ไก่ ควงแขนแฟนหนุ่มนอกวงการเข้าประตูวิวาห์แสนชื่นมื่น

พิธีกรสาว "ไก่ - มีสุข แจ้งมีสุข" จากรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ได้ฤกษ์ดีจูงมือแฟนหนุ่มนอกวงการ "คิม - พงศกร คุณดิลกชัยพัฒน์" เข้าสู่ประตูวิวาห์แสนชื่นมื่น หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันได้ไม่นาน เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ร้านบ้านก้ามปู โดยเวลาประมาณ 8.30 น. คู่บ่าวสาวได้ควงแขนกันมาถวายอาหารเช้าแด่พระสงฆ์จำนวน 5 รูป

จากนั้น ไก่ และ คิม ได้ไปต้อนรับแขกผู้ใหญ่และเหล่าคนในวงการบันเทิงที่มาร่วมแสดงความยินกับคนทั้งคู่ อาทิ ผู้บริหารรวมถึงผู้จัดค่ายละครต่างๆ อย่าง "ประวิทย์ มาลีนนท์" ที่ควงคู่มากับ "อัมพร มาลีนนท์" "กอบสุข จารุจินดา" "ไก่ - อรรควุฒิ สุวรรณประการ" "ไก่ - วรายุฑ มิลินทจินดา" "จิ๋ม - มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช" และ "จ๋า - ยศสินี ณ นคร" ก็มากับสามี "เปิ้ล - ณัฐบูร ไตรณัฐี"

นอกจากนี้คนในครอบครัวข่าวต่างก็มาแสดงความยินดีกันอย่างถ้วนหน้า เช่น "ป๊อป - วราวุธ เลาหพงศ์ชนะ" "แซ็ก - ธนินวัฒน์ พัฒนวีรคุณ" "ขวัญ - สู่ขวัญ บูลกุล" "ปอ - วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส" สาวๆ จากรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทั้ง "ปุ้ย - พิมลวรรณ ศุภยางค์" "นีน่า - กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์" และ "กาละแมร์ - พัชรศรี เบญจมาศ"

ส่วนพิธีกรรายการ "แจ๋ว" ก็มากันครบทั้ง "ปราย ธนาอัมพุช" "ปอ - ปุณยวีร์ สุขกุลวรเศรษฐ์" "ดาว - อภิสรา นุตยกุล" "ปุ๊ก - สมาพร ชูกิจ" และ "กระเต็น - วราภรณ สมพงษ์" รวมถึง "หรีด - รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์" "ธัญญา โพธิ์วิจิตร" หรือ "เป็ด เชิญยิ้ม" "ชนัตพล ลังสิทธิเสถียร" หรือ "แจ็ค ไรเดอร์" "อาร์ม - วิบูลย์ ลีรัตนขจร" ที่มากับภรรยา "กะทิ - ณัญชลี ลีรัตนขจร" และนักแสดงสาว "ธัญญ่า - ธัญญาเรศ เองตระกูล"

ต่อมาเจ้าสาว ไก่ และเจ้าบ่าว คิม ได้เข้าฟังการสาธยายธรรมของ "พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล" จากวัดนาป่าพง ร่วมกับแขกผู้มาร่วมเป็นสักขีพยานรักของคนทั้งคู่ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพิธีการโดยเริ่มจากการที่ ไก่ และ คิม ควงคู่กันนำพวงมาลัยไปไหว้บุพการีของทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นเป็นพิธีของการสวมแหวนหมั้น ต่อด้วยการผูกข้อมือให้กับคู่บ่าวสาว ซึ่งมี ประวิทย์ กรรมการบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ผู้บริหารสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เป็นประธานในพิธี เริ่มผูกข้อมือและกล่าวคำอวยพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ตามด้วยญาติผู้ใหญ่และเพื่อนๆ ของทั้งคู่

