ผู้กำกับมือใหม่ ดรูว์ ชนะใจเหล่านักแสดงจาก Whip It!
สั่งสมประสบการณ์การแสดงมาตั้งแต่อายุ 11 เดือน พอมาถึงปี 1995 "ดรูว์ แบร์รีมอร์" (Drew Barrymore) ในวัย 20 ปี ก็มีชั่วโมงบินมากพอที่จะตั้งบริษัทสร้างภาพยนตร์ ฟลาวเวอร์ ฟิล์มส์ และได้ลองบทบาทใหม่อย่างการเป็นผู้อำนวยการสร้าง ปัจจุบัน ดรูว์ อายุ 33 ปี เธอตัดสินใจก้าวไปนั่งเก้าอี้ผู้กำกับ ในการสร้างภาพยนตร์ชีวิตผสมตลก "Whip It!"
"ชอนา ครอสส์" (Shauna Cross) เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จาก "Derby Girl" นิยายของเธอเอง มีเนื้อหาเกี่ยวกับ บลิสส์ คาเวนดาร์ เด็กสาวที่หนีออกจากบ้านมาร่วมทีมโรลเลอร์เดอร์บี ซึ่งเป็นกีฬาที่ดัดแปลงมาจากสเกตบอร์ด แทนที่จะไปประกวดนางงามตามที่คุณแม่ของเธอต้องการ ผู้ที่จะมารับบทนำนี้คือ "เอลเลน เพจ" (Ellen Page) นักแสดงที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ "Juno"
ผู้ร่วมแสดงคนอื่นๆ อาทิ นักร้องแร็ป "อีฟ" (Eve) ในบท โรซา สปาร์กส์ เพื่อนร่วมทีมของ บลิสส์ "จูเลียตต์ ลิวอิส" (Juliette Lewis) รับบท ไอออน มาเวน ดาวเด่นจากทีมคู่แข่ง "คริสเทน วิกก์" (Kristen Wigg) รับบท มาลิซ อิน วันเดอร์แลนด์ ที่ปรึกษาของ บลิสส์ "โซอี เบล" (Zoe Bell) รับบท บลัดดี ฮอลลี เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นนักโรลเลอร์เดอร์บี และผู้กำกับ ดรูว์ ได้ร่วมแสดงเป็นเพื่อนร่วมทีมของ บลิสส์ ด้วย
อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินฝีมือการกำกับของ ดรูว์ แต่เรื่องการเอาชนะใจผู้ร่วมงานนั้น เธอทำคะแนนผ่านฉลุยไปแล้ว อีฟ เล่าถึงวิธีที่ผู้กำกับมือใหม่ปฏิบัติต่อเหล่านักแสดงว่า "เธอเป็นฮิปปี้ตัวจริงยิ่งกว่าใครๆ ที่ฉันเคยพบมา เธอกอดและจูบฉันมากกว่าที่ครอบครัวของฉันทำเสียอีก แม้กระทั่งตอนที่เราตัวฟกช้ำดำเขียวไปหมด ดรูว์ ก็ยังเข้ามากอดและให้กำลังใจเรา"
ส่วน "มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน" (Marcia Gay Harden) ผู้รับบทแม่ของ บลิสส์ เผยว่า ดรูว์ เป็นคนที่เป็นธรรมชาติมากเมื่ออยู่หลังกล้อง แม้จะมีภาพที่ชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ก็ยังเปิดใจรับฟังคำแนะนำ โดย มาร์เซีย ยกตัวอย่างถึง "ยูเลลา ชีล" (Eulala Scheel) ลูกสาววัย 10 ปีของตัวเอง ซึ่งรับบทน้องสาวของ บลิสส์ ว่า "ตอนอยู่ในร้านทำผม ยูเลลาอยากให้มีเครื่องเป่าผมครอบหัวเธอขณะที่เธออ่านหนังสือ แล้ว ดรูว์ ก็บอกว่าโอเค ฉันว่ามันน่ารักดี"
นอกจากนี้ ดรูว์ ยังเป็นผู้กำกับที่เตรียมตัวก่อนเริ่มงานมาเป็นอย่างดี "เธอใส่รูปภาพลงไปในบทภาพยนตร์ด้วย เพื่อให้เราเห็นภาพชัดเจน อย่างเช่นบอกเราว่า ช็อตนี้จะคล้ายกับหนังเรื่อง Alice Doesn't Live Here Anymore และเธอยังใช้เพลงช่วยให้เราเข้าใจบรรยากาศของบทมากขึ้นด้วย เธอรอบรู้เรื่องดนตรีมากกว่าฉันเยอะเลย" มาร์เซีย เล่า