1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

นักแสดงหนุ่ม จางเจิ้น เยือนไทย เอาใจคอภาพยนตร์เอเชีย

นักแสดงหนุ่ม จางเจิ้น เยือนไทย เอาใจคอภาพยนตร์เอเชีย

"จางเจิ้น" (Chang Chen) หนึ่งในดาราไต้หวันที่มีฝีมือทางด้านการแสดงเป็นที่น่าจับตา โดยมีผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น "Crouching Tiger, Hidden Dragon" ของผู้กำกับ "หลี่อัน" (Ang Lee) "Red Cliff" ของผู้กำกับ "จอห์น วู" (John Woo) รวมถึง "Happy Together" "2046" และ "The Grandmaster" ตัวแทนภาพยนตร์ฮ่องกงไปลุ้นเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ ครั้งที่ 86 ฝีมือของผู้กำกับคนเก่ง "หว่องกาไว" (Wong Kar Wai)

นักแสดงหนุ่มวัย 36 ปี ได้บินลัดฟ้ามาเยือนไทย เพื่อร่วมงานเปิดตัวช่องใหม่ของทรูวิชั่นส์ สกรีนเรด เอชดี บาย เอชบีโอ สำหรับคนรักภาพยนตร์เอเชีย ณ ห้องอาหารแมนโดป็อป โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยก่อนที่งานแถลงข่าวเปิดตัวช่องจะเริ่มขึ้น หนุ่ม จางเจิ้น ได้จัดสรรเวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

รู้สึกอย่างไรกับการมาประเทศไทยในครั้งนี้

"ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงนะครับก็มีโอกาสเดินทางค่อนข้างน้อย อย่างมาประเทศไทยนี่ก็ไม่ได้มาบ่อยเท่าไร ครั้งนี้ที่ได้มาเยือนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งนะครับ แล้วก็ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงได้คำเชิญจากทางทรูวิชั่นส์ก็ได้มาเมืองไทยในครั้งนี้ ผมก็ได้นำภาพยนตร์ที่มีคุณภาพมาฝากแฟนๆ ชาวไทยทุกคน ก็รู้สึกยินดีมากครับ"

มีคนบอกว่า จางเจิ้น จะดูเปลี่ยนไปเมื่อได้รับบทบาทใหม่ในแต่ละเรื่อง

"การที่ผมถ่ายภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ก็เหมือนเป็นทดลองคาแรกเตอร์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังโบราณ หนังย้อนยุค ผมก็รู้สึกสนุกกับคาแรกเตอร์ต่างๆ เหล่านี้นะครับ แล้วก็รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงในคาแรกเตอร์ต่างๆ ก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน แล้วก็ยินดีที่ช่องต่างๆ จะนำภาพยนตร์ของผมมานำเสนอกับผู้ชมชาวไทย ผมก็รู้สึกท้าทายกับการรับบทบาทในแต่ละอย่างด้วยครับ"

บทบาทที่ผ่านมาชอบบทไหนมากที่สุด แล้วมีบทแบบไหนที่ไม่เคยแล้วอยากลองเล่นบ้าง

"ในแต่ละบทบาทที่ผมได้รับผมก็รู้สึกชอบทุกบทบาทเลยครับ เพราะว่าแต่ละบทบาทมันก็ต้องทุ่มเทต้องฝึกฝนอย่างหนัก อย่างน้อยก็ต้องมี 1-2 เดือนในการเตรียมตัวต่างๆ นะครับ ส่วนบทบาทที่ผมยังไม่เคยแล้วอยากจะลองก็คือบทของนักกีฬาครับ เพราะว่านักกีฬาเนี่ยจะมีข้อจำกัดของอายุ ถ้าหากว่าอายุมากกว่า 40 ก็จะไม่ค่อยเหมาะสมครับ ดังนั้นก็เป็นอีกบทหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าท้าทายแล้วอยากจะลองเล่นดู"

แสดงภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่องหลายแนว ชอบการทำงานลักษณะไหนมากที่สุด

"(หัวเราะ) ในส่วนตัวแล้วนะครับผมเป็นคนชอบลองของอะไรที่แปลกๆ ใหม่ๆ ในอนาคตผมก็อยากจะได้ทำงานกับคนกลุ่มใหม่หรือว่าเรื่องใหม่ๆ อยู่ตลอดครับ ผมรู้สึกว่าถ้าได้มาถ่ายทำหนังในแต่ละพื้นที่หรือว่าหนังฟอร์มอะไรก็ตามก็จะมีความเป็นท้องถิ่นผสมผสานอยู่ด้วย อย่างเช่นถ้าหากว่าในอนาคตผมมีโอกาสได้มาถ่ายทำหนังที่เมืองไทยก็จะมีการผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปด้วย ก็จะเป็นเรื่องที่แปลกใหม่แล้วก็ท้าทายมากครับ"

ถ้ามีโอกาสอยากจะร่วมแสดงภาพยนตร์ไทยบ้างไหม

"ในส่วนตัวของผมนะครับ ผมก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องร่วมงานกับใครหรือว่าประเทศไหน ถ้าหากว่ามีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ผมก็อยากจะลองดูเสมอ ที่สำคัญผมก็จะดูบทเป็นหลัก ถ้าผมดูบทแล้วถูกใจ ผมก็อยากจะลองเล่นดูครับ"

รู้สึกอย่างไรที่ The Grandmaster เป็นตัวแทนของฮ่องกงไปชิงรางวัลออสการ์

"สำหรับการถ่ายทำเรื่อง The Grandmaster ที่จริงใช้เวลาถ่ายทำไปประมาณ 3-4 ปี ทั้งผู้กำกับและนักแสดงทุกคนก็ทุ่มเทอย่างมากให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมในฐานะที่เป็นนักแสดงก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้วก็รู้สึกว่าการทุ่มเทเนี่ยในที่สุดก็ได้รับผลตอบรับที่ดีครับ ทุกคำตอบรับของผู้ชมก็เป็นเหมือนของขวัญที่ดีสำหรับนักแสดงและก็ผู้กำกับครับ แล้วก็อีกอย่างหนึ่งตั๋วที่ไปขายที่ยุโรปผลตอบรับก็ดีก็รู้สึกดีใจครับ"

ในอนาคตจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับผู้กำกับ หว่องกาไว อีกไหม

"ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงส่วนใหญ่จะเป็นผู้ถูกเลือกมากกว่าครับ เพราะว่าผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรก็การทำงานร่วมกันในแต่ละครั้งก็รู้สึกดีนะครับ ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องถูกเลือกหรือในอนาคตจะเป็นยังไง ผมก็ค่อนข้างรู้สึกปล่อยวาง ถ้าได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"

ทำงานร่วมกับผู้กำกับระดับโลกมาหลายคน ชื่นชอบแนวทางการทำงานของผู้กำกับคนไหน

"นิสัยของผู้กำกับแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน อย่างตอนที่ผมถ่ายทำเรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon ของผู้กำกับ หลี่อัน ตอนนั้นประสบการณ์ของผมยังไม่ค่อยเยอะ ก็ยังมีอาการตื่นเต้นอยู่บ้าง พอเวลาผ่านไป ก็รู้สึกว่าตัวเองเข้ากับบทบาทได้ดีขึ้น อาจารย์ หยวนเหอผิง (Yuen Woo Ping) เป็นอาจารย์สอนกังฟูจาก Crouching Tiger, Hidden Dragon ตอนที่ถ่าย The Grandmaster ก็ยังเป็นอาจารย์คนนี้อยู่ พอได้คุยกัน ก็รู้สึกว่าตัวเองก้าวหน้าขึ้นเยอะเหมือนกัน สำหรับผู้กำกับ จอห์น วู ก่อนหน้าที่จะถ่ายเรื่อง Red Cliff ก็เคยร่วมงานกันมาก่อนแล้ว ก็มีการพูดคุย มีการทำความรู้จักกัน มีการคุยกันเรื่องหนัง ก็ค่อนข้างถูกคอ นิสัยของแต่ละคนจะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน"

