ฮายกระดับแบบผู้ดีไปกับตระกูลชนชั้นสูงใน วงษ์คำเหลา
"เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" หรือ "หม่ำ จ๊กมก" เคยสร้างภาพยนตร์ระดับรากหญ้าจนประสบความสำเร็จมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง "แหยมยโสธร" จนได้ฉายาว่าเป็นผู้กำกับร้อยล้าน พอจะสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ก็ขอฉีกแนวตีแผ่เรื่องราวของชนชั้นระดับมหาเศรษฐีซะเลย โดยนักแสดงตลกและผู้กำกับที่ในชีวิตจริงก็เข้าขั้นเป็นมหาเศรษฐีกัน ทั้งเขียนบท แสดง และกำกับเอง แถมยังเอานามสกุลของตัวเองมาตั้งเป็นชื่อเรื่องอีกด้วยกับภาพยนตร์เรื่อง "วงษ์คำเหลา"
วงษ์คำเหลา ได้ฤกษ์เปิดตัวท่ามกลางความฮาของเหล่านักแสดง ไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา บริเวณโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งก็มีนักแสดงมาร่วมพูดคุยสร้างสีสันก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์ อย่าง "แดง - ฉันทนา กิติยพันธ์" "ฮาย - อาภาพร นครสวรรค์" "ตุ๊กกี้ - สุดารัตน์ บุตรพรม" "แจ้ง - อนุวัฒน์ ทาระพันธ์" "เหลิม - เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง" "สุพัฒน์ ศรีนวล" และ "เดฟ ดวงดี" แถมเรื่องนี้ หม่ำ ยังได้ประกบคู่กับนางเอกสาวสวยอย่าง "จั๊กจั่น - อคัมย์ศิริ สุวรรณศุข" อีกด้วย
หม่ำ บอกหลักในการคัดเลือกนักแสดงมาเป็นครอบครัว วงษ์คำเหลา ว่า "ก่อนอื่นเราต้องคิดเรื่องคาแรกเตอร์ของภาพยนตร์ทำให้เป็นบทภาพยนตร์ซะก่อน ก็นึกไปทีละหน่อยทีละหน่อย พอคิดเสร็จแล้วเราค่อยคิดว่าคนนี้ใช่ ผมขอบอกว่าคาแรกเตอร์ของเขาแต่ละคนชัดเจนและเหมาะมาก ที่ผมได้เลือกมาไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย ผมคัดหน้าตาที่เป็นไฮโซเท่านั้น ตุ๊กกี้ผมคิดแล้วว่าใช่เป็นไฮโซสุดแล้ว อาภาพร แม่แดง คุณแวว (เทียมใจ วงษ์คำเหลา) และผมใช่แล้ว อย่างจั๊กจั่นปกติก็ดูละครเขาอยู่แล้ว ผมก็เลยบอกว่าจั๊กจั่นเหมาะ สวยซื่อๆ ใสๆ ห้าวๆ มีความเชื่อมั่นตัวเอง คนนี้แหละ จั๊กจั่นไม่ต้องแคสต์ได้เลย พอเอามาเล่นแล้วแจ่มเลย ไม่ผิดไม่พลาดเลย"
ส่วนที่มาชื่อของเรื่อง หม่ำ เผยมาว่า "ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะตั้งเป็นชื่อหนังเรื่องนี้นะ จะตั้งชื่อเป็นเรื่อง ท่านชายเพชราวุธ แต่มานั่งนึกดูแล้วผมว่ามันไม่ครอบคลุม ดูไม่เหมือนครอบครัวของผม ก็เลยขอใช้คำว่า วงษ์คำเหลา นี่แหละ แล้วใจกล้ามากเลยนะเอานามสกุลตัวเองมาตั้งชื่อหนัง เป็นหนังไฮโซเรื่องแรกของผมที่คิดว่าน่าจะถูกใจแฟนๆ ของผมนะครับ"
ด้าน จั๊กจั่น ก็ยอมรับว่ายากกว่าจะตัดสินใจมาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ "ยากมากเลยค่ะ คิดแล้วคิดอีก เพราะบอกว่าต้องประชันกับพี่ตุ๊กกี้ พี่ฮาย และแม่แดงด้วย" ส่วนเรื่องการแต่งตัวในเรื่องก็ไม่ธรรมดา โดย แดง บอกถึงการแต่งตัวในเรื่องว่า "สำหรับคุณหญิงแม่นะคะชุดต้องผูกโบว์ตลอด ต้องแต่งตัวเนี้ยบมาก แล้วทุกอย่างในบ้านต้องเนี้ยบมาก" ตุ๊กกี้ ก็ช่วยเสริมเรื่องเสื้อผ้าว่า "หญิงนุชเป็นคนไฮโซค่ะ เสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องฟูฟ่อง มีทุกลายเหมือนกับสวนสัตว์เดินได้ เวลาแต่งหน้าก็ต้องมาคนแรกเพราะใส่ชุดลายอะไรก็ต้องแต่งหน้าตามโทนสีของเสื้อผ้า"
