ร่วมปิดฉากภาพยนตร์ขวัญใจผู้ชมกับ บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ

"บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ" เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายจากความตั้งใจของ "บัณฑิต ฤทธิ์ถกล" ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่เป็นผู้สร้างตัวละครหนุ่มสุพรรณผู้ใสซื่ออย่าง บุญชู ให้โลดแล่นบนแผ่นฟิล์มและเป็นขวัญใจผู้ชมมากว่า 20 ปี หลังจาก บัณฑิต เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายขณะฟอกไต ก็ได้ "กิ๊ก - เกียรติ กิจเจริญ" หนึ่งในนักแสดงมาช่วยสานต่อรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในภาคต่อนี้แทน โดยเปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา บริเวณชั้น 1 ของโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน

เริ่มเปิดงานด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ "1 2 3 4 5 ไอ เลิฟ ยู" จาก 4 หนุ่ม "เดอะ บอททอม บลูส์" ก่อนจะเริ่มพูดคุยกับผู้กำกับและเหล่านักแสดงรุ่นใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ ที่มีทั้ง "อาร์ตี้ - ธนฉัตร ตุลยฉัตร" "จีน - เกล้าแก้ว สินเทพดล" "นะโม ทองกำเหนิด" "จ๋า - ณัฐฐาวีรนุช ทองมี" "หนอม - วิทยา เจตะภัย" และนักชกเจ้าของเหรียญทองโอลิกปิก ปี 2008 "สมจิตร จงจอหอ" รวมถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เป็นตัวละครยืนเรื่องมาทุกภาค ประกอบด้วย "หนุ่ม - สันติสุข พรหมศิริ" "แหม่ม - จินตหรา สุขพัฒน์" "เกียรติ - สมเกียรติ คุณานิธิพงษ์" "ตุ๋ย - อรุณ ภาวิไล" "เอ๋ - เกรียงไกร อมาตยกุล" "หนุ่ม - กฤษณ์ ศุภมงคล" และ "เจี๊ยบ - วัชระ ปานเอี่ยม"

กิ๊ก บอกถึงความต่างในภาคนี้ว่า "เรื่องราวในเนื้อหาก็คงจะแตกต่าง แต่ที่แตกต่างไปนิดหน่อย อาจจะเป็นวิธีการเล่าเรื่อง วิธีการนำเสนอมุกตลก แต่ว่าเราทุกคนก็พยายามที่จะเน้นให้เป็นหนังตลกเฮฮาในสไตล์ของ บุญชู 80-90 เปอร์เซ็นต์ เป็นพี่บัณฑิต เพราะพี่บัณฑิตเขาเน้นเรื่องของเรื่องราวอยู่แล้ว เราก็พยายามเน้นเรื่องของเรื่องราวเป็นหลัก ส่วนมุกก็จะตามมาจากเนื้อเรื่อง เนื้อหาที่เกิดขึ้น ถามว่ากดดันไหม กดดันเรื่องการทำงานมากกว่าว่าจะเสร็จไหม ออกมาจะดีไหม แต่ไม่ได้กดดันว่าจะต้องไปเทียบกับหนังเดิมที่ทำมา"

ด้าน แหม่ม เล่าว่า "ก็เป็นเรื่องราว สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตัวละครก็ยังคงเหมือนเดิม มีตัวละครใหม่ๆ ที่เข้ามา แต่ว่ายังคงมีความเป็น บุญชู มีความสนุกสนาน มุกต่างๆ ก็ยังเป็น บุญชู อยู่ ดูแล้วก็ยังรู้สึกว่าเหมือน บุญชู ภาคที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะแตกต่างไปจากภาคอื่นๆ แต่ละภาคก็จะมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว แต่ว่าตัวละครเหมือนเดิม แต่สนุกเหมือนเดิม รับรองว่าสนุก"

ตัวเอกของเรื่องที่รับบทโดย หนุ่ม ก็กล่าวว่า "บุญชู ภาคนี้ก็ไปตามวัยเรื่อยๆ ลูกชายจากภาคที่แล้วเรียนจบ ภาคนี้ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าใครดูตั้งแต่ บุญชู ผู้น่ารัก ก็จะทราบว่าจะเท่ากับตอน บุญชู ผู้น่ารัก ผมเข้ามาเอ็นทรานซ์พอดี ตอนนั้นติดหญิงเหมือนกัน เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก ภาคนี้มีความวาไรตี้เยอะ มีตัวละครใหม่เข้ามา มีเกี่ยวกับเรื่องราวอะไรหลายๆ อย่าง ทุกคนตั้งใจทำงานกันเต็มที่ ไม่มีการท้อถอย ทั้งนักแสดง ทีมงาน ผู้กำกับ ทุกคนทำให้พี่บัณฑิต ทำให้กับแฟนๆ บุญชู ทุกท่าน เราไม่อยากให้ผิดหวัง ถ้าเป็นแฟน บุญชู ต้องมาดูภาคนี้ด้วย ฝากไว้ครับ"

