่วมเป็นบริษัทเดียวกันจริงๆ แต่ในอนาคตข้างหน้านี้คิดว่าน่าจะมี"
คำมั่นสัญญาที่ให้กันไว้
หนุ่ม "ก็สัญญาไว้ตั้งแต่ที่วันแต่งงานนะครับ ว่าจะดูแลอุ้มตลอดไปนะครับ ดูแลอุ้มให้ดีที่สุดนะครับ ก็เท่านี้แหละ ซึ่งมันน่าจะเป็นคำที่มีความหมายที่สุดแล้วเนอะ ว่าสัญญาจะดูแลเขาให้ดีที่สุด และก็จะทำตามนั้น"
อุ้ม "อุ้มก็เหมือนกัน อุ้มก็บอกว่า อุ้มก็จะคอยเป็นกำลังใจ และก็คอยซัปพอร์ต และก็ไม่ได้สัญญาเยอะเนอะ ก็ประมาณนี้ ว่า โอเคเราก็จะอยู่ด้วยกันแบบนี้ และก็จะอยู่ด้วยความเข้าใจมากกว่า"
หนุ่ม "จะดูแลกันตลอดไปครับ"
ด้านของคนในวงการบันเทิง ก็มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักใหม่กันมากมาย อาทิ "ประวิทย์ มาลีนนท์" "ฉลอง ภักดีวิจิตร" "ไก่ - วรายุฑ มิลินทจินดา" "กอบสุข จารุจินดา" "ยุ - ยุวดี ไทยหิรัญ" "ต๋อย - ไตรภพ ลิมปพัทธ์" "แพท - พัสสน ศรินทุ" "เมฆ - วินัย ไกรบุตร" "แท่ง - ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง" "แอนนิต้า - นิษิตา พงศ์ทรง" "เวฟ - สาริน บางยี่ขัน" ควงคู่มากับ "เดือน - ศิรินธรา ดอนท้วม" "แซน - พนมกร ตังทัตสวัสดิ์" "แมน - ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์" "เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ" "นีโน่ - เมทนี บุรณศิริ" "ฟอร์ด - สบชัย ไกรยูรเสน" "โจ๊กเกอร์ - นพัตฏ์ธร มัททวีวงศ์" "อ้น - กรกฎ ตุ่นแก้ว" "หนุ่ม - สุรวุฒิ ไหมกัน" "เชน - ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์" "ตั๊ก - บริบูรณ์ จันทร์เรือง" "เชาเชา - ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม" โดยมีของชำร่วยเป็นโปสการ์ดที่คู่บ่าวสาวได้ถ่ายกันที่เขาใหญ่ และภาพสวยๆ จากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้ "หญิง - รฐา โพธิ์งาม" มาขับกล่อมบทเพลง อาทิ "If I Ain't Got You" ให้บรรยากาศหวานชื่นทั้งงาน