ตีแผ่เรื่องจริง สามชุก ภาพยนตร์สะท้อนปัญหายาเสพติด
"สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง)" เป็นภาพยนตร์ที่ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีก่อน ภายในโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี กับเรื่องของอาจารย์ที่ต่อสู้เพื่อให้เด็กนักเรียน 7 คนที่หลงผิดไปติดยาเสพติด สามารถปรับตัวและกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ปกติ ซึ่งผู้กำกับ "ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล" หยิบมานำเสนอเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนรุ่นหลัง และเพื่อให้เกิดความสมจริงผู้กำกับเลือกที่ใช้สถานที่จริงในการถ่ายทั้งหมด รวมถึงคัดนักแสดงหน้าใหม่ที่เป็นคนสุพรรณบุรีมาร่วมแสดง โดยเปิดรอบปฐมทัศน์ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ อินฟินิซิตี้ ฮอลล์ สยามพารากอน
เปิดงานต้อนรับแขกผู้มีเกียรติด้วยการแสดงชุด "ระบำถวายมาลัย" จากนักเรียนโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม โดยมี "ธีระ สลักเพชร" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม "เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม "เกรียงศักดิ์ เขาแก้ว" ผู้อำนวยการโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม และที่ขาดไม่ได้กับบุคคลสำคัญ "พินิจ พุทธิวาส" อาจารย์ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ มาร่วมพูดคุยและกล่าวแสดงความยินดีในงานเปิดตัวภาพยนตร์ ต่อด้วยเพลงประกอบภาพยนตร์ "กอดฉันไว้" ที่ร้องโดยวง "พาราด็อกซ์" (Paradox)
จากนั้นมาพูดคุยกับผู้กำกับและนักแสดงอย่าง "ปราย - ปรเมศร์ น้อยอ่ำ" "ตุ๊ก - วิมลเรขา ศิริชัยราวรรณ" "เล็ก - ธนาภา ชีพนุรัตน์" ร่วมด้วยนักแสดงหน้าใหม่ที่คัดจากคนในพื้นที่จริงๆ อย่าง "หมู - ธีรภัทร์ แย้มศรี" "วรรณ - จารุวรรณ สมตัว" "ณัฐ - ณัฐชนน ศุภลักษณ์" "ทราย - สิริกานดา บุญธรรม" "อำนาจ บัวปรอด" "ปานไพลิน เนตรเพชร" "พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ" "พงศธร ศรีบุญเพ็ง" "ศุภณัฐ มีสมศักดิ์" และ "นวพล เจริญธรรมรักษา"
ผู้กำกับเล่าถึงเรื่องราวที่อยากจะนำเสนอในภาพยนตร์ว่า "หนัง สามชุก พูดถึงเรื่องการให้โอกาสสำหรับใครที่หลงผิดไปติดยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า จริงๆ แล้วผมอยากจะบอกว่ายาเสพติดอย่าได้ลองเลย เพราะว่าเวลาคุณลองแล้วคุณติดไปแล้ว การขอโอกาสจากคนอื่นเพื่อให้โอกาสคุณได้กลับเข้ามาสู่เส้นทางชีวิตเดิมๆ ชีวิตที่ไม่ได้ผิดพลาดมันยากมากนะครับ โอกาสในสังคมไทยหายากมาก"
ส่วนความยากในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ปื๊ด บอกว่า "จริงๆ แล้วกว่าจะมีนายทุนสักคนนึงกล้าหาญสร้างหนังที่ไม่ตามใจตลาดเลยมันยากมาก จำได้ว่าตั้งแต่ เสียดาย มาก็ร่วม 15 ปีแล้ว พอเขากล้าเราก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าจะต้องทำหนังที่มีสาระหนังดีๆ เราจำเป็นต้องทุ่มเทมากๆ ความกล้าหาญอย่างนึงของทีมงานเราก็คือกล้าจะใช้นักแสดงในท้องถิ่นเลย เราต้องการอะไรที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด เพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอำเภอเล็กๆ อำเภอนึงชื่อ สามชุก
ซึ่งจริงๆ แล้วตอนที่เราเลือกเป็นชื่อเรื่อง สามชุก เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ เราอาจจะมีสามชุกเป็นอีกร้อยๆ เป็นชุมชนที่มีเยาวชนของชาติหลงผิดไปติดยา เราอยากให้ดู สามชุก เป็นอุทาหรณ์ ความยากอีกอย่างก็คือเด็กยังไม่เคยเล่นหนังเลย แต่ทีมงานเราโชคดีมากที่ไปเจอเด็กๆ เหล่านี้ เขาอาจจะบอร์นทูบีเพื่อมาเล่น สามชุก ผมยังไม่กล้าที่จะพูดว่าเขาจะเป็นนักแสดงหรือเล่นเรื่องอื่นได้ไหม แต่ว่าน้องๆ เขาน่ารักมากนะครับ"
