บัว ควงแขน ตั้ม เข้าพิธีหมั้น พร้อมลั่นระฆังวิวาห์สละโสด

"บัว - สโรชา ตันจรารักษ์" น้องสาวคนสวยของพระเอก "บีม - กวี ตันจรารักษ์" ได้ฤกษ์ควงแขนหนุ่ม "ตั้ม - พิพัทธ์ วิริยะเมตตากุล" ทายาทเจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลวิภาวดี ลั่นระฆังวิวาห์สละโสด หลังจากที่เลื่อนกำหนดพิธีฉลองมงคลสมรสจากวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยทั้งคู่ได้จัดพิธีมงคลสมรสตามประเพณีไทยและจีนตามฤกษ์ดีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2555 ที่บ้านย่านนวมินทร์ 155 ท่ามกลางญาติผู้ใหญ่และเพื่อนสนิทของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีสินสอดทองหมั้นเป็นแหวนเพชร เครื่องเพชร เงินสด 4,400,000 บาท และทองคำแท่งหนัก 100 บาท

เวลา 07.00 น. ตั้ม ได้เคลื่อนขบวนขันหมากมาสู่ขอ บัว ที่เรือนหอของทั้งคู่ โดยมีคุณพ่อของ ตั้ม หรือ "ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล" เป็นคนนำ ตั้ม ฝ่าด่านประตูเงินประตูทองเพื่อไปรับตัวเจ้าสาว ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีสวมแหวนหมั้นและปูเรียงนับสินสอดในเวลา 07.29 น. ต่อด้วยพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ พิธีทางศาสนา และพิธียกน้ำชาเพื่อคารวะญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายตามธรรมเนียมจีน

บัว กล่าวถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่า "วันนี้ก็เป็นวันฤกษ์ดี แล้วก็ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่บัวต้องการหมดเลย เหมือนกับว่าได้เลื่อนมาก็เหมือนมีอะไรให้ทำให้มันสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นค่ะ ตื่นเต้นมากที่สุดคือตอนที่รออยู่ในห้อง (หัวเราะ) เห็นประตูเยอะมาก กว่าจะมาถึงกลัวพี่ตั้มจะถอดใจไม่มาแล้ว" ฟาก ตั้ม เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน "ตื่นเต้นมากครับ เมื่อกี้ใส่แหวนก็ใส่ไม่เข้า คือก็ยังตื่นเต้นอยู่ครับ" แถมหยอดคำหวานเมื่อเห็นเจ้าสาวใส่ชุดไทยเป็นครั้งแรกว่า "โห นึกว่านางฟ้า"

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ได้จัดงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรส ณ ห้องแอทธินี คริสตัลฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี บางกอก อะ รอยัล เมอริเดียน โดยช่วงเวลาประมาณ 16.45 น. คู่บ่าวสาวได้จูงมือมาเพื่อทักทายและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงช่วงเวลาแห่งความสุขของคนทั้งคู่ โดยมีของชำร่วยบรรจุอยู่ในถุงผ้าสีขาวผสมชมพูที่มีรูปเจ้าบ่าวเจ้าสาวฉบับการ์ตูนอยู่หน้าถุง ภายในเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ก้อนรูปหัวใจสีชมพูหวานแหวว ซึ่งเป็นสิ่งที่มอบแทนคำขอบคุณให้กับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานฉลองวิวาห์

ตื่นเต้นบ้างไหม

บัว "ตื่นเต้นมากค่ะ เป็นธรรมดาของผู้หญิงที่แต่งงาน ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจค่ะ"

ตั้ม "จริงๆ เจอกันวันแรก ผมก็รู้แล้วต้องมีวันนี้ (หัวเราะ) แต่แค่มาถึงวันจริงก็ยังตื่นเต้นอยู่เลยฮะ"

ฝ่าด่านคุณแม่ได้อย่างไร

ตั้ม "ตอนไปหาน้องบัววันแรก ก็เข้าไปเจอคุณแม่เลย คุยกับคุณแม่ว่าจะมาไปมาหาสู่กับลูกสาว"

บัว "เพราะว่าเราคุยกันก่อนหลายเดือนค่ะกว่าจะเจอตัว ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็เข้าไปหาคุณแม่จะขอจีบลูกสาว จริงๆ เราเหมือนมีคุณแม่เป็นศิราณีตลอด มีอะไรก็จะปรึกษาๆ ค่ะ"

รู้สึกกลัวบ้างไหมตอนเจอคุณแม่ครั้งแรก

ตั้ม "คือผมไม่ได้คิดมาเล่นๆ อยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยกลัวอะไรเท่าไร"

ใช้เวลานานไหมก่อนจะตัดสินใจขอ บัว แต่งงาน

ตั้ม "จริงๆ ที่อยากแต่งงานเพราะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ใช่แล้ว แล้วก็รู้สึกว่าอยากไปต่างประเทศ อยากไปเที่ยวด้วยกันเยอะๆ ก็เลยไม่รู้ว่าจะรออะไร"

