กบ-เต้ กลับมาสร้างความครื้นเครงใน อีส้มสมหวัง ชะชะช่า
หลังจากภาพยนตร์ "อีส้ม สมหวัง" เคยสร้างความสนุกเฮฮาให้คนไทยได้ชมกันไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน มาในปีนี้ถึงคราวของ "อีส้มสมหวัง ชะชะช่า" กันบ้าง โดยผู้กำกับในภาคที่แล้วอย่าง "โน้ต เชิญยิ้ม" หรือ "บำเรอ ผ่องอินทรีย์" ผันตัวเป็นโปรดิวเซอร์ และส่งตำแหน่งผู้กำกับภาพยนตร์ให้เป็นหน้าที่ของลูกชาย "โน้ต จูเนียร์" หรือ "จิตต์สิน ผ่องอินทรีย์" โดยได้เปิดตัวพร้อมฉายรอบสื่อมวลชนไปแล้ว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
สำหรับนักแสดงในเรื่องที่มาร่วมงาน ก็ได้นางเอกและพระเอกชุดเดิม "กบ - สุวนันท์ คงยิ่ง" และ "เต้ - ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์" ร่วมด้วยนักแสดงที่จะมาความสนุกเฮฮา อาทิ "แอนนี่ - รุ่งนภา บรู๊ค" "ชมพู่ ก่อนบ่าย" หรือ "ชมพูนุช กลิ่นจำปา" "ค่อม ชวนชื่น" "โซเฟีย ลา" และ "ปลาคาร์ฟ เชิญยิ้ม" เป็นต้น
เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับโปรดิวเซอร์ โน้ต เผยสาเหตุที่ต้องมีภาค 2 ว่า "เราคิดตั้งแต่ทำภาคแรกแล้วว่าอยากจะทำภาค 2 ต่อ แต่มันไปสะดุดตรงที่พอเราจะทำภาค 2 หัวหน้า คือ คุณยอดรัก สลักใจ เสียชีวิต แต่พอคิดว่าเรามีดำริว่าจะทำภาค 2 แล้วเราจะหยุดทำไม ลองมาพลอตเรื่องดู และปรึกษาเรื่องบทภาพยนตร์กับ คุณพิง ลำพระเพลิง ปรึกษากับ คุณแหลม ธวัชชัย (ธวัชชัย พันธุ์ภักดี) ปรึกษากับเจ้าของบริษัท และมาคุยกับ พี่หน่อย ศักดิ์ชัย (ศักดิ์ชัย ศรีบุญนาค) เราก็ทำเรื่องต่อ หลังจากที่ยอดรักเสียชีวิตแล้ว ทุกคนก็วง ยอดรัก สลักใจ แตก แล้วก็มีเรื่องราวขึ้นมา ใครที่ไม่ได้ดูภาคแรก จะดูภาคนี้ก็เข้าใจ"
ส่วนเหตุผลที่ให้ลูกชายมากำกับเรื่องนี้ โน้ต บอกว่า "เพราะเค้าเรียนมา และด้วยความที่เป็นพ่อเป็นลูกกัน เราก็เห็นพัฒนาการ และตั้งแต่เล็กเลย ไปไหนไปกับผมตลอด เห็นเองด้วยประสบการณ์ของเค้า หนังเรื่องนี้ ทั้งมุก การกำกับหรือการร้อยเรื่อง นอกจากคุณพิงเขียนบทแล้ว เป็นการตัดสินใจของเค้าหมด" ฟาก พิง ก็พูดถึงผู้กำกับว่า "ผมในฐานะคนเขียนบท บอกตรงๆ เลยว่า ผู้กำกับ กำกับได้ดีกว่าบทครับ หนังสนุกกว่าบทครับ ยืนยันครับ"
โน้ต จูเนียร์ เล่าว่า "ตอนแรกก็ยอมรับว่าลำบากใจนิดหน่อย เพราะว่ามันเป็นภาคต่อ มาทำต่อจากที่ป๋าทำเอาไว้ด้วย แต่สำหรับคนเป็นผู้กำกับ ถ้ามีบทที่ดี มีทีมงานที่ดี และมีนักแสดงที่ดี มี 3 อย่างนี้ จะทำให้การทำงานง่าย พอปรึกษากับพี่หน่อย เราได้ทีมงานมาแล้ว ได้นักแสดงมาแล้ว มีบทที่ดีแล้ว ความยากในความรู้สึกตอนแรกมันเลยหายไป การทำงานเกิดความสนุก คือทุกอย่างมันพร้อมหมดแล้ว ทำให้ผมทำงานได้อย่างเต็มที่และได้อย่างที่ใจคิดด้วย"
ส่วนความแตกต่างของภาคแรกและภาค 2 ผู้กำกับไฟแรงบอกว่า "เรื่องของตัวละครแต่ละตัว เพราะมันเป็นการต่อเนื่อง จริงๆ เรื่องนี้ พอหลังจาก ลุงแอ๊ว (ยอดรัก สลักใจ) เสียชีวิต มันเป็นเรื่องของคู่ของ อีส้ม กับ สมหวัง ครับ พอวงแตกปุ๊บ เค้าก็มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พัฒนาการของตัวละครก็เป็นความยากลำบากของตัวละคร จนค่อยๆ ไปถึงความสำเร็จ และมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละครแต่ละตัว ซึ่งเรื่องบท ต้องชมพี่พิงเลยว่าเขียนมาแล้วผมทำงานง่ายมาก"
