1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

นาคปรก ภาพยนตร์ตีแผ่ความชั่วที่ซ่อนเร้นใต้ร่มเงาศาสนา

นาคปรก ภาพยนตร์ตีแผ่ความชั่วที่ซ่อนเร้นใต้ร่มเงาศาสนา

หลังจากผ่านการทำประชาวิจารณ์และผ่านกองเซ็นเซอร์นานถึง 3 ปี ท่ามกลางการรอคอยของทีมงาน ผู้กำกับ "ใหม่ - ภวัต พนังคศิริ" และเหล่านักแสดง อาทิ "เต๋า - สมชาย เข็มกลัด" "เร แม๊คโดแนลด์" "ทราย เจริญปุระ" และนักแสดงรุ่นใหญ่ "อี๊ด - รัชนู บุญชูดวง" ในที่สุด "นาคปรก" ภาพยนตร์เนื้อหาแรงตีแผ่มุมมืดในสังคม ก็ได้ลงโรงเข้าฉาย โดยไม่มีการตัดเนื้อหาของเรื่องออกไปแม้แต่ฉากเดียว

วันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณชั้น 1 ของโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นลานพรมดำขนาดย่อมเพื่อเปิดตัวผู้กำกับและเหล่านักแสดง ที่พร้อมจะมาพูดคุยถึงเรื่องราวในภาพยนตร์ให้ฟังกันก่อนจะได้ไปชมของจริง

ใหม่ พูดถึงความรู้สึกตลอด 3 ปีที่ต้องฝ่าฟันจนภาพยนตร์ได้เข้าฉายว่า "จริงๆ ถ้าถามผมฟีดแบกที่ผ่านมา 3 ปี ได้กำลังใจมาตลอด รู้สึกว่าทุกคนที่อยู่รอบข้างผมให้กำลังใจ ผมรู้สึกว่ายังไงหนังก็ต้องได้ฉาย แล้ววันนี้ก็มาถึง ก็ตื่นเต้นอันดับแรก หลังจากนั้นก็ดีใจที่เซ็นเซอร์มองเห็นถึงภาพยนตร์ที่น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ทุกคนควรจะได้ดู"

ด้าน เร ก็บอกว่า "พอรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะฉายแล้ว ทุกคนก็อยากจะดูมากๆ นะครับ เราก็ดีใจครับ รอมา 3 ปี พอตอนที่พี่เขาบอกมีวันเข้าฉายแล้วนะ ก็น้ำตาซึมเล็กน้อย 3 ปีแล้วที่รอ วันนี้ได้ฉายแล้วก็ดีใจมากๆ ครับ" ส่วน เต้ ก็เจอคำถามจากคนรอบข้างมาตลอดว่า "เมื่อไรจะฉาย เมื่อไรจะได้ดู ผมก็รู้สึกในใจตลอดเวลาว่าทำไมไม่เข้าฉายสักที เพราะผมเองก็ยังไม่ได้ดูทุกฉากแบบเต็มๆ เลยครับ พอภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ฉายแบบเต็มๆ ผมดีใจมากครับ"

นอกจากนี้ผู้กำกับยังได้เอาภาพยนตร์เรื่องนี้ไปทำประชาพิจารณ์ตามสถาบันการศึกษา โดย ใหม่ พูดถึงสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ว่า "ผมอยากรู้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ได้ดูแล้วเขารู้สึกยังไง ก็เลยจะทำประชาพิจารณ์เพื่อจะเอาคำวิจารณ์เหล่านั้นของท่านทั้งหลายที่ดูหนัง ถ้าเกิดอันไหนที่รุนแรงเกินไปรับไม่ได้จริงๆ เราก็พร้อมที่จะแก้ แต่โดยส่วนใหญ่ก็โอเคนะครับ จริงๆ เขาก็บอกว่าแรง แรงในขณะที่มีเหตุผล ผมแค่อยากจะบอกว่าผมพร้อมที่จะตัดถ้าไม่ถูกใจ ผมพร้อมที่จะตัดออกถ้าไม่ชอบ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างพอผมทำไปมีการตัดที่คิดว่าเขาชอบ ปรากฏเขาบอกว่าถ้าตัดออกไปก็ไม่ใช่ นาคปรก"