วิธีขอแต่งงาน

ตั้ม "ตอนแรกที่ขอเหมือนกับว่าไม่ได้โรแมนติกอะไร ก็ขอธรรมดาเลยว่าเนี่ยคิดว่าถึงเวลาแล้วนะที่จะแต่งงาน แต่ด้วยความที่น้องบัวเป็นผู้หญิง เขาอยากให้เหมือนกับว่ามีผู้ชายคุกเข่าขอแต่งงาน ก็เลยมีการรีเมกขอแต่งงานอีกทีหนึ่ง"

ความรู้สึกหลังจากถูกขอแต่งงาน

บัว "ตอนแรกรู้สึกว่าพูดเล่นน่ะค่ะ เพราะว่าเหมือนตอนนั้นกำลังขับรถกลับบ้าน แล้วพี่ตั้มก็พูดขึ้นมาว่าเนี่ยประมาณว่าแต่งงานกันไหม คิดว่าพร้อมแล้ว พร้อมจะดูแลเราแล้ว คือเป็นอารมณ์ขับรถตอนกลางคืนกลับบ้าน เกิดขึ้นบนรถ แล้วบัวก็แบบขอแต่งงานมันต้องเป็นอะไรที่ไปภัตตาคารที่สวยๆ หน่อย กินขนมเข้าไปแล้วคายเป็นแหวนออกมา คือบัวรู้สึกเหมือนสงสัยจะเพ้อฝันแบบดูหนังมากไป บัวก็บอกพี่ตั้มว่าเอาจริงหรอ ทำไมอารมณ์ไม่โรแมนติกเลยเนอะ แต่สุดท้ายก็มีรีเมกใหม่ก็โอเค"

ขอแต่งงานอีกครั้งเป็นแบบที่ บัว ต้องการเลยหรือเปล่า

ตั้ม "อ๋อ ไม่ครับ เกินความสามารถจริงๆ (หัวเราะ) ตอนรีเมกใหม่เป็นตอนที่ไปถ่ายพรีเวดดิงที่มะละกา (ประเทศมาเลเซีย) ครับ คือจริงๆ ตอนแรกจะถ่ายในประเทศ แต่คิดว่าถ้าเกิดว่าเขาอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษ เราก็อยากทำอะไรในสถานที่พิเศษหน่อย"

ทำไมถึงเลือกที่มะละกา

ตั้ม "คือจริงๆ เลือกที่อยู่ แล้วก็คุยกับช่างภาพ เขาบอกว่าที่นี่ถ่ายรูปสวยมาก แล้วก็เป็นเมืองมรดกโลกด้วย แล้วก็ลองดูรูปที่เขาเคยไปถ่ายมา คิดว่าสถานที่นี้น่าจะดี"

แล้วสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์เป็นที่ไหน

ตั้ม "ตอนแรกผมอยากไปที่ทะเลมากกว่า แต่น้องบัวอยากไปยุโรป ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่ว่าจะไปที่ไหน"

วางแผนจะมีทายาทเลยไหม

บัว "จริงๆ บัวก็อยากมีเลย แต่ทีนี้มีหลายคนบอกว่าบางทีเราควรจะใช้ชีวิตกันสองคนก่อน เพราะว่าเหมือนพอมีอีกคนขึ้นมา คือมันทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ขึ้นก็จริง แต่ว่าเหมือนกับทุกอย่างต้องไปลงที่ลูกหมด ก็อาจจะลองใช้ชีวิตกันดูก่อน แต่คือบัวก็คงไม่ได้คุมแบบไปห้ามๆ อะไรอย่างนี้ คือบัวก็ถ้าน้องจะมาก็มา มาได้เลย คือมาเมื่อไรก็รักอยู่แล้วค่ะ"

ตั้ม "คือจริงๆ ส่วนตัวผมเอง ผมอยากเที่ยวก่อนมากกว่า อยากไปเที่ยวด้วยกันสองคน แต่ถ้าเกิดว่าถ้าเกิดจะมีก็มีครับ"

บัว จะยังทำงานอยู่ไหมหรือว่าจะเป็นแม่บ้านเต็มตัว

บัว "ถ้ามีโอกาสก็คงทำนะคะ แต่ถ้าจะให้ทำจริงจังก็คงไม่ได้ค่ะ เพราะว่าตอนนี้เราก็ไม่ใช่คนเดียวแล้ว เรามีครอบครัวที่ต้องดูแล เหมือนชีวิตก็เปลี่ยนไปแล้ว"

ตั้ม "ที่บ้านก็มีแม่บ้านอยู่แล้วนะครับ (เรียกเสียงหัวเราะ) ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเขาว่าเขาอยากจะทำยังไง คือคิดว่าเขาน่าจะตัดสินใจเองได้อยู่แล้วว่าเขาอยากทำอะไรยังไงบ้าง"