ส่วน อาร์ตี้ บอกถึงการเปลี่ยนแปลงว่า "ภาคนี้ตัวบุญโชคโตขึ้นครับ จากภาคที่แล้วเขาเอ็นท์ไม่ติด แต่ภาคนี้เขาเอ็นท์ติดที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย แล้วก็ได้ไปเจอกับรุ่นพี่ แล้วก็เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขามีความรัก ภาคนี้บุญโชคจะมีความรัก เขาจะจีบสาวไม่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ปกติเวลาให้ของผู้หญิง ผู้ชายอาจจะให้ดอกไม้ ตุ๊กตา บุญโชคเขาให้พระ"

ด้านนักแสดงใหม่ที่เข้ามาช่วยสร้างสีสันอย่าง จีน ก็พูดถึงการร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็ตื่นเต้นตอนแรก เพราะว่าได้มาเจอกับพี่ๆ รุ่นใหญ่ๆ มีผลงานการแสดงมาเยอะแยะอย่างพี่แหม่ม พี่หนุ่ม ที่เป็นพระเอก นางเอกในใจใครหลายๆ คน แล้วก็เป็นเกียรติมากๆ ที่ได้มาเป็นส่วนร่วมเล็กๆ ในภาพยนตร์ที่ถือว่าเป็นตำนานเรื่องนี้ค่ะ" ต่อด้วย นะโม บอกว่า "ดีใจมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ บุญชู นะครับ ทีแรกรู้สึกเกร็งเหมือนกันที่ได้เจอพี่ๆ ส่วนใหญ่เคยแสดงแต่หนังผี ไม่เคยแสดงหนังตลก ก็ยังไม่ค่อยถนัด แต่ก็ยังมี อาร์ตี้ จีน ที่อยู่ในวัยเดียวกัน สามารถจะช่วยกันได้"

สาว จ๋า กล่าวว่า "ตื่นเต้นมากค่ะ เพราะว่าทุกๆ คนคือมือโปรทั้งหมดเลย แล้วก็ยินดีมากๆ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในภาพยนตร์ที่เป็นตำนานของหนังไทย แล้วก็ทำงานให้กับอาด้วย สำหรับพี่กิ๊ก พี่กิ๊กเป็นผู้กำกับที่ตั้งใจทำงานมาก เสียงดังเข้าว่า สั่งงานจริงจัง ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องได้ก่อน จริงๆ เป็นคนใจดี แต่พออยู่ในหน้าที่การงานเป็นคนซีเรียส เพื่อที่จะให้งานออกมาดี"

ส่วนนักชกขวัญชาวไทย สมจิตร ก็พูดถึงการแสดงภาพยนตร์ว่า "ดีใจแล้วก็เป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ บุญชู ซึ่งพี่น้องชาวไทยก็ดูกันมานาน ภาคนี้เป็นภาคพิเศษจริงๆ แล้วได้ผมมาร่วมด้วยก็ยิ่งพิเศษ หลังจากที่ผมเลิกชกมวย มันเป็นประวัติศาสตร์ของผม มาแสดงหนังก็เป็นประวัติศาสตร์ของผมอีกครับ"

เมื่อถามถึงภาคต่อหลังจากนี้ กิ๊ก ก็เผยว่า "คงไม่แล้วล่ะ เรื่องนี้ก็คงเป็นภาคสุดท้าย พี่ๆ นักแสดงทุกคนก็บอกกันอยู่แล้วว่าเรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องสุดท้าย เพราะว่า บุญชู เป็นของคุณบัณฑิต คงไม่มีภาคนี้เหมือนกันถ้าพี่บัณฑิตไม่ทำไว้แต่แรกนะครับ พี่เคยคุยกับพี่บัณฑิตเอง เคยบอกพี่บัณฑิต ผมเล่น บุญชู 10 ผมเล่นสุดท้ายแล้วนะ ผมเล่นเต็มที่ เพราะผมก็ไม่ไหวแล้ว เริ่มแก่ ไปวิ่งก็ไม่ไหวแล้ว"