อยากจะแนะนำภาพยนตร์เรื่องไหนที่แสดงแล้วอยากให้คนไทยได้ดูบ้าง

"ถ้าหากให้ผมเลือกก็อยากให้ดูหนังทุกเรื่องที่ผมแสดงครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าหากว่าจะต้องเลือกจริงๆ เลยก็อยากจะให้ดูเรื่องล่าสุดก่อน The Grandmaster ดูแล้วก็จะเห็นการพัฒนาในด้านต่างๆ ของผม สำหรับหนังเรื่องนี้ผมทุ่มเท โดยเฉพาะกังฟู ผมก็ค่อนข้างที่จะทุ่มเทกับมันเยอะ แล้วก็ค่อนๆ ย้อนกลับไปดูหนังเรื่องอื่นๆ ที่ผมเคยแสดงมานะครับ เพื่อเห็นความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงครับ"

ร่วมงานกับ เหลียงเฉาเหว่ย มาแล้วหลายเรื่อง เป็นอย่างไรบ้าง

"ตัวผมเป็นนักแสดงไต้หวันก็อยากจะร่วมงานกับนักแสดงฮ่องกงอยู่แล้ว ก็มีโอกาสได้ทำงานกับนักแสดงหลายๆ คนเสมอ เวลาที่ผมเล่นกับ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung Chiu Wai) ก็ค่อนข้างเข้าขากัน ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีหนังเรื่องถัดไปเข้ามาเรื่อยๆ"

ถ้ามีโอกาสจะลองเล่นภาพยนตร์ฮอลลีวูดเหมือนกับนักแสดงจีนคนอื่นๆ บ้างไหม

"ถ้าถามผมว่ามีความคิดไหมก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เพียงแต่ว่าเราก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมของตัวเองด้วย แล้วก็เรื่องบางอย่างก็ต้องอยู่ที่บุญพาวาสนาส่งด้วยครับ"

มีนักแสดงฮอลลีวูดคนไหนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษไหม

"เยอะมากเลยครับ (หัวเราะ) โดยส่วนตัวของผมเองนะครับผมก็ไม่ได้จบด้านการแสดงมานะครับ ดังนั้นผมก็จะไปค้นหนังฮอลลีวูดพวกนี้มาดูมาศึกษา แต่ละช่วงแต่ละยุคที่ดูก็จะมีนักแสดงที่ชื่นชอบแตกต่างกันไปครับ มีหลายคนมาก"

เคยมีโอกาสได้ดูผลงานแสดงของประเทศไทยที่ไปฉายที่ประเทศจีนบ้างไหม

"ส่วนใหญ่ผมจะดูหนังไทยมากกว่าครับ แต่ถ้าเป็นซีรีส์อาจจะไม่ค่อยได้ดู แล้วก็ที่ชื่นชอบก็จะมี โทนี่ จา (Tony Jaa หรือ จา - จาพนม ยีรัมย์) เรื่อง ต้มยำกุ้ง ครับ ผมรู้สึกว่าเขาทุ่มเทค่อนข้างมาก ตอนที่ผมดูเป็นช่วงที่ผมกำลังจะเริ่มถ่ายทำ The Grandmaster พอดี เนื่องจากว่าตัวผมเองไม่มีพื้นฐานทางด้านกังฟูหรือว่าพวกกำลังภายในเลยครับ แล้วอายุ 30 ปีกว่ามาเริ่มมาฝึก พอดู โทนี่ จา ปุ๊บผมก็เลยรู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจ เขาแสดงเก่งเขาดูมีพลังเยอะครับ ผมก็เลยรู้สึกประทับใจตรงนี้ อย่างอื่นผมก็จะดูเป็นหนังผีมากกว่าครับ"