สำหรับบรรยากาศงานก็เป็นแบบเรียบง่าย สถานที่เต็มไปด้วยหมู่แมกไม้ให้ความร่มรื่น ด้านของชำร่วยที่มอบแทนคำขอบคุณแก่ผู้มาร่วมงานคือหนังสือธรรมะ จากนั้น ไก่ ควงแขน คิม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงช่วงเวลาอันแสนสุข

ความรู้สึกในวันนี้

ไก่ "ก่อนอื่นขอบคุณด้วยเพราะว่าจริงๆ พี่ไก่มีความกังวลสูงมาก คือเริ่มต้นเลยเราเลือกที่บ้านก้ามปูเพราะว่าที่นี่มีธรรมชาติ แล้วพี่ไก่ชอบป่า เรา 2 คนชอบไปเที่ยวป่านะคะ ก็มีความกังวลว่าที่นี่ในขนาดเท่านี้จะต้อนรับพวกเราได้ดีหรือเปล่าทั้งแขกผู้ใหญ่ทั้งสื่อด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้เช็กงานเลยว่าขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง แต่ว่าเท่าที่ดูต้องขอบคุณ น้องเก่ง (เศรษฐวุฒิ นฤมิตญาณ) นะคะที่เอาโจทย์ของพี่ไป แล้วก็ทำการบ้านออกมาได้ดีมาก"

คิม "รู้สึกกังวลเหมือนกัน กลัวว่างานจะออกมาแล้วทุกคนจะเบื่อไหม เพราะว่าเรา 2 คนชอบบรรยากาศแบบนี้ คือเราสามารถอยู่ได้แบบธรรมชาติอย่างนี้เลย แต่ว่าห่วงทุกคนที่มาร่วมงานฮะ เหมือนจัดเพื่อให้คนที่มาร่วมงานมากกว่าครับ ประมาณนี้ครับ"

ไก่ "จะร้อนหรือเปล่า ที่นั่งพอไหมอะไรอย่างนี้ค่ะ เขากังวลเยอะมาก"

ตื่นเต้นไหม

ไก่ "ตื่นเต้นที่กลัวงานออกมาแล้วดูแลคนไม่ครบค่ะ เป็นกังวลมากกว่า เมื่อคืน (14 ก.พ.) พี่นอนตี 1 เป็นอย่างนี้มาตลอดเกือบเดือนน่ะค่ะ ไม่เคยได้เข้าคอร์สบ่าวสาวอะไรที่เขาไปนวดผิวอะไรกันเลย จะมีก็แต่ไปนวดสมุนไพรเพื่อสุขภาพเพราะพี่ไก่ป่วยบ่อยมากก่อนที่จะได้จัดงาน ป่วยติดๆๆ กันเลย แค่นั้นเองแล้วนอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็เป็นความตื่นเต้นที่กังวล"

เห็นเพื่อนๆ มาร่วมงานรู้สึกอย่างไรบ้าง

ไก่ "คือวันนี้มาส่วนใหญ่มองหน้าไปแล้วรู้สึกแขกที่มานี่มาช่วยงานหมดเลย (หัวเราะ) ตกลงมาร่วมงานหรือมาช่วยงาน เหนื่อยกันหมดทุกคนเลยนะคะ ก็เหมือนเดิมนะคะขอบคุณจริงๆ เมื่อกี้ตอนผูกข้อมือจะเป็นอะไรที่แย่งแขกผูกข้อมือพูดซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าขอบคุณเขามากกว่าอวยพรนะคะ งานนี้เรามีคุยกัน 2 คนนะคะ อันนี้จากใจเลยว่าตั้งแต่แรกพี่ไก่ไม่ได้ตั้งใจจะทำงานใหญ่ แล้วก็ไม่ได้เชิญใครเยอะนะคะ จำนวนการ์ดแต่ต้นก็พิมพ์น้อยมาก แต่ว่าพอพิมพ์ออกไปปุ๊ปก็จะเริ่มกังวลแล้วว่าถ้าเราเชิญท่านนี้แล้วอีกท่านนึงตกหล่นหรือเปล่า แต่สุดท้ายพี่ไก่ได้รับความช่วยเหลือในเรื่องของงานวันนี้เยอะมากคือครึ่งนึงเลยนะคะ

