รวมตัวความคิดถึงให้ครื้นเครงใน อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากหยิบภาพยนตร์ "บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู" มาสร้างภาคต่อเป็นภาค 9 จนประสบความสำเร็จมาแล้ว ผู้กำกับฝีมือเก๋า "บัณฑิต ฤทธิ์ถกล" ก็ขอปัดฝุ่นหยิบเค้าโครงเรื่องจากภาพยนตร์เรื่อง "อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป" มาสร้างใหม่อีกครั้ง โดยให้ชื่อภาคใหม่ว่า "อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง" ซึ่งทำการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณโรงภาพยนตร์ พารากอน ซีนีเพล็กซ์
เริ่มรำลึกความคิดถึงโดย "เกียรติ - สมเกียรติ คุณานิธิพงษ์" พิธีกรของงาน พาไปพูดคุยกับนักแสดงรุ่นพี่จากภาพยนตร์เรื่อง อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่นที่ 1 อาทิ "ต่าย - สายธาร นิยมการณ์" "สายฟ้า เศรษฐบุตร" "ต๊ะ - ฌานิศ ใหญ่เสมอ" "บอย - พีระพล จันทรากาศ" "ไนท์ - รัฐพล จุลเปมะ" และ "ตู่ - จารุศิริ ภูวนัย" ที่มาร่วมย้อนวันวานถึงบทบาทที่เคยแสดงไว้ในภาพยนตร์
แล้วมาร่วมพูดคุยถึงบทบาทกับนักแสดงรุ่นปัจจุบันกันบ้าง เริ่มจากนักเรียนสายศิลป์ที่ประกอบไปด้วย "อาร์ตี้ - ธนฉัตร ตุลยฉัตร" "บอย - ธวัชชัย เพ็ญภักดี" "นะโม ทองกำเหนิด" "ข้าวฟ่าง - สมประสงค์ ศรีบัว" "เบลล์ - นาตาชา เบลค" "อาร์ม - วุฒิกานต์ เต็งวงษ์วัฒนะ" และ "ไมค์ - ประจัญพล วงษ์ดนตรี" แล้วต่อด้วยนักเรียนสายวิทย์ ประกอบด้วย "ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ" "จีน - เกล้าแก้ว สินเทพดล" "น้ำ - ธิบดินทร์ สันทัดค้า" "นาว - นิจชิตา จารุวัฒน์" "วิน - วิกรม สิทธิพลากุล" "ปราง - กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล" "ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์" และ "เทป - พิเชษฐ์ ประดับชนานุรัตน์"
จากนั้นก็ให้นักแสดงแสดงความคิดเห็นว่าระหว่างสายวิทย์กับสายศิลป์สายไหนที่น่าเรียนกว่ากัน โดย ข้าวฟ่าง ที่ในชีวิตจริงเรียนสายวิทย์แต่ในเรื่องต้องเป็นเด็กสายศิลป์ บอกว่า "จริงๆ แล้วเรียนสายวิทย์ แต่พอมาลองใช้ชีวิตในหนังแล้ว ศิลป์ดีกว่าครับ" ส่วนเด็กสายศิลป์อย่าง เบลล์ ก็พูดว่า "ศิลป์สนุกกว่าค่ะ"
ด้านเด็กศิลป์ที่ต้องมารับบทเป็นเด็กสายวิทย์อย่าง ก้อย บอกว่า "ก้อยเรียนสายศิลป์-ฝรั่งเศส เพราะว่าตั้งใจจะเข้านิเทศ ไม่ชอบเรียนเลข ไม่ชอบฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ไม่ชอบอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์เลย ก็เลยเรียนศิลป์ภาษาดีกว่า ในเรื่องเด็กสายศิลป์กับสายวิทย์คาแรกเตอร์ก็จะไม่เหมือนกัน เราเรียนสายศิลป์มาพอไปเล่นเป็นเด็กสายวิทย์ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์ คาแรกเตอร์ก็จะเป็นเด็กสายวิทย์ ในกลุ่มน้องๆ ก็จะสนิทกันเหมือนเราเป็นพี่ใหญ่ต้องคอยดูแลน้องๆ"
