ชอว์น หยู สนุกได้ร่วมงานคนไทยใน มาย เบสท์ บอดี้การ์ด
นอกจากจะดึง "กู่ห้วนฉิว" (Ku Huan-Chiu) หรือ "ดีดี๋" ผู้กำกับบทบู๊ชื่อดังชาวฮ่องกงมาร่วมงานในภาพยนตร์ไทยดรามาแอ็กชันเรื่อง "มาย เบสท์ บอดี้การ์ด" (My Best Bodyguard) ผลงานการกำกับของ "ปุ๊ - สิริปปกรณ์ วงศ์จริยวัตร" เพื่อให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีนักแสดงดังชาวฮ่องกง "ชอว์น หยู" (Shawn Yue) หรือ "หยูเหวินเล่อ" (Yue Wen Le) ที่เคยมีผลงาน อาทิ "Rule #1" "Initial D" "Invisible Target" รวมถึง "Infernal Affairs" ทั้ง 3 ภาค มาร่วมแสดงอีกด้วย
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา ณ ห้องแคมปัส โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ในงานแถลงข่าว "Global Distribution" การจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง "9 วัด" และ "มาย เบสท์ บอดี้การ์ด" เพื่อให้ภาพยนตร์ไทยก้าวไปสู่ตลาดโลก ภายใต้การร่วมมือกันระหว่างค่ายภาพยนตร์ โอเรียนทัล อายส์ กับ มีเดีย เอเชีย ดิสทริบิวชั่น จากฮ่องกง หนุ่ม ชอว์น หยู พร้อมด้วยเหล่านักแสดงและผู้กำกับจากทั้ง 2 เรื่อง ทั้ง "นุ่น - ศิรพันธ์ วัฒนจินดา" "เจมส์ แม๊กกี้" ผู้กำกับ "ยู - ษรัณยู จิราลักษม์" จากเรื่อง 9 วัด ฝั่ง มาย เบสท์ บอดี้การ์ด ก็มี "โอ๋ - หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ" "สงกรานต์ เตชะณรงค์" รวมถึงผู้กำกับ มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวในภาพยนตร์
ผู้กำกับ ยู เล่าเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง 9 วัด ให้ฟังว่า "9 วัด เป็นหนังผีแนวๆ ผีสยองขวัญโดยเล่าผ่านมุมมองของคน แนวๆ หนังเรื่องนี้จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับคู่รักเด็กแนว 2 คนที่จะเดินทางมาเที่ยวที่เชียงใหม่ระหว่างทางก็ไปทำบุญ 9 วัด ก็ไปเจอพระองค์หนึ่งที่เป็นเพื่อนกับพระเอก ทั้ง 3 ก็เดินทางขึ้นเหนือด้วยกัน จริงๆ แล้ว 3 คนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จะมาอยู่ด้วยกัน ณ โมเมนต์นั้น มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ติดมาด้วย พาให้ทั้ง 3 ไปเจอเรื่องที่น่าสะพรึงกลัว ความลึกลับ ความสยองขวัญที่เราคาดไม่ถึง"
ยู บอกถึงความน่าสนใจของเรื่องนี้ว่าอยู่ตรงที่ "หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่เล่าผ่านมุมมองเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ตั้งคำถามแทนคนทุกคนว่าเวลาเรามีเคราะห์หรือว่าเราอยากจะรวย เราอยากจะขออะไรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เราก็ไปขอที่วัด ซึ่งจริงๆ แล้วจะได้จริงหรือเปล่า เป็นคำตอบที่หนังเรื่องนี้ตั้งคำถาม วิธีการนำเสนอเป็นเรื่องที่มีเด็กแนว 2 คนเท่ๆ มีแอมพลิจูดของความเป็นวัยรุ่น ความเป็นเด็กแนว มีเพลงร็อก แล้วก็มีเรื่องลึกลับที่เป็นสถานการณ์ที่หนังเรื่องนี้จะค่อยๆ เล่าไปว่าสิ่งที่เจอมีความเข้มข้น มีความเป็นดรามา มีความเป็นหนังผี สยองขวัญ ตื่นเต้น"