คุณหรีดก็ให้อาหารฟรี 3-4 ซุ้ม เครื่องดื่มตลอดทั้งงานนะคะ เครื่องเสียงก็พี่อาร์ม วิบูลย์ ช่อง 3 ฟรีทั้งหมดเลย พี่จีวัน (สรมย์ฤทธิ์ จีวัน) แต่งเพลงให้เราทั้งหมดนะคะพร้อมกับการคิดธีมงานโดยที่เรารู้จักกันมา 10 ปี แล้วก็ขอบคุณเจ้าบ่าวด้วยที่มารับเจ้าสาวคนนี้ไปแบบฟรีๆ (หัวเราะ) เป็นคนที่ตามใจทุกอย่างได้หมดทุกสิ่ง แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่คนเดียวแต่เขาเหนื่อยมากกว่าเรา เพราะว่าเราจะออกคำสั่งว่าโทรไปคนนู้นคนนี้แล้วเขาก็จะโทร แล้วพอเขาทำไม่ได้ดั่งใจก็จะเริ่มหงุดหงิด แล้วเขาก็จะต้องหันมาดุเราอีกทีนึงว่าใจเย็นๆ ขอบคุณเขามากที่สุดที่เข้าใจ"

สินสอดทองหมั้น

ไก่ "ขอบคุณมากค่ะ (หันไปไหว้ คิม) ที่ทุ่มเททั้งหมดเท่าที่มีแต่ไม่รู้ว่าทั้งหมดหรือเปล่านะ แต่ว่าเราคุยกันตั้งแต่ต้นเป็นฝ่ายคุณพ่อคุณแม่พี่คิมแล้วก็ฝ่ายคุณพ่อคุณแม่พี่ไก่นะคะ ตอนนั้นพี่ไก่ก็ไม่ค่อยตั้งใจฟังอะไรเท่าไร แต่ว่าเท่าที่คุณพ่อคุณแม่เล่าให้ฟังก็คือว่าเราจะไม่เบียดเบียนกันนะลูก พ่อก็บอกคิมในลักษณะที่คิมมีความสุขแล้วเราก็ไม่เบียดเบียนกัน ส่วนแหวนที่เห็นในที่นี้ก็คือพี่ไก่เลือกเอง พี่ไก่เป็นคนชอบทองคำเกลี้ยงๆ ค่ะ ตอนแรกจะเป็นทองคำขาว แต่พี่คิมบอกว่าเป็นทองคำดีกว่า ก็เลยคนละครึ่งทาง ตอนแรกเขาก็กังวลเรื่องแหวนเพชร พี่ไก่บอกว่าถ้าพี่คิมซื้อแหวนเพชรพี่ไก่ก็คงไม่ใส่อยู่ดี คงใส่ๆ ถอดๆ แต่ถ้าทองคำเกลี้ยงก็จะใส่ได้ตลอด ก็จะไม่ถอดเลย"

แหวนมีมูลค่าเท่าไร

ไก่ "ประมาณการไม่ได้ค่ะ มันมากมายเกินความรู้สึกพี่มากเลย"

เรือนหอ

ไก่ "ก็เดี๋ยวจะตกลงย้ายไปอยู่ที่วัชรพลค่ะ พี่คิมก็มีบ้านอยู่ที่คลอง 4 ก็ขายแล้วก็มาอยู่กับไก่นะ เดี๋ยวจะย้ายไปสักกลางๆ ปีนะคะ ตอนนี้พี่คิมต้องกลับไปทำงานที่ลาวก่อน แล้วก็ถ้าเกิดกลับมาเมืองไทยก็มาอยู่ที่บ้านพี่ไก่ เพราะว่าบ้านพี่ไก่ก็มีน้องสาวกับน้องเขยอยู่ด้วย ปกติพี่กับน้องจะอยู่ด้วยกันตลอดไม่ค่อยแยกบ้านกัน ก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากให้เขาดึงเราออกไปข้างนอก ดึงเขาเข้ามาบ้านเราดีกว่า"