ด้าน ปราย ก็ยอมรับว่ายากที่ต้องมาสวมบทเป็น อาจารย์พินิจ "ถ้าถามเรื่องการแสดงทั่วไปก็ยากนะครับ เพราะต้องมารับบทของชีวิตคนแล้วเป็นเรื่องราวจริงๆ ที่เกิดขึ้น ต้องเล่นใกล้เคียงเป็นอะไรที่ยาก แต่ก่อนถ่ายทำก็มีโอกาสได้คุยกับอาจารย์พินิจ เราก็เลยเข้าใจมากขึ้น" ส่วนความรู้สึกที่ได้รับบทครูผู้เสียสละ ปราย บอกว่า "ทีแรกเลยก็รู้สึกว่าเป็นภาระที่หนักอึ้งมาก ที่ต้องไปรับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวเรื่องนี้ ความรู้สึกที่สองก็คือภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้"
ปื๊ด เห็นว่า ตุ๊ก น่าจะเหมาะสมกับบท อาจารย์สมฤดี ซึ่ง ตุ๊ก เล่าว่า "ในโรงเรียนจะมีครูที่ให้โอกาสเด็กกับครูที่ไม่ได้ให้โอกาสเด็กเท่าไร มีภาคธรรมะกับภาคอธรรม ครูบางท่านก็มีปัญหาชีวิตส่วนตัวของท่านอยู่แล้ว พอเด็กมีปัญหาเขาก็ไม่เปิดรับที่จะแก้ปัญหาให้เด็ก แต่ก็มีแค่ 2 คนที่เป็นครูในโรงเรียนที่จะให้โอกาสเด็กๆ ช่วยเขา ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าทำไมทาง พี่ปื๊ด ธนิตย์ ถึงเลือกให้มารับบทนี้ พี่ปื๊ดเขาบอกว่าดูจากรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง มีอยู่ครั้งนึงที่เราเคยได้เข้าไปช่วยประกันตัวเด็กที่เขาติดยาเสพติดที่จังหวัดอยุธยา เขาดูแล้วคิดว่าเราน่าจะรับบทนี้ได้ เล่นได้สบายๆ เลยเป็นตัวของเราเอง ไม่หนักใจมากค่ะ"
ส่วน เล็ก คุณแม่ของนางเอกสาว "ตั๊ก - บงกช คงมาลัย" ที่ต้องมารับเป็นแม่พระเอกในเรื่อง ก็บอกว่า "ก็เล่นยาก พอดีคนรู้จักเขาติดต่อแม่มาให้แม่มาเล่นเป็นแม่พระเอก แต่เล่นเป็นคนจนนะ เล่นเป็นชาวนาด้วย ต้องทาตัวให้ดำเป็นชาวไร่ชาวนา ในเรื่องอย่าคิดว่าเป็นแม่เลยคิดว่าเป็นคนอื่นแล้วกัน"
หมู บอกถึงข้อคิดดีๆ ที่ได้จากภาพยนตร์ว่า "หนังเรื่องนี้คือการให้โอกาสของคนในสังคมไทยครับ ถ้าเกิดคุณได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะให้ประโยชน์กับตัวคุณเองและคนที่คุณรักมากๆ ครับ ในชีวิตประจำวันของคุณ คุณไปส่งลูกตอนเช้า ลูกคุณไปกับกลุ่มเพื่อนจะไปทำอะไรที่ไหน คุณจะไม่มีสิทธิ์รู้ได้เลย หนังเรื่องนี้ทำให้คุณมองได้กว้างขึ้น แล้วคุณจะมองลูกของคุณได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ"
ส่วน วรรณ กล่าวฝากภาพยนตร์ว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทุกคนแสดงด้วย หนังเรื่องนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง วรรณก็อยากจะขอโอกาสสักครั้งนึงให้มาดูหนังเรื่องนี้กัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังที่ให้โอกาส อย่ามองว่าเป็นหนังที่เกี่ยวกับยาเสพติดไม่ควรพาลูกมาดู มาดูเถอะค่ะแล้วจะรู้ถึงโทษภัยของมัน แล้วจะรู้การลองอะไรอย่างนี้ไม่ดีกับเราค่ะ"
ด้านผู้กำกับก็ฝากทิ้งท้ายว่า "สามชุก เป็นหนังดรามาเข้มข้นซึ่งปกติคนไทยจะไม่ค่อยชอบ ส่วนใหญ่จะชอบหนังบันเทิงกัน แต่ว่าถ้าอยากจะดูอะไรที่มีข้อคิดให้ตระหนักถึงการใช้ชีวิตที่รอเราอยู่อีก 40-50 ปีข้างหน้า การเลือกเส้นทางเดินก็สำคัญ สามชุก จะบอกเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงนักก็ดูกันนะครับ แต่หนังเราจะซีเรียสนิดนึง แต่คุ้มค่าเงินครับ"
ติดตามชมภาพยนตร์สะท้อนปัญหาวัยรุ่นและยาเสพติดเรื่อง สามชุก (ขอเพียงโอกาสอีกสักครั้ง) ที่ถูกเลือกให้เป็นภาพยนตร์ต่อต้านยาเสพติดประจำปี พ.ศ. 2552 และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสชม จะเข้าฉายพร้อมกันในโรงภาพยนตร์ 5 สิงหาคม นี้