ด้านสาว นุ่น ที่มาพร้อมโฉมใหม่ก็เล่าว่า "บทท้าทายมากในส่วนตัวของการทำงาน หลายๆ ท่านอาจจะรู้จักนุ่นจากภาพยนตร์วัยรุ่น เพื่อนสนิท นุ่นรู้สึกว่าถึงเวลาที่นุ่นอยากที่จะพัฒนาด้านของการแสดง วันนึงผู้กำกับพี่ยูก็พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับบท บทท้าทายในเรื่องการแสดงมากจนกระทั่งยอมว่า พี่ยูคะเปลี่ยนได้ทุกอย่าง อยากได้ชอตแบบไหน อยากมีอะไรที่ยากขึ้นขอให้ได้ทำ นุ่นรู้สึกว่าหลายๆ สิ่งที่นุ่นไม่เคยทำในการแสดงก็ทำเต็มที่หมดเลยค่ะ ตอนแรกก็แอบหลอกนิดหนึ่งนะคะว่าไม่ได้เป็นหนังผี บอกว่าเป็นหนังเข้าวัด"
เจมส์ บอกถึงบทบาทของตัวเองว่า "ผมได้รับบทบาทเป็นตัวละครชื่อณัฐครับ เป็นหนุ่มเด็กแนวสมัยใหม่ ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ หนังเรื่องนี้ผมเล่นเป็นบทนำเป็นเรื่องแรก เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นพอสมควร แต่ผมก็พยายามเกินร้อยครับ ผมก็โชคดีที่ได้แสดงกับนักแสดงหลายคนที่มีความสามารถ มีนุ่นที่คอยช่วยส่งอารมณ์มาตลอดเวลา แล้วก็ พี่ต่าย (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) เขาก็มีประสบการณ์เยอะมากในด้านละครในด้านหนัง แล้วก็มี พี่เติ้ง ภราดร (ภราดร ศิรโกวิท) ต้องดูครับ"
สุดท้าย ยู ขอฝากถึงภาพยนตร์เรื่อง 9 วัด ว่า "ใครเป็นแฟนหนังสยองขวัญ เรื่องนี้มีความสยองแน่นอน ใครเป็นแฟนหนังแอ็กชัน แอ็กชันก็มีแน่นอน ใครเป็นแฟนหนังดรามาก็มีแน่นอน เป็นหนังผีที่มีรสชาติใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ แล้วก็มีเนื้อหนังที่จับได้แน่นอนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เกี่ยวกับการเข้าวัด เป็นหนังผีที่มีเรื่องราวมีสาระเนื้อหนังให้จับครับ"
มาถึงฝั่งของภาพยนตร์เรื่อง มาย เบสท์ บอดี้การ์ด กันบ้าง โดย ปุ๊ บอกถึงความโดดเด่นเอาไว้ว่า "เป็นหนังแอ็กชันที่เป็นการรวมตัวระหว่างทางไทยกับทางฮ่องกง พอเราทำหนังแอ็กชันเราก็คาดหวังว่าหนังแอ็กชันจะไปสู้ตลาดนอกได้ยังไงบ้าง ก็เลยมีการร่วมมือกับนักแสดงจากฮ่องกงอย่าง ชอว์น หยู แล้วก็มีผู้กำกับคิวบู๊มา ฝั่งไทยเราก็มีหลายคนอย่าง สงกรานต์ (สงกรานต์ เตชะณรงค์) โอ๋ (หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ) ชาคริต (ชาคริต แย้มนาม) พี่ตุ้ย (ธีรภัทร์ สัจจกุล) เรียกว่าแถวๆ หน้าของเรา เป็นจุดสนใจได้ส่วนหนึ่งของหนังครับ"
สงกรานต์ ก็พูดถึงผลงานการแสดงครั้งแรกของตัวเองว่า "ผมเล่นเป็นมิค เป็นทหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทูลกระหม่อมฯ (ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี) เป็นหนังเรื่องแรกที่ได้เล่นก็รู้สึกตื่นเต้น เพราะว่านักแสดงแต่ละคนก็มืออาชีพทั้งนั้นเลย กดดันพอสมควร กลัวเล่นออกมาแล้วจะทำให้คนอื่นหงุดหงิดรำคาญผม ตื่นเต้นครับ แต่พอดีทีมงานเป็นกันเองและทางทูลกระหม่อมฯ ด้วย ทุกอย่างเลยผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ส่วนมากผมจะบู๊มากกว่า เพราะว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่านก็เลยต้องคอยตามล่าท่าน"