เข้าสู่ช่วงงานแถลงข่าวเปิดตัวช่อง สกรีนเรด เอชดี บาย เอชบีโอ นอกจาก จางเจิ้น แล้วยังได้นักแสดงสาวจากฝั่งของประเทศไทยอย่าง "ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่" ขึ้นมาร่วมพูดคุยบนเวทีอีกด้วย ซึ่งหนุ่ม จางเจิ้น ได้เล่าถึงการทำงานในภาพยนตร์ The Grandmaster ว่า "เนื่องจากเป็นหนังบู๊นะครับ แล้วก็เป็นหนังเรื่องแรกที่แสดงกังฟูแล้วมีแอ็กชันมากขนาดนี้ครับ ก็ถือว่าเป็นการท้าทายแล้วก็มีการฝึกอย่างหนักมากครับ" เมื่อถามว่าอยากจะมาลองแสดงภาพยนตร์เกี่ยวกับมวยไทยในไทยบ้างไหม นักแสดงหนุ่มตอบว่า "หลังจากที่ผมได้รับบทนี้แล้วนะครับ ผมก็เริ่มสนใจบทแบบนี้มากขึ้น อนาคตถ้าหากว่ามีโอกาสได้มารับบทในเมืองไทยหรือว่าเกี่ยวกับมวยไทยก็ยินดีครับ" สุดท้าย จางเจิ้น ฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยว่า "ผมชอบเมืองไทยครับ ผมก็อยากจะมาเมืองไทยบ่อยๆ ครับ"

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36
  • รูปภาพ 37
  • รูปภาพ 38
  • รูปภาพ 39
  • รูปภาพ 40
  • รูปภาพ 41
  • รูปภาพ 42
  • รูปภาพ 43
  • รูปภาพ 44
  • รูปภาพ 45
  • รูปภาพ 46
  • รูปภาพ 47
  • รูปภาพ 48
  • รูปภาพ 49
  • รูปภาพ 50
  • รูปภาพ 51
  • รูปภาพ 52
  • รูปภาพ 53
  • รูปภาพ 54
  • รูปภาพ 55
  • รูปภาพ 56
  • รูปภาพ 57
  • รูปภาพ 58
  • รูปภาพ 59
  • รูปภาพ 60

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • เขาชนไก่
    เข้าฉายปี 2006
    แสดง วศิษฎ์ ผ่องโสภา, ทวีรัตน์ จุลศิริ, อภิพล ตรีเทวะวงษา
  • เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย
    เข้าฉายปี 2006
    แสดง มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, แอนดี้ เขมภิมุก
  • Happy Feet
    เข้าฉายปี 2006
    แสดง Robin Williams, Hugh Jackman, Elijah Wood

เกร็ดภาพยนตร์

  • Blackhat - ชื่อภาพยนตร์อ้างอิงถึงลักษณะของตัวร้าย ซึ่งวายร้ายในแถบตะวันตกมักจะสวมหมวกสีดำ อ่านต่อ»
  • Maps to the Stars - วิกโก มอร์เทนเซน และ ราเชล ไวส์ซ ต่างก็เคยถูกพิจารณาให้รับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ก่อนที่จะถอนตัวออกไปทั้งคู่เนื่องจากปัญหาตารางงาน สุดท้าย จอห์น คูแซก และ จูเลียนน์ มัวร์ จึงเข้ามารับบท สแตฟฟอร์ด และ ฮาวานา ตามลำดับ อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เมื่อบริษัทใหญ่ชั้นนำได้ทิ้งสารเคมีอันตรายลงสู่ชุมชน นำไปสู่การทำลายสิ่งแวดล้อมจนถึงขั้นทำลายชีวิตคนบริสุทธิ์ โรเบิร์ต ...อ่านต่อ»