สำหรับการคัดเลือกเพลงในภาพยนตร์ชุดนี้ โน้ต บอกว่า "จริงๆ เราเลือกเพลงขึ้นมาก่อน เป็นตัวตั้งก่อนว่าเราจะพลอตเรื่องให้เข้ากับเพลงนั้นอย่างไร แต่จะบอกว่าเป็นหนังเพลงเลยก็ไม่ใช่ แต่เพลงเป็นตัวต้นเรื่อง บางฉากไม่ใช่ว่าจะมีแค่ร้องเพลงกัน บางเพลงจะเป็นตัวเล่าเรื่องว่าตัวละครวิวัฒนาการไปตรงไหน เอาเพลงเป็นตัวบอกอารมณ์ และครั้งนี้ต้องกราบขอบพระคุณทาง แกรมมี่ โกลด์ ที่ให้ความกรุณาอนุเคราะห์เพลงทุกเพลง นอกจากเป็นเพลงเก่าของ ไมค์ (ไมค์ ภิรมย์พร) ของ ก๊อท (จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ) แล้ว ก็ยังมีเพลงที่ ครูสลา (สลา คุณวุฒิ) แต่งขึ้นใหม่ ดูแลการบันทึกเสียง ดูแลศิลปิน ส่งศิลปินมาดูแลให้เรา ไม่ว่าจะเป็น ไผ่ (ไผ่ พงศธร) ตั๊กแตน (ตั๊กแตน ชลดา) รัชนก ศรีโลพันธุ์ ขอบคุณจากใจเลยครับ"
ฟาก กบ เล่าถึงบทบาทในเรื่องว่า "สำหรับภาค 2 บทบาทโตขึ้น ภาคแรก อีส้ม กับ สมหวัง เป็นแฟนกันอยู่ แต่ภาคนี้แต่งงานกันแล้ว เป็นช่วงอายุที่โตขึ้น วุฒิภาวะต่างๆ โตขึ้น นึกถึงการมีครอบครัว ในภาคแรกจะสนุกๆ เป็นตลกเฮฮา มีเต้นซะส่วนใหญ่ แต่ภาคนี้จะเป็นชีวิตมากขึ้น สำหรับคู่ของเราสองคน"
กบ ยังได้เล่าถึงการร่วมงานกับผู้กำกับด้วยว่า "ในภาคแรก เราได้ทำงานร่วมกันมาแล้วในฐานะของนักแสดง ส่วนในภาคนี้ ได้เห็นความสามารถของเค้าจริงๆ ในด้านการกำกับ ต้องยอมรับว่าเค้ามีฝีมือด้านการวางภาพ ด้านการกำกับแสดง ส่วนมุกต่างๆ เค้าจะให้คุณพ่อช่วยเสริม เค้าเป็นผู้กำกับที่น่ารักมาก ไม่ใช้คำสั่งอย่างเดียว จะถามความคิดเห็น คุยกันว่าได้มากน้อยแค่ไหน"
ส่วนพระเอกของเรื่อง เต้ พูดถึงฉากที่ประทับใจว่า "ต้องบอกก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องอีส้มสมหวัง ชะชะช่า ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมสามารถเล่นทุกๆ บทได้ในเรื่องเดียว ทั้งสุข เศร้า เหงา กะล่อน เพราะฉะนั้นฉากประทับก็เลยมีเยอะมาก แต่อยากจะฝากไว้ให้ดู มันจะมีสัญลักษณ์บางอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ระหว่าง อีส้ม กับ สมหวัง ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่ผมประทับใจมาก อยากฝากให้ติดตามชมกันครับ"
เต้ ยังทิ้งท้ายฝากผลงานเรื่องนี้ว่า "สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ขอฝากด้วยนะครับ เรื่องนี้เข้าฉายวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม ถ้าอยากให้คุณแม่มีความสุข ให้อะไรดีๆ กับคุณแม่ เป็นของขวัญสำหรับคุณแม่ ก็ชวนคุณแม่และครอบครัวมาดู อีส้มสมหวัง ชะชะช่ากัน เพราะผมเชื่อว่าจะมีความสุขและรอยยิ้ม ฝากไว้ด้วยครับ"
ส่วน กบ ที่มีสามี "บรู๊ค - ดนุพร ปุณณกันต์" และคุณแม่ "ดาริกา ปุณณกันต์" มาให้กำลังใจด้วย ก็กล่าวฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ว่า "อยากจะฝากผลงานเรื่องนี้ไว้ เพราะว่าเป็นหนังของคนในวงการบันเทิง ของลูกหลานคนในวงการบันเทิง พวกเราตั้งใจทำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาและอยากให้ช่วยสนับสนุนหนังไทย ช่วยสนับสนุน อีส้มสมหวัง ชะชะช่า ด้วยค่ะ"
ไปพบกับเรื่องราวที่เติบโตขึ้นของ อีส้ม และ สมหวัง กับ อีส้มสมหวัง ชะชะช่า กันได้ในโรงภาพยนตร์ เข้าฉายแล้วตั้งแต่วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2552