จากนั้นก็มาพูดคุยกับ ผู้กำกับ ที่บอกที่มาว่าทำไมต้องเป็น อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง "ไม่ได้ทำมานานแล้วครับ อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 สร้างค่อนข้างใกล้กันไม่กี่ปี แต่ทิ้งระยะไปนานถึง 10 กว่าปีถึงมาเป็นรุ่นที่ 3 ก็เลยรู้สึกว่าคิดถึงมากๆ เลยตั้งชื่อว่าเป็น อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง ให้ความรู้สึกย้อนกลับไปหาโรงเรียนเก่า คือ อนึ่งฯ ทุกภาคเป็นเรื่องคนละเรื่องคนละโรงเรียน ตัวละครคนละตัวละคร แต่มีสิ่งที่เหมือนกันอย่างนึง ก็คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกลับไปโรงเรียนเก่า เจอเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนมัธยม"
บัณฑิต เล่าถึงความแตกต่างของ อนึ่งฯ รุ่นที่ 3 ว่า "แตกต่างเพราะว่าตัวละครก็ได้มาใหม่ด้วย เนื้อหาเรื่องราวก็คนละเรื่องกัน เป็นเรื่องปัจจุบันเป็นความสนุกสนานร่าเริงของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเราก็เปิดโอกาสให้นักแสดงเขาเล่นด้วยตัวเขาเองได้เต็มที่ ทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวดี เพราะฉะนั้นคนดูเขาก็จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวา ความร่าเริงของคนที่เล่นดูเหมือนเป็นนักเรียนจริงๆ"
ผู้กำกับฝากทิ้งท้ายว่า "ผมหวังว่าหนังเรื่อง อนึ่งฯ คงจะสามารถทำให้ท่านคิดถึงเพื่อนเก่าๆ สมัยเรียนมัธยม คิดถึงโรงเรียนเก่าซึ่งจากมาแล้วไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนนานแล้ว ผมมีความเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความรู้สึกอย่างเดียวกันเกี่ยวกับโรงเรียนเก่า เพื่อนเก่าของเรา เพราะฉะนั้นหนังเรื่องนี้น่าจะชดเชยและทำให้รู้สึกอิ่มในใจได้ครับ"
ด้าน ก้อย กล่าวว่า "หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ภาคต่อของ อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป แต่ว่ามีกลิ่นอายของเรื่องราวความเป็นเพื่อน มิตรภาพ ซึ่งทุกคนเคยมีประสบการณ์ ความทรงจำในวัยเด็ก เคยมีเพื่อน เคยมีวีรกรรมที่โรงเรียน อยากให้ทุกคนกลับมาดูแล้วมาย้อนรำลึกถึงวัยนั้นกัน ก้อยเชื่อว่าดูได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ใช่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดียว"
ปิดท้ายที่ อาร์ตี้ พูดว่า "ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังของอาบัณฑิตก็น่าดูทุกเรื่องอยู่แล้ว แล้วยิ่งเป็น อนึ่งฯ ที่อาเคยทำมาแล้ว แล้วภาคนี้ก็กลับมาอีกครั้งนึง ใครที่ไปดูจะย้อนรำลึกว่าช่วงวัยนั้นเราทำอะไรบ้าง อาจจะเคยเหล่หญิง เคยนั่งโต๊ะตรงนี้ เคยเล่นกีตาร์ ทุกสิ่งทุกอย่างจะรวมอยู่ในเรื่องนี้"
มาคิดถึงเพื่อนเก่าๆ ภาพบรรยากาศเก่าๆ กับวีรกรรมของเด็กสายวิทย์และสายศิลป์ ได้ใน อนึ่ง คิดถึงเป็นอย่างยิ่ง 12 มีนาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์