คิม "จริงๆ แล้วเป็นคำสั่งของพ่อ พ่อเขาอยากให้น้องสาวกับพี่สาวไม่แยกจากกันเพราะว่าเขารักกันมาก พี่เลยต้องปรับตัวเข้าหา เลยเป็นกาฝาก (หัวเราะ)"

คำมั่นสัญญาที่ให้แก่กันและกัน

คิม "ใช้อย่างนี้ดีกว่าเวลาเราคุยกันพี่จะบอกว่าทำทุกวินาทีให้ดีที่สุด เพราะว่าเรามีความตายอยู่ในทุกลมหายใจ แล้วก็มีความแก่อยู่ในทุกลมหายใจ มันเป็นของไม่เที่ยง แต่ให้เรามีสติแล้วก็เวลารักกันอย่าใช้อารมณ์ ให้ใช้ธรรมะมาแก้ปัญหา ธรรมะคือธรรมชาติถูกไหมฮะ เพราะฉะนั้นเวลาจะเกิดปัญหาเกิดอะไรก็ช่าง ให้มีสติไว้แล้วก็จะผ่านไปได้ด้วยดีครับ"

ไก่ "ซึ่งเขาใช้อย่างนี้จริงๆ นะคะ เราก็เป็นตัวเรานี่แหละ คือก่อนจัดงานเนี่ยพี่พูดตรงๆ เนอะเรามองหน้ากันแล้วไม่เหมือนตอนแรกที่เรารู้จักกันน่ะค่ะ เราจะแบบหอมแก้มกันทุกวัน ถามรักกันไหมทุกวันๆ แต่ว่าพอช่วงงานเริ่มใกล้เข้ามาทุกทียิ่งช่วงอาทิตย์หลังมันเหนื่อยจนเรามองหน้ากัน แล้วเขาต้องถามว่าวันนี้หอมแก้มพ่อหรือยัง แล้วเวลาที่แบบหงุดหงิดพี่ก็จะนิ่งเลย เขาก็จะหันมาบอกเลยว่าทำไมแม่ไม่ละ ทำไมทิ้งอารมณ์นานจัง คือทำไมปล่อยอารมณ์ให้หงุดหงิดนาน บางทีเราก็เห็นเขาหงุดหงิดนะคะแล้วก็เห็นเลยว่าเขาปล่อยได้เลย แล้วเขาก็จะหันมาสอนว่าเราเจอกันก็ช้าแล้ว อายุมากขนาดนี้แล้ว รู้ไหมว่าจะอยู่ด้วยกันกี่ปี แล้วถ้าตอนนี้แม่หงุดหงิดพ่อหงุดหงิดแล้วตายไปเลยตอนนี้ เสียดายไหม พี่ก็จะหายหงุดหงิดเลย เขาจะเป็นอย่างนี้ตลอด"

คิม "คือถ้าเกิดเราตายขณะเราหงุดหงิดเนี่ยนรกถามถึงทันทีถูกไหมครับ แต่ถ้าจิตเราบริสุทธิ์ขณะนั้นเราไปสวรรค์ถูกไหมครับ แต่ถ้าเราเดินสายวิมุตติคือมีปัญญา เราไปนิพพานได้ถูกไหมครับ นี่คือหลักของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว"

มีมุมหวานๆ อีกไหม

ไก่ "เห็นแบบนี้คือเขาเนี่ยตัวหวานเลยนะ ที่ท่าทางไม้มือเขาคือเขาอยู่กับพระเยอะ เขาจะเรียบร้อย แรกๆ พี่ก็จะแบบคล้ายแก๊งชะนีหรือเปล่าอะไรอย่างนี้ รู้สึกย้อนกลับไปตอนถ่ายหนังยังไงไม่รู้ แต่มั่นใจเถอะพี่พิสูจน์แล้ว หอมแก้มพี่แต่ละครั้งเขาเป็นผู้ชายหอมแก้มน่ะ เข้าใจไหมคะ มันจะรู้สึกได้เลยว่าใช่"