ส่วน เต๋า ที่ได้ไปร่วมการทำประชาพิจารณ์ด้วยก็ได้กระแสตอบรับมาว่า "เขายังเชื่อว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง อยู่ใกล้ๆ ตัวเรา เรื่องของการเล่าเรื่องหรือการสื่อประเด็นทางโพสซิทีฟ จริงๆ ทำได้ไม่น่าเกลียด เราพยายามเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้มีที่มาที่ไป เราสื่อเรื่องของคนเลว ไม่ใช่เรื่องของพระเลย เรื่องของคนเลวที่ใช้ผ้าเหลืองบังหน้า"

ทราย ก็ได้รับการตอบรับจากเหล่านักศึกษาที่ร่วมทำประชาพิจารณ์มาว่า "พอดูแล้ว เหตุผลในหนังก็เข้มแข็งพอที่จะมารองรับว่าทำไมเราถึงต้องเล่าเรื่องแบบนี้ มีเหตุมีผลไม่ใช่อยู่ๆ ก็จับมาโกนหัวแล้วบวช มันไม่ใช่ ประเด็นจริงๆ คือความเป็นตัวละครนั้นเป็นคนแบบนี้ ก็เลยต้องแสดงออกแบบนี้ แล้วน้องๆ ทุกคนที่ดูก็บอกว่าไม่แรง เพราะเหตุผลมันโอเค เราเข้าใจได้ ทุกคนเข้าใจ"

ก่อนหน้านี้หนุ่ม เร ก็แอบไปดูผลตอบรับด้วยตัวเองเหมือนกัน "ฟีดแบกค่อนข้างที่จะดีตามที่ได้ดูในเน็ต ส่วนน้อยมากที่จะติงกันเข้ามา แต่ว่ายังไงก็แล้วแต่ผมว่าน่าจะมาดูหนังก่อน แล้วก็ค่อยมาวิจารณ์หรือว่าเข้ามาคอมเมนต์กัน อยากให้ดูอยากให้โอกาสหนังเรื่องนี้หน่อยครับ" เต้ บอกถึงเสน่ห์ในภาพยนตร์ว่า "ผมรู้สึกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือก เลือกที่จะทำดี เลือกที่จะทำชั่ว หรือเลือกที่จะชั่วแล้วเป็นคนดี หรือว่าเลือกที่จะทำดีแล้วเป็นคนชั่ว มันมีเสน่ห์ตรงนี้ให้ทุกคนได้คิดครับ"

ส่วนผู้กำกับ พูดว่า "ผมว่ามีข้อคิด ปรัชญาทางพระพุทธศาสนาเยอะเหมือนกัน ผมอยากให้หนังเรื่องนี้ให้ทุกคนได้มองพระพุทธศาสนาได้เข้าใจมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งความรู้สึกของทุกคนที่มองพระพุทธศาสนา วัด หรือพระ ในยุคปัจจุบัน ผมรู้สึกว่ามันน้อยลงไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ผมว่าน่าจะทำให้สังคมหรือคนส่วนใหญ่ที่มองศาสนาในแง่ลบอยู่กลับมามองในด้านที่ดีบ้าง"

ทราย เล่าถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อว่า "หนังเป็นการสะท้อนภาพของสังคมในช่วงนั้นๆ ทรายเชื่อว่า 3 ปีย้อนไปกับ 3 ปีต่อๆ ไป เราจะยังมีข่าวแบบนี้อยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ ยังมีข่าวไม่ดีอะไรอย่างนี้อยู่ สังคมเป็นแบบนี้ เรามีหน้าที่เป็นสื่อสะท้อนภาพ เราไม่ได้บอกว่าเราเอาเรื่องจริงทั้งหมดมาเล่า เราต้องมองว่าถ้าสมมติมีเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้วจะไปจบตรงไหน จะไปต่อตรงไหน จะเป็นอะไรต่อไป ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ต่อเนื่อง อ่านหนังสือพิมพ์มันก็มีอยู่ เราจะปฏิเสธความจริงไปทำไม มันมีจริงๆ การที่เราบอกว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาหายไป ทำไมเราไม่พูดถึงมันบ้าง เผื่อจะให้คนที่จะกลายมาเป็นปัญหาต่อๆ ไปได้หยุดก็ยังดี"

