โซเฟีย คอปโปลา สื่อเบื้องลึกชีวิตฮอลลีวูดใน Somewhere
ผลงานล่าสุด "Somewhere" ทำให้ "โซเฟีย คอปโปลา" (Sofia Coppola) กลายเป็นผู้กำกับหญิงอเมริกันคนแรกที่คว้าสิงโตทองคำ รางวัลใหญ่ที่สุดในเทศกาลภาพยนตร์เวนิซ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา ใน Somewhere โดยมี "สตีเวน ดอร์ฟฟ์" (Stephen Dorff) รับบทดาราภาพยนตร์ จอห์นนี มาร์โค และ "แอลล์ แฟนนิง" (Elle Fanning) น้องสาวของนักแสดงดัง "ดาโกตา แฟนนิง" (Dakota Fanning) รับบทลูกสาววัย 11 ปีของพระเอก ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้เขาตระหนักถึงความว่างเปล่าในชีวิตของตน
โซเฟีย เผยว่า Somewhere มีความคล้ายคลึงกับ "Lost in Translation" ภาพยนตร์เรื่องเด่นของเธอเมื่อปี 2003 เนื่องจากเกือบทั้งเรื่องมีฉากเป็นโรงแรม โดยส่วนใหญ่ได้ถ่ายทำในสถานที่จริงตามท้องเรื่องที่โรงแรม ชาโท มาร์มอนต์ ในย่านฮอลลีวูด ประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในโรงแรมที่ โซเฟีย เคยพักขณะติดตามคุณพ่อซึ่งเป็นผู้กำกับชื่อดัง "ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา" (Francis Ford Coppola) ไปทำงาน
"เราใช้เวลามากมายเติบโตขึ้นในโรงแรม ตอนที่เราไปออกนอกสถานที่กับคุณพ่อ ฉันชอบมากตอนอยู่ในโรงแรม มันเป็นเหมือนโลกใบหนึ่งในตัวมันเอง" ผู้กำกับหญิงจากตระกูลดังเล่า "แล้วมันก็ยังเป็นที่ที่ไม่ถาวร ตัวละครหลายตัวที่ฉันสนใจเป็นคนที่อยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อต่างๆ มันก็เลยดูเหมือนพวกเขาน่าจะอยู่ในฉากที่ดูชั่วคราวน่ะค่ะ"
ตัวละคร จอห์นนี มาร์โค ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นกัน เนื่องจากเป็นนักแสดงที่กำลังรองานชิ้นใหม่เข้ามา ตามที่ สตีเวน ผู้ถ่ายทอดบทบาทนี้เล่าไว้ว่า "สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าสมจริงมาก คือความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นกับนักแสดง เวลาที่การถ่ายทำจบลง สำหรับนักแสดงภาพยนตร์ พวกเราทำงานด้วยกันสัก 3 เดือน แล้วภาพยนตร์ก็จบ ผมไม่ได้ไปทำงานที่สำนักงานทุกวัน ผมเหมือนโดนทิ้งไว้ ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่องใหม่มาถึง"
โซเฟีย ริเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากปิดกล้อง "Marie Antoinette" ตอนนั้นเธออยู่ในประเทศฝรั่งเศส และมองเห็นเมืองลอสแอนเจลิสจากระยะไกลผ่านทางหนังสือพิมพ์ที่เพื่อนๆ นำมาฝาก เธอจึงต้องการให้ภาพยนตร์สะท้อนภาพลอสแอนเจลิสในปัจจุบัน โดยผ่านมุมมองของตัวละครชาย ตามที่เธออธิบายว่า "ฉันอยากเขียนเรื่องราวจากมุมมองของผู้ชาย เกี่ยวกับชีวิตที่เต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง เพราะว่ามันแตกต่างจากตัวฉัน"
ในฐานะลูกหลานของตระกูลใหญ่ในวงการฮอลลีวูด โซเฟีย ใช้ภาพยนตร์เรื่องนี้พาผู้ชมเข้าสู่โลกที่เธอคุ้นเคยดี "ฉันอยากถ่ายทอดในภาพยนตร์ ถึงความขัดแย้งของธุรกิจบันเทิงของ จอห์นนี มาร์โค และตัวลูกสาวของเขาค่ะ" ส่วน ฟรานซิส คุณพ่อในชีวิตจริงของ โซเฟีย นั้น สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างดี "ท่านบอกว่าท่านรักมันค่ะ และท่านคิดว่ามันเป็นงานที่มีแต่ฉันเท่านั้นที่ทำได้ และเราควรจะทำภาพยนตร์ที่มีแต่เราเท่านั้นที่ทำได้" โซเฟีย กล่าว