ทำไมถึงใช้คำแทนกันและกันว่า พ่อ กับ แม่

คิม "ที่เรียกพ่อกับแม่เพราะว่าพี่รู้สึกว่าคำๆ นี้มันเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ เพราะเวลาถ้ามีปัญหาอะไรกันสมมตินะแค่เรียกคำว่าพี่ก็รู้ละ"

ไก่ "ใช้เวลางอนไง เวลางอนจะเปลี่ยนเป็นพี่คิมทันที ปกติจะเป็นพ่อ เขาบอกว่าเขาอยากให้เรียกพ่อกับแม่ เพราะเขารู้สึกว่าเวลาเราเรียกใครพ่อกับแม่เนี่ยคือคนที่เรารักและเคารพที่สุดค่ะ"

วางแผนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์

ไก่ "หลังจากงานวันนี้วันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) ก็จะไปวัดนะคะอีกครั้งนึง แล้วก็วันอาทิตย์ (17 ก.พ.) ก็ไปลาว เอาอย่างนี้ตั้งแต่พี่ไก่ตกลงเป็นแฟนกับเขาที่ลาวเนี่ยแล้วก็ดึงตัวกลับประเทศไทยมาจนบัดนี้ เขายังไม่ได้กลับไปเคลียร์งานที่ลาวเลย เขาก็ยังมีงานค้างอยู่ค่ะ ก็เลยอาศัยเวลาฮันนีมูนช่วยกลับไปดูงาน คือเขาไปทำงานแล้วพี่ไก่ก็ไปเทกแคร์อยู่ข้างๆ ค่ะ ก็คงได้มีเวลา 1 อาทิตย์อยู่ด้วยกันค่ะ"

ทายาท

คิม "เรื่องทายาทคิดหนักนะครับ เพราะว่าผมสงสารผู้หญิงเวลาอุ้มท้อง เวลาอุ้มท้องรู้สึกว่าผู้หญิงน่าสงสาร ทำอะไรก็ไม่ถนัด เดี๋ยวต้องคิดอีกที อันนี้ยังไม่ได้วางแผนจริงๆ ครับ"

ไก่ "ถ้าพี่ไก่เองพี่ไก่เคยบอกเขาตั้งแต่รู้จักกันว่าพี่ไก่ไม่อยากมีลูกค่ะ เพราะว่าพระพุทธเจ้าให้ชื่อลูกว่า ราหุล เนอะ แปลว่าห่วงหรือบ่วง มันเป็นความรักที่เป็นความสุข ซึ่งพี่จะบอกว่ามันทรมานกว่าความเกลียด เพราะความเกลียดเราหนีได้หรือถ้าเรารักแล้วเรามาเกลียดได้ในวันหลัง มันก็ยังหนีได้ แต่ลูกตลอดชีวิตไม่มีทางเกลียดเขาและทิ้งเขาได้ พี่อายุ 40 สมมติพี่ตายอายุ 80 อีก 40 ปีพี่ต้องมีเขาในการดูแล ดีไม่ดีเริ่มฝึกตัวเองทำเพื่อลูก เราก็กลายเป็นคนไม่เหลือเวลาทำให้คนอื่นแล้วค่ะ เพราะพี่รู้ว่าพี่มีลูกพี่จะรักลูกมาก ลูกคือลมหายใจเข้าออก พี่ก็เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลมไปเลย ก็คือจะไม่มีลูก"

ได้ยินมาว่า ไก่ รับอุปการะเด็กอยู่ด้วย

ไก่ "มีอยู่แล้วค่ะ มีที่ศุภนิมิต (มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย) แต่มันก็ไม่เหมือนกันหรอก อันนั้นมันก็รู้สึกว่ารับเลี้ยงลูกเป็นเหมือนบุญ แต่เราก็ไม่ได้เลี้ยงลูกจริงๆ ใช่ไหมคะ ความรู้สึกมันต่างกันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ขนาดมีหมายังแย่เลยอ่ะ มีหมาเป็นลูกยังแย่เลย เป็นกังวลเขาทุกอย่างค่ะ"