ด้านนักแสดงอาวุโส อี๊ด กล่าวถึงการทำงานร่วมกับนักแสดงรุ่นลูกว่า "บางคนบอกว่าดูข้างนอกพวกนี้ดูเหมือนกลุ่มที่เกเรมาก ตอนที่ยังไม่ได้ร่วมงานดูไม่เอาไหนเลย มันเป็นภาพลักษณ์ แต่พอมาร่วมงานแล้วเป็นคนกลุ่มที่ทำงานแล้วแคล่วคล่องดีมาก เอาใจใส่กับการทำงานมากๆ เลยค่ะ ดีใจกับผู้กำกับด้วยค่ะที่เขาเลือกตัวละครแล้วมันใช่เลยค่ะ อยากได้งานที่ดีก็ได้เลยค่ะ"

ทราย บอกถึงความท้าทายในการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "หลายคนบอกว่าน่ากลัวไปไหม ทรายก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าทรายไม่เล่นเรื่องนี้ แล้วทรายควรจะไปเล่นอะไร บทดีน่าเล่นจะตายสำหรับคนที่เป็นนักแสดง เราทำงานมา 10 กว่าปี เรายังไม่เคยเห็นมีหนังแบบนี้ บวกที่พ่อเราทำไปด้วย 20 ปี ก็ยังไม่มีหนังแบบนี้ ซึ่งการได้มาเป็นส่วนร่วมส่วนหนึ่งในหนัง บทน่าเล่น บอกถึงสังคมวัฒนธรรมในที่ๆ เราอยู่มีส่วนร่วมกับมันเลยจริงๆ บทเล่นเป็นคนเลว คนโลภ เป็นต้นเหตุเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทั้งหมดทั้งมวลเลยเลวหมด แต่เราก็ต้องเอาใจช่วยใครสักคน ถ้าเป็นเราๆ จะทำยังไงดี เราจะแบบเร แบบเต้ ทำอย่างทราย ทำเหมือนเต๋า ทั้งๆ ที่ในเรื่องอื่นคุณอาจจะเกลียด เป็นคนเลวแล้วไม่เอาใจช่วย แต่เรื่องนี้ 4 คนเลวหมด ให้เลือก"

เต้ ก็อยากให้ทุกคนมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ให้สมกับการรอคอย "หนังเรื่องนี้รอมา 3 ปี คุณค่าเหล่านั้นมันจะไร้ค่า จะหมดค่าไปเลย ถ้าคุณไม่ได้ดูกัน เพราะว่าผมคิดว่ามันมีอะไรที่ทุกคนเอากลับไปใช้ได้ คุ้มค่ากับการรอคอยถ้าเกิดได้ดู" และ อี๊ด ฝากถึงภาพยนตร์ว่า "บอกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกสังคมว่าไม่ใช่ให้เฉพาะแค่ความบันเทิงนะคะ ให้แง่คิดอีกตั้งหลายอย่าง เพียงแต่เลือกดูว่าอันไหนสิ่งไหนที่ควรจะเอาเยี่ยงอย่าง นาคปรก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของทั้งผู้ใหญ่หรือเด็ก วิจารณญาณเท่านั้นที่จะเอาไปตัดสินว่าควรทำหรือไม่ควรทำค่ะ"

พิสูจน์ความแรงและความเข้มข้นของ นาคปรก พร้อมเข้าฉาย 18 มีนาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30
  • รูปภาพ 31
  • รูปภาพ 32
  • รูปภาพ 33
  • รูปภาพ 34
  • รูปภาพ 35
  • รูปภาพ 36

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Run All Night - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ผู้กำกับ ฮวม คอลเล็ต-เซอร์รา และ เลียม นีสัน ผู้รับบท จิมมี คอนลอน ทำงานร่วมกัน สองเรื่องก่อนหน้านี้คือ Unknown (2011) และ Non-Stop (2014) อ่านต่อ»
  • Insurgent - เรื่องนี้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Divergent (2014) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องลาออกจากงานมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก ในขณะที่สามีออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่การเป็นแ...อ่านต่อ»