ด้าน แหม่ม ก็กล่าวว่า "จริงๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีภาคนี้ด้วยซ้ำไป แต่มีภาคนี้ขึ้นมาเราก็ดีใจที่อย่างน้อยพี่กิ๊กมาสานต่อให้เสร็จสมบูรณ์ เพราะว่าพี่บัณฑิตเขาวาดหวังเอาไว้มากกับ บุญชู ภาคนี้ คิดเอาไว้ คุยกันเอาไว้แล้วว่าน่าจะเป็นภาคสุดท้ายแล้ว มันก็ยาวนานมามากแล้ว พี่บัณฑิตเขาก็วาดหวังอยากจะทำ บุญชู 10 มากเลย ทีนี้เขาเสียชีวิตไปซะก่อน ก็ดีใจที่มีพี่กิ๊กมาช่วยสานต่อให้สำเร็จ วันนี้ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะได้ฉายแล้ว ทุกอย่างก็โล่งอกค่ะ"

จากนั้นเหล่านักแสดงก็ได้กล่าวผู้กำกับชื่อดัง โดย หนุ่ม บอกว่า "พี่บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่เป็นผู้สร้างตั้งแต่ภาคแรกเมื่อประมาณปี 2531 เข้าฉายเป็นภาพยนตร์เรื่อง บุญชู ผู้น่ารัก เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จ จากนั้นก็มีมาหลายๆ ภาค ผมเองก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่บัณฑิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บุญชู โก๊ะจ๋า ป่านะโก๊ะ กาลครั้งหนึ่งเมื่อเช้านี้ พี่บัณฑิตเป็นผู้ใหญ่ที่ผมให้ความเคารพมากคนหนึ่งในวงการ เป็นบุคคลในวงการภาพยนตร์จริงๆ พี่บัณฑิตทำหนังเยอะ ทำหนังมากมายหลายสไตล์ แต่ละเรื่องเป็นหนังที่ดี มีประโยชน์ต่อสังคมไทยทุกเรื่อง ผมกล้ารับประกัน บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ เป็นผลงานที่พี่บัณฑิตได้มีส่วนคิดก่อนที่จะเสีย ได้วางเรื่อง วางตัวละคร วางโครงสร้างเอาไว้ ถือว่าเป็นผลงานสุดท้ายของพี่บัณฑิตจริงๆ ครับ"

ด้านนางเอกคู่ขวัญ แหม่ม พูดว่า "มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่บัณฑิตมากมายหลายเรื่อง ก่อน บุญชู ก็ยังมี ปัญญาชนก้นครัว คู่วุ่นวัยหวาน ต่อจาก บุญชู แล้วก็ยังมีอีกหลายเรื่อง มี ส.อ.ว.ห้อง 2 รุ่น 44 เล่นกับพี่บัณฑิตมาหลายเรื่องแล้วก็หลายคาแรกเตอร์ พี่บัณฑิตเขาจะรู้จักนักแสดงว่าตัวละครตัวนี้จะเอานักแสดงท่านไหน ให้เราแสดงเป็นตัวละครได้โดยที่เราไม่ลำบากไม่อึดอัดเลย เปิดกว้างในการรับรู้ความคิดเห็นของคนอื่นๆ ดีใจที่ได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่บัณฑิต ถือว่าเป็นผู้กำกับในดวงใจท่านหนึ่งเลยทีเดียว"

เอ๋ รำลึกถึง บัณฑิต ว่า "พี่บัณฑิตเป็นปูชนียบุคคลด้านหนัง คนที่ป่วย เจ็บมากๆ แล้วยังอยากทำหนัง แปลว่ารักมาก ถึงวาระสุดท้ายก็ยังทำหนังอยู่ พี่บัณฑิตสุดยอดมาก" ส่วน เกียรติ บอกว่า "อยู่ในวงการหนังได้ก็เพราะพี่บัณฑิต เริ่มทำเป็นผู้จัดการกองถ่ายจาก บุญชู ผู้น่ารัก เริ่มแสดงก็เริ่มจาก บุญชู ผู้น่ารัก แล้วก็อยู่กับพี่บัณฑิตมาอีก 20 กว่าเรื่อง ทำงานกับพี่บัณฑิตมา วันนี้ บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ ซึ่งถือว่าเป็น บุญชู ภาคสุดท้าย เพราะพี่บัณฑิตทำเอาไว้ให้พวกเราได้มาสานต่อ ก็อยากจะบอกสื่อมวลชนและทุกท่านที่เป็นแฟน บุญชู ว่าวันนี้พวกเราได้ทำหนังเรื่อง บุญชู ไว้เป็นอนุสรณ์ให้พี่บัณฑิต เป็นหนังที่สนุกมากๆ ความรู้สึกของพวกเราทุกคนอยากให้หนังเรื่องนี้ประทับใจ สนุก แล้วก็ให้คนไทยดู แล้วก็อยากบอกพี่บัณฑิตว่าพวกเราช่วยกันทำหนังเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อย"