คำมั่นสัญญาที่ให้แก่กันและกัน

บัว "บัวว่าการแต่งงานก็เหมือนกับเป็นการสัญญาแล้วว่าคือเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป จะต้องให้อภัยกัน แต่บัวก็มีกฎนะ บัวก็เพิ่งคุยกันเมื่อวันก่อนเองว่าต่อให้เราทะเลาะกันหนักขนาดไหนก็ห้ามออกจากบ้าน เพราะบัวรู้สึกว่าบางทีเดี๋ยวนี้คนเวลาทะเลาะกันอารมณ์แรงทั้งคู่ การที่เรายิ่งแบบไม่คุยกันให้รู้เรื่อง เหมือนจะยิ่งเตลิดค่ะ บัวก็เลยรู้สึกว่ามันสำคัญมากกับการที่เราจะต้องคุยกันแล้วก็ปรับความเข้าใจกันให้ได้ ยิ่งถ้ามีลูกต่อไปด้วยคือเราจะมาหุนหันพลันแล่นไม่ได้ไง"

ความประทับใจซึ่งกันและกัน

บัว "สำหรับบัวเนี่ย คือทุกคนก็จะรู้กันว่าที่บ้านบัวค่อนข้างจะหวงลูกสาว มีลูกสาวคนเดียว พี่ชายก็ดูโหดๆ กับการที่มีผู้ชายคนนึงที่จริงใจกับบัว มาขอไปมาหาสู่กับคุณแม่ตั้งแต่วันแรกที่จะไปเดตกัน บัวก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่จริงใจมากๆ แล้วอย่างตอนที่ขอแต่งงาน บัวรู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่งที่อายุเพิ่งยังไม่ถึง 30 ดี ยอมสละความโสดเพื่อที่จะมาผูกมัดกับเราตอนนี้ บัวรู้สึกว่าเราเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากคนหนึ่งที่เขายอมค่ะ"

ตั้ม "ผมรู้สึกประทับใจที่น้องบัวดูแลดีครับ เหมือนกับว่าคืออาจจะด้วยความที่ผมไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างสมมติว่าอย่างเช่นเวลาออกไปไหน ผมก็ไม่เคยได้ดูแลเรื่องเหมือนครีม โลชัน ครีมกันแดด น้องบัวจะมีคอยมาเตือนๆ ตลอดว่าอย่าลืมทานะ เหมือนคอยดูแลสิ่งรอบๆ ตัวครับ"

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. คู่บ่าวสาวก็เตรียมมารอต้อนรับแขกญาติผู้ใหญ่ เพื่อนสนิทของทั้ง 2 ครอบครัว ซึ่งมีทั้งวงการธุรกิจ วงการการเมือง และเหล่าคนในวงการบันเทิง อาทิ "ป๊อป - ศุภสิทธิ์ ชินวินิจกุล" จาก "รูกกี้ บีบี" อีกทั้งยังมี "กิ๊ฟซ่า - ปิยา พงศ์กุลภา" "กิ๊บซี่ - วนิดา เติมธนาภรณ์" "แนนนี่ - ภัทรนันท์ ดีรัศมี" และ "เบลล์ - มนัญญา ลิ่มเสถียร" จากวง "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" และที่ขาดไม่ได้เลย คือ "บีม - กวี ตันจรารักษ์" พี่ชายคนโตของเจ้าสาว ที่ควงคู่มากับแฟนสาวนอกวงการ "ออย - อฏิพรณ์ จิตต์ธรรมวงศ์" มาร่วมแสดงความยินดีในงานอีกด้วย

ในส่วนของพิธีการเริ่มจากการเปิดภาพวิดีโอประกอบเพลงพิเศษ "You Are Everything" ที่แต่งขึ้นโดย "แม็ค - ศรัณย์ วงศ์น้อย" หนึ่งในสมาชิกวง "อะแคปเปล่า เซเว่น" ร้องโดยคู่บ่าวสาว ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวเชิญประธานในพิธีขึ้นมากล่าวอวยพรให้กับ บัว และ ตั้ม ในเวลาต่อมาได้มีภาพวิดีโอสุดพิเศษจากพี่ชายทั้ง 3 คนของ บัว ที่มาพูดฝากฝังน้องสาวกับหนุ่ม ตั้ม ทำเอาเจ้าสาวน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตันใจ จากนั้นเป็นเวลาของพิธีการสำคัญอีกหนึ่งขั้นตอน เมื่อ บัว กับ ตั้ม ควงคู่กันไปจุดเทียนและตัดเค้กมงคล ก่อนจะเสร็จสิ้นพิธีด้วยช่วงเวลาสำคัญของสาวโสดกับการโยนช่อดอกไม้ และเพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเป็นผู้โชคดีได้รับช่อดอกไม้นั้น