Timeline จดหมาย-ความทรงจำ ร่องรอยความรักที่ยังอบอวล
ให้ทุกหัวใจได้อบอุ่นไปกับร่องรอยของความทรงจำแห่งความรักใน "Timeline จดหมาย-ความทรงจำ" ภาพยนตร์รักจากผู้กำกับฝีมือเก๋า "อุ๋ย - นนทรีย์ นิมิบุตร" ที่ดึงเอานักแสดงระดับแถวหน้ามาประชันกันนำโดยดาวรุ่งพุ่งแรง "เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข" มาประกบคู่กับนักแสดงรุ่นพี่ที่มากด้วยฝีมือ "เต้ย - จรินทร์พร จุนเกียรติ" ร่วมด้วยนักแสดงเจ้าบทบาท "ป๊อก - ปิยธิดา วรมุสิก" และ "ปีเตอร์ - นพชัย ชัยนาม" ทั้ง 4 คนนี้มาถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคนในสมัยก่อนที่ยังทิ้งร่องรอยให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงความงดงามของความรัก และในวันที่ 10 มกราคม 2557 ผู้กำกับและนักแสดงขอแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
อุ๋ย บอกว่าความรักในเรื่องนี้อาจจะเกิดขึ้นมาแล้วกับคนรอบข้างหรือเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง "การทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความงามของความรัก การเล่าเรื่องแบบนี้ผมคิดว่าถ้าเล่าแบบง่ายๆ มีตัวละครที่เป็นคนจริงๆ ทุกตัวละคร ทุกคนจะรู้สึกว่าเขาเคยเจอตัวละครแบบนี้มาก่อน เขาสัมผัสได้ อาจจะเป็นเพื่อนเขา หรืออาจจะเป็นตัวเขาเองก็ได้ ในประสบการณ์อาจจะเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนก็ได้ เหมือนตัวละครที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเราก็เลยแบ็กทูเบสิก คือทำอะไรที่มันซิมเพิลมากๆ แล้วก็ใช้ความทรงจำของผมกับการรีเสิร์ชเอาประสบการณ์ของน้องๆ หรือความเป็นอยู่ของน้องๆ ในยุคปัจจุบัน เรื่องโซเชียลมีเดีย เขียนหากัน ลองคบกันค่อนข้างง่าย รวดเร็ว และไม่นานอาจจะเลิกกันค่อนข้างง่าย คือความทรงจำที่ต้องต่อสู้อุปสรรคต่างๆ มันไม่มี อันนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่นำมาทำเป็นบทภาพยนตร์ จากคอนเซ็ปต์ของความรักความงดงามของความรัก บวกกับความทรงจำและสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็สร้างตัวละครเหล่านี้ขึ้นมา 3-4 ตัวละคร"
กลับมาที่นักแสดงคนสำคัญ ซึ่งในเรื่อง ป๊อก รับบทเป็น มัท หญิงสาวที่ยังคงมีภาพความทรงจำที่งดงามต่อ ทัน คนรักซึ่งรับบทโดย "เต๋า - อดิศร อรรถกฤษณ์" ดาราสาวกล่าวถึงความลึกซึ้งของตัวละครว่า "ความลึกซึ้งของตัวละครมันมีเยอะ การผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ของตัวละครตัวนี้มีมากมาย จนกระทั่งมาถึงเรื่องราวที่มาเล่าจนปัจจุบัน การแสดงออกแต่ละครั้งจะคิดเยอะหลายสเต็ป คือเป็นตัวแทนความรักของคนที่ยึดติด ยังยึดติดอยู่กับอดีต อยู่กับความรักครั้งเก่า แล้วก็เลยพาลทำให้กลายมาถึงรุ่นลูก ซึ่งเราก็พยายามถ่ายทอดความฝันของเราของพ่อเด็กให้ลูก โดยที่พยายามถ่ายทอดทุกกระเบียดนิ้ว ทุกวินาทีของพ่อที่ผ่านไป และพยายามให้เขาเติมความฝันอันนั้น"