นอกจากนี้ "นันทนา คุ้มวงษ์" และ "ส้ม - ธนธรณ์ ฤทธิ์ถกล" ภรรยากับลูกสาว ได้กล่าวขอบคุณผู้กำกับและนักแสดงที่มาช่วยสานฝันของบัณฑิต ให้สำเร็จจนออกมาเป็น บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ โดย ส้ม กล่าวขอบคุณว่า "ส้มแล้วก็คุณแม่ขอบคุณมากจริงๆ ที่ช่วยกันทำงานชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้ของคุณพ่อให้สำเร็จ คุณพ่อตั้งใจกับหนังเรื่องนี้มาก แม้แต่ตอนเข้าโรงพยาบาล คุณพ่อก็คิดเรื่องการทำงานตลอดเวลา ดูปฏิทินทุกวันเพื่อวางแผนว่าจะออกไปถ่าย คุณพ่อปวดแผลมาก แต่กำลังใจก็ทำให้คุณพ่อสู้ คุณพ่อบอกว่าจะรีบรักษาให้หาย จะได้รีบออกไปทำงาน ไปทำบุญชู 10 สุดท้ายคุณพ่อไม่ได้ออกมา งานก็คงยังคั่งค้างถ้าไม่มีอาๆ ไม่มีไฟว์สตาร์ มาช่วยกันสานต่อ วันนี้เราคงไม่ได้ดู บุญชู 10 กัน คุณพ่อก็คงจะมีผลงานที่คั่งค้างอยู่ไปจนตลอดไป

อยากขอบคุณอาๆ มากๆ จริงๆ โดยเฉพาะอากิ๊กที่ช่วยสานต่องานตรงนี้ ไม่ว่าคุณพ่อจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ส้มเชื่อว่าคุณพ่อรับรู้ได้ถึงความตั้งใจ น้ำใจไมตรีที่พี่ๆ น้องๆ ที่เคยร่วมงานกับคุณพ่อทุกคน บุญชู เป็นหนังที่คุณพ่อเขียนขึ้นมาจากประสบการณ์ของตัวเอง จากคนรอบตัว วันนี้ บุญชู 10 สำเร็จแล้ว ไม่ว่าคุณพ่อจะอยู่ที่ไหนก็ตามเชื่อว่าคุณพ่อคงภูมิใจแล้วก็ปลื้มใจที่บัณฑิตยังอยู่ในใจของทุกๆ คน อยู่ในใจของไฟว์สตาร์ ของทีมงาน อยู่ในใจของพี่ๆ น้องๆ ในวงการภาพยนตร์รวมถึงคนดูทุกคน เชื่อว่าผลงานนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ คุณพ่อไม่ผิดหวังแน่ๆ ขอบคุณนะคะ"

กิ๊ก ที่เป็นคนมาช่วยสานต่องานกำกับก็กล่าวว่า "พวกเราทำงานตั้งใจเต็มที่ ออกมาให้ดีที่สุด อาจจะไม่ได้ดีเท่า ผมก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะดีเท่าที่พี่บัณฑิตทำไว้หรือเปล่า เพราะพี่บัณฑิตถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์ของพวกเรา แต่พวกเราทุกคนทำดีที่สุดเท่าที่เราสามารถจะทำได้แล้วครับ ต้องฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนรวมถึงคนดู ยังไงก็เมตตาพวกเราด้วยก็แล้วกัน"

สุดท้าย หนุ่ม ขอเป็นตัวแทนฝากภาพยนตร์ว่า "ในฐานะที่ได้รับบทเป็น บุญชู บ้านโข้ง มาเป็นเวลา 20 กว่าปี ตั้งแต่ปี 2531 ยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องบุญชู ยังคงเป็นภาพยนตร์ไทยแท้ๆ เหมือนกับ 20 ปีที่แล้ว อารมณ์ของหนังไทย อารมณ์ของตัวละคร การเมืองหรือข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้ เป็นหนังไทยแท้ๆ ที่หลายๆ ท่านอาจจะโหยหา หลายท่านอาจจะอยากดูภาพยนตร์ที่เป็นภาพยนตร์ไทย แล้วก็คละเคล้าไปด้วยความสนุกสนาน รับรองครับ ขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูแล้วช่วยบอกต่อกันด้วยนะครับ"

ติดตามความสนุกสนาน เฮฮา และเก็บความประทับใจ ไปพร้อมกับ บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ ผลงานสุดท้ายของ บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ได้ในโรงภาพยนตร์ 5 สิงหาคม นี้