เรื่องภาษาแต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่ง ฮาย บอกว่าขนาดต้องด่าก็ต้องเป็นแบบผู้ดี "เพราะว่าเราเป็นตระกูลผู้ดี จะด่าอะไรก็ต้องเป็นผู้ดี ถ้าด่าเรื่องรถก็ต้องด่าเป็นเรื่องรถเลย อย่างไอ้ท่อไอเสียแตก ไอ้น้ำมันเครื่องบูด ประมาณนี้ค่ะ" ส่วน ตุ๊กกี้ บอกว่า "ด้วยคาแรกเตอร์ที่จบมาจากเมืองนอก แต่งตัวฟู่ฟ่าเวลาพูดก็ต้องติดตัวอาร์ ต้องมีตัวอาร์เข้าไปผสมด้วย ปกติเป็นคนที่ชอบพูดตัวอาร์ อยู่ที่ชิงร้อย (รายการชิงร้อยชิงล้าน) ก็พูดค่ะ พี่หม่ำน่าเห็นตรงที่ชอบพูดตัวอาร์ก็เอาไปหยิบยื่นในภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ" ด้าน แจ้ง ที่ในเรื่องต้องชอบ สายัณห์ สัญญา มากก็เลยขอยืมสำเนียงในการออกเสียงมาใช้ในภาพยนตร์
ด้าน เหลิม ก็บอกว่าเรื่องนี้ จั๊กจั่น แอบโหดทำเอาตัวเองถึงกับนอนไม่ได้ไป 3 วัน ซึ่ง จั๊กจั่น ก็ชี้แจงว่า "จะว่าไปก็แอบบู๊นิดๆ นะ ก็แอบสงสารเขา เพราะว่าเขาต้องเป็นที่รองรับอารมณ์เราตลอดเวลา เป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้เขา สมมติเวลาเขาพูดติดๆ ขัดๆ ก็จะโดนเบิร์ดกระโหลก ตอนที่ถ่ายพี่เหลิมเขาก็ไม่ไหวนะ เขาปวดหัวจริงๆ"
เมื่อถามถึงความพอใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้ หม่ำ บอกว่า "ก็โอเคครับ ผมรู้สึกว่าพอได้ทำหนังรากหญ้าอย่าง แหยม ไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ก็เลยเกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นภาพยนตร์ตระกูลไฮโซ เราก็ได้นำเรื่องของความรู้สึกของคนที่ร่ำรวย อยากให้รู้จักเอื้อเฟื้อกับคนรอบข้าง รู้จักรักกับคนที่เขามาอยู่ร่วมกับเรา อย่างพิรมนเขาเป็นคนนอกก็จริง แต่ว่าทำไมคนรวยอย่างเรา คุณแม่และน้องเราไม่ให้เกียรติเขา จริงๆ เขาก็เป็นคนเหมือนกัน ถึงแม้ในเรื่องเขาจะไม่มีตังก็ต้องให้เกียรติเขา เขาเป็นคนจนๆ แต่เขาก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ"
ผู้กำกับร้อยล้านกล่าวฝากทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "วันที่ 1 กรกฎา ฉายแล้วนะครับ ระเบิดความฮาทุกพื้นที่ทั่วไทย ฮาทุกกระเบียดนิ้ว ฮาไม่เกรงใจใคร ฮาไม่บันยะบันยัง" ด้าน จั๊กจั่น ก็ขอฝากว่า "เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของจั่น ก็อยากฝากให้ทุกๆ คนเป็นกำลังใจและช่วยติดตามด้วย เพราะว่าเป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ร่วมงานกับพี่หม่ำแบบเต็มที่ อยากจะบอกว่าสนุกมาก ถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ"
เตรียมตัวไปหรรษากับครอบครัวมหาเศรษฐี วงษ์คำเหลา พร้อมๆ กันในโรงภาพยนตร์ เข้าฉายแล้วตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา