ตบแล้วจูบ พูดแล้วรัก ภาพยนตร์โหดปนฮา ทาสรักอสูร
พลิกรูปแบบภาพยนตร์แนวตบจูบจากที่เคยมีมาก่อน โดยเพิ่มความสนุกสนานให้ทุกคนได้ประทับใจกับภาพยนตร์เรื่อง "ทาสรักอสูร" จากผู้กำกับที่คุ้นเคยกันดี "หม่ำ - เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" หรือ "หม่ำ จ๊กมก" ที่ควบตำแหน่งนักแสดงนำ ร่วมด้วยนักแสดงสาว "พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช" "อ๋อม - สกาวใจ พูนสวัสดิ์" และ "อุ้ม - ลักขณา วัธนวงส์ศิริ" ที่มาเสริมทัพความโหดและความฮา ให้ผู้ชมได้หัวเราะกันท้องแข็ง
วันที่ 10 มิถุนายน 2557 ผู้กำกับและเหล่านักแสดงได้มาร่วมงานแถลงข่าวและพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ ทาสรักอสูร โดยผู้กำกับเผยถึงแรงบันดาลใจที่หยิบแนวภาพยนตร์ตบจูบมาเพิ่มความฮาว่า "ผมเป็นคนชอบดูหนัง ชอบดูละคร ก็เหมือนล้อเลียนละคร ล้อเลียนหนัง ผมเป็นคนชอบดูอยู่แล้ว อยากจะทำให้ทุกท่านเห็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่มีรวมๆ กัน มีทั้งโรแมนติก มีทั้งดราม่า มีทั้งคอเมดี อยู่รวมอยู่ด้วยกัน บางทีมันก็คิดยากอยู่เหมือนกันนะ กว่าที่จะได้มาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ไม่เป็นไร สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่น่าจะทำได้นะ เป็นเรื่องหนึ่งง่ายๆ ที่มันฮาด้วย แล้วก็ซึ้งด้วย แล้วก็ดราม่าด้วย มันน่าจะเป็นไปได้"
ส่วนที่มาของชื่อภาพยนตร์นั้น หม่ำ อธิบายว่า "ชื่อเรื่องเนี่ย มันเหมือนมีหนังพี่เปี๊ยก พิศาล (พิศาล อัครเศรณี) เขาจะเป็น ไฟรักอสูร มนต์รักอสูร เราลองเป็นทาสรัก ทาสรักอสูร ดีกว่า" ตลกร้อยล้านยังบอกว่ามุกตลกที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ บางมุกคิดกันขึ้นมาสดๆ ไม่ได้ยึดตามบทเลย "บางทีก็สดๆ ก็มี บางทีอย่าไปอ่านบท จำแค่ไลน์ไว้ จำไลน์เรื่องไว้"
พูดถึงฝั่งนักแสดงหญิงกันบ้างที่เรื่องนี้ สาว พิ้งกี้ รับบท อู้อี้ หญิงสาวชาวเมืองที่ถูกลักพาตัวมาเพื่อแก้แค้น เป็นสาวมั่น กล้าในทุกๆ เรื่อง ปากจัด และไม่เกรงกลัวใคร ซึ่งเป็นการพลิกบทบาทการแสดงของสาว พิ้งกี้ เลยทีเดียว "เปลี่ยนเลยค่ะ ก็เป็นอะไรที่แปลกสำหรับเรา แล้วก็เป็นการฉีกคาแรกเตอร์ที่เห็นได้ชัดเลยค่ะ" แถมภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้เห็น พิ้งกี้ แบบสวยๆ อีกด้วย เพราะในบทถูกลักพาตัวมา ต้องทำให้ดูโทรมที่สุด "คือไม่มีขนตา ไม่มีกรีดอายไลเนอร์ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คือหน้าจะโทรม แล้วแถมยังต้องแต่งเอฟเฟกต์ คือมีรอยจ้ำ เลือดสาดตลอดเวลา"
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือฉากพลอดรักกันของพระนาง ซึ่ง พิ้งกี้ บอกว่ายากมาก "ยากมาก ซีนนี้ คือเป็นเลิฟซีนที่เวลาเล่นละครพระเอกจูบนางเอกใช่ไหมคะ แต่ไม่ใช่ค่ะ ก่อนจะจูบ มันมีไดอะล็อกที่ยาวมาก (ลากเสียง) ยาวมาก เราบอก โอเคนะ คัตเดียว จบ สรุปว่าประมาณ 4-5 คัตค่ะ แล้วก็เป็นไดอะล็อกที่ทุกคนต้องไปดูกัน" ขณะที่ อุ้ม พูดถึงบทบาท เจ็ทสกี ที่ได้รับว่า "ของอุ้มก็เป็นเจ็ทสกี ก็เปลี่ยนเหมือนกันค่ะ ก็เป็นเซ็กซี่แต่ว่ามันมีความตลกเข้าไปด้วย ของเราเป็นแบบสาวบ้านๆ ที่อยากได้อะไรที่มันบ้านๆ เปิ่นๆ ก็จะแตกต่างจากพี่อ๋อม พี่อ๋อมเป็นสาวในเมือง มีโพลแดนซ์ เปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปเลยค่ะ"
ด้านของสาว อ๋อม ที่ไม่ค่อยได้พบเธอในจอเงินมากนัก บอกว่าบทบาท ดอกอ้อ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แตกต่างจากบทบาททั่วไปที่เคยได้รับเช่นกัน "เรื่องนี้นี่คือเป็นคาแรกเตอร์ที่หลายๆ คนคาดไม่ถึงจริงๆ เพราะว่าปกติแล้วเนี่ย คนเห็นหน้าอ๋อมก็ต้องร้าย นางนี่ร้ายแน่นอน แต่ว่าเรื่องนี้จะมีคาแรกเตอร์ที่หม่ำสร้างขึ้นมาให้อ๋อมนะคะ ก็คือจะเป็นแบบออกแนวฮา ตลกมาก คือไม่น่าเชื่อว่าจะเล่นได้ แต่จริงๆ แล้วตัวเองเป็นคนตลกอยู่แล้วด้วยค่ะ (หัวเราะ)" ผู้กำกับอารมณ์ดีขอฝากถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ "อย่าลืมนะครับ ภาพยนตร์เรื่อง ทาสรักอสูร นะครับ ภาพยนตร์รัก ตลก กระโดดถีบ 10 กรกฎาฯ ครับ ฮาปากแตกทุกโรงฯ ครับ"
บรรยากาศภายในงานนอกจากจะมีการพูดคุยของผู้กำกับและนักแสดงแล้ว "มด - เอ็นดู วงษ์คำเหลา" ภรรยาของ หม่ำ มาตัดริบบิ้นในงานแถลงข่าวด้วยกรรไกรตัดหญ้า สร้างสีสันให้สนุกสนานยิ่งขึ้นด้วย ติดตามภาพยนตร์ที่จะเปลี่ยนตำนานรักครั้งใหม่ ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งสนุก ทั้งฮา ภาพยนตร์รักหฤโหดหฤฮากับ ทาสรักอสูร 10 กรกฎาคม นี้ เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์