ส่วน ปีเตอร์ ที่ไม่สามารถมาร่วมงานแถลงข่าวได้ จึงไปสอบถาม อุ๋ย เจ้าของความคิดว่าทำไมถึงเลือก ปีเตอร์ มารับบทเป็น วัฒน์ ชายหนุ่มที่มาเติมเต็มหัวใจของม่ายสาวแสนสวย "เป็นตัวละครที่ต้องมาเติมเต็มในส่วนที่เขาขาดไป คือความรัก ในแบบดูแลซึ่งกันและกัน เพราะว่าเขาเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เขาเป็นซิงเกิลมัม เพราะฉะนั้นเขาจำเป็นจะต้องมีใครสักคนมาดูแล เขาเหนื่อยยากมากนะฮะ เขาดูไร่สตรอว์เบอร์รีทั้งไร่ ดูบ้านแล้วก็ดูลูกด้วยตัวคนเดียว แล้วก็มีคนงานอยู่ ซึ่งคนงานก็แค่ทำงานในไร่ ไม่ได้ดูแลเขาเลย แล้วก็ผู้หญิงคนเดียวเหมือนกับต้องการใครสักคนมาเติมให้เต็ม เพราะฉะนั้นปีเตอร์แม้จะดูว่าเป็นคนเซอร์ๆ ลุกส์ข้างนอกก็เซอร์ๆ แต่ข้างในเขาอบอุ่นมาก เวลาที่เขามองป๊อกในหนัง สายตาที่เขามอง ผมเห็นความรู้สึกที่เขาอยากดูแลจริงๆ เขาอยากช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้จริง เขารักผู้หญิงคนนี้จริง รักแบบไม่มีเงื่อนไข คือรักที่ไม่ต้องการครอบครอง แต่ขอให้ได้ดูแลเป็นเพื่อนก็ได้"
และมาถึง เจมส์ และ เต้ย ซึ่ง อุ๋ย เผยถึงสาเหตุที่พา 2 คนนี้มาคู่กัน "คือผมว่าเขาไม่เหมาะกันดี คือผมรู้สึกว่าตัวละคร 2 ตัวนี้ไม่ควรจะแมตช์กันแบบพระเอกนางเอก คู่ขวัญ เขาควรจะไม่ค่อยเข้ากัน เจมส์ก็จะสูงๆ หล่อๆ เต้ยก็จะไม่ค่อยสวย เตี้ยๆ แต่น่ารักมาก มีเสน่ห์มาก มีเสน่ห์อย่างรุนแรง แล้วผมรู้สึกว่าความเบ๊อะๆ ของเจมส์จะให้เสน่ห์ของเต้ยมาเติมให้เต็ม แล้วก็ส่วนเต้ยเนี่ย เจมส์ก็จะเติมบางอย่างเข้าไป ตัวละครที่เป็นเต้ย จูนเนี่ย เขาเป็นคนแข็งๆ หน่อย เชื่อมั่นในตัวเองสูง มีอิสระทางความคิด มีอิสระในการเดินทาง คือทุกอย่างเขาอยากทำอะไรเขาทำ คือมันมีความแตกต่าง ซึ่งผมรู้สึกว่าความแตกต่างนี้แหละเป็นแต้มต่อของผม ที่ทำให้คนดูเอาใจช่วยทั้งสองคนนี้ไปตลอดทาง"
หันมาหานางเอกของเรื่อง เต้ย ที่รับบทเป็น จูน หญิงสาวผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูงและกล้าที่จะผจญภัยในโลกที่ตัวเองไม่รู้จัก "ก็อย่างที่พี่อุ๋ยบอกเมื่อกี้ จูนเขาจะเป็นคนที่แข็งๆ หน่อยแล้วก็จะเป็นคนลุยๆ เป็นผู้หญิงที่รู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร แล้วก็มีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจนค่ะ เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างคล่องตัว คือสมมติว่าอยากที่จะไปหัวหินคืนนี้แต่ไม่ใครไปด้วยก็ไปคนเดียว เขามีความรู้สึกว่าชีวิตครั้งหนึ่งเกิดมา เขาเต็มที่ ไม่รู้จะตายเมื่อไร ก็เลยอาจจะคล้ายๆ กับว่าพอเราใช้ชีวิตด้วยตัวเองทำอะไรให้ตัวเองเยอะๆ มันก็เหมือนกับว่าขาดการให้อะไรบางอย่างแล้วพอมาเจอเขาแล้วก็เหมือนเติมเต็ม รู้จักให้ (เขิน) รู้สึกว่าพูดดีค่ะ (หัวเราะ) เพิ่งคิดได้เมื่อกี้เลยนะ"