ด้าน โอ๋ ก็เล่าว่า "เรื่องนี้โอ๋เล่นเป็นแคทค่ะ เป็นเลขาของทูลกระหม่อมฯ บุคลิกก็จะทะมัดทะแมงหน่อย ก็จะเล่นคู่กับ พี่บ๊วย (เชษฐวุฒิ วัชรคุณ) ตอนนี้ก็ถ่ายไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ก็ประทับใจหลายๆ ฉาก ที่ประทับใจอันแรกเลยก็คือการได้เข้าฉากกับทูลกระหม่อมฯ ตอนนั้นก็เกร็งมาก แรกๆ ก็ไม่กล้าเรียกท่าน ในบทต้องเรียกว่าเจ๊ ใครจะกล้าพูด วันแรกแข็งเป็นหินเลยค่ะ แต่ทูลกระหม่อมฯ ทรงเป็นกันเองมาก หลังๆ เราก็เล่นได้สบายขึ้นเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตอนนี้ก็ง่ายขึ้นกับการเล่นหนังเรื่องนี้ค่ะ"
ส่วนสาเหตุที่เลือก ชอว์น หยู มาร่วมแสดงด้วยนั้น ผู้กำกับบอกว่า "อันดับแรกผมประทับใจเขาในเรื่องของการแสดง เขาไม่ได้เล่นออกแค่บอดี้อย่างเดียว เขามีอายไลน์ที่ผมว่ามันลึก เขาเล่นนิดเดียวเองแต่ว่าอินเนอร์ของเขามันบอกได้ชัดเจนมาก เราก็คิดว่าจะติดต่อเขาไปได้ยังไง พอดีเราดีลกับ มีเดีย เอเชีย ไว้ แล้วทาง ชอว์น หยู เขาทำงานกับมีเดีย เอเชียหลายเรื่อง ก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายที่จะมาแมตช์กัน"
ชอว์น หยู บอกความรู้สึกถึงการทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างมากเลยที่ผมรับบทหนักในหนังเรื่องนี้ ได้ยินมาว่าเป็นหนังแอ็กชันดรามา รู้สึกยินดีมากๆ เลยที่จะได้มาร่วมแสดงด้วย ซึ่งการที่ผมได้มาร่วมแสดงกับนักแสดงคนไทย ก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีของผมที่จะได้พัฒนาฝีมือ เรื่องนี้เป็นหนังไทยเรื่องแรกของผม แต่ว่าก่อนหน้านี้เคยมาเมืองไทยแล้ว 2-3 ครั้ง ทำให้รู้สึกรักประเทศไทย แล้วก็อยากมาที่เมืองไทยด้วยครับ"
นักแสดงฮ่องกงได้กล่าวถึงการร่วมงานกับ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ว่า "รู้สึกปลื้มทูลกระหม่อมฯ เป็นอย่างมากเลย ได้เห็นถึงการทุ่มเทการทำงานของพระองค์ก็รู้สึกประทับใจมากๆ แล้วก็รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานในหนังเรื่องนี้ ก็จะพยายามทำทุกอย่างในเรื่องนี้ให้ดี"
ส่วนการร่วมงานกับทีมงานและนักแสดงชาวไทย ชอว์น หยู กล่าวว่า "ก็แตกต่าง เพราะว่าปกติก็ถ่ายแต่หนังฮ่องกงอย่างเดียว พอตอนนี้ได้มาถ่ายหนังไทยก็รู้สึกสนุก ได้เห็นความเป็นโปรเฟสชันนอลของคนไทยด้วยครับ" นอกจากนี้ ชอว์น หยู ยังได้เปรียบเทียบการทำงานของไทยและฮ่องกงให้ฟังอีกว่า "ก็เหมือนกันครับ ทุกคนก็ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน ตอนนี้หนังไทยกับหนังฮ่องกงเท่าเทียมกันทั้งความเร็ว(ในการทำงาน) แล้วก็ความเป็นโปรเฟสชันนอล"
ผู้กำกับกล่าวทิ้งท้ายว่า "ฝากหนังเรื่องนี้ นักแสดงไม่ว่าจะเป็น ชอว์น หยู สงกรานต์ พี่ตุ้ย ชาคริต โอ๋ บ๊วย โดยเฉพาะทูลกระหม่อมฯ ตั้งใจเล่นมาก หนังแอ็กชัน ปืน ระเบิด เศษกระจก รถชนมันอันตรายมาก เราก็อยากให้มันสมจริง ผมไม่ค่อยอยากใช้สแตนอิน ก็เลยอยากได้อะไรที่สมจริงสมจัง ก็ขอร้องกับทีมนักแสดงทั้งหลายว่าช่วยเล่นให้หน่อย เขาก็ยินดีและเต็มใจ ผมเชื่อว่างานตัวนี้น่าจะสร้างอะไรบางอย่างให้เห็นได้ชัดมากขึ้นครับ"
ใครที่อยากชมภาพยนตร์ดรามาแอ็กชัน มาย เบสท์ บอดี้การ์ด ว่าจะเทียบมาตรฐานสากลและบู๊ได้มันดุเดือดขนาดไหน ก็คงต้องอดใจรอกันนิด ส่วนภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง 9 วัด มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ 8 เมษายน นี้