พระเอกของเรื่องคือ แทน เด็กต่างจังหวัดที่อยากจะเผชิญโลกกว้าง และเขาก็เป็นตัวแทนของความรักจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งรับบทโดย เจมส์ "รับบทเป็น แทน ซึ่งจริงๆ แล้วตัวละครตัวนี้ก็จะเป็นตัวละครที่ค่อนข้างเป็นเด็กต่างจังหวัด มีชีวิตที่ธรรมดามาก ในชีวิตที่เรียบง่ายมาก แล้วก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมีความฝันอยากทำอะไร แต่ว่าวันหนึ่งด้วยความที่อยู่กับแม่มานานมาก แล้วที่บ้านก็ไม่ได้มีอะไรเล่นเลย ก็อยากจะไปหาอะไรเล่นใหม่ๆ คือที่บ้านแม่ไม่ซื้อทีวีให้ดูเลย ก็เลยอยากไปหาความสนุกใหม่ๆ ครับ ก็เดินทางไปกรุงเทพฯ อยากไปหาเพื่อน อยากไปหาชีวิตใหม่ๆ"
นอกจากนี้พระนางของเรื่องยังมีของขวัญพิเศษที่มอบให้กับผู้ชม นั่นคือการร้องเพลง "ไกลแค่ไหนคือใกล้" ประกอบภาพยนตร์ ซึ่ง เจมส์ เผยถึงความพิเศษของเพลงนี้ว่า "ความพิเศษของพิเศษของเพลงๆ นี้เพราะว่ามันมีความรู้สึกของตัวละครเข้าไปใส่ในเพลงนี้ เพลงนี้เลยรู้สึกเหมือนมีชีวิตมากครับ" เต้ย เลยขอสมทบอีก "เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงแล้วรู้สึกว่าอินไปกับเพลงจริงๆ ค่ะ แล้วก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำเพลงนี้ออกมา ปกติเวลาหนูร้องเพลงก็จะเขินๆ แต่เพลงนี้หนูภูมิใจค่ะ" จน เจมส์ อดแซวไม่ได้ "ต้องฟังๆ เขาภูมิใจมาก ภูมิใจนำเสนอ"
อุ๋ย ผู้สร้างปรากฏการณ์ความรัก ฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ "ผมอยากให้คนดูทุกคนได้มีความเซอร์ไพรส์อย่างที่ผมได้รับจากนักแสดงทั้ง 3 ท่านนี้นะฮะ แล้วก็นักแสดงอื่นๆ ทุกๆ ท่านด้วย คือเมื่อผมได้นักแสดงที่มีคุณภาพขนาดนี้แล้ว สิ่งที่ผมต้องทำมันก็น้อยลงไป สิ่งที่ทำก็คือว่าผมและทีมงานได้ควบคุมหนังเรื่องนี้อย่างดีที่สุดและตั้งใจที่สุดทุกๆ องค์ประกอบจริงๆ แล้วก็ขอฝากให้ดูผลงานของนักแสดงทั้ง 3 ท่านแล้วก็ท่านอื่นๆ ในหนังเรื่องนี้ด้วย ผมเชื่อว่าเขานำพาคุณไปถึงฝั่งฝันแน่นอน"
ร้อยความรู้สึกนับล้านในทุกวินาทีที่ผูกพัน แล้วกลั่นกรองออกมาเป็นตัวอักษรสะท้อนถ้อยคำของความรัก กำลังจะถูกแปรผันให้เป็นกลายความทรงจำที่จะอยู่ตราบไปจนนิรันดร์กาล ร่วมเดินตามร่องรอยความรักใน Timeline จดหมาย ความทรงจำ ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์