มาริโอ้ ร่วมงานนางเอกใหม่ กุ๊กกิ๊ก ถ่ายทอดคุณค่าของ จูบ
เพิ่งจะบวงสรวงเปิดกล้องไป สำหรับภาพยนตร์รัก 4 รสเรื่อง "ฝัน-หวาน-อาย-จูบ" จากค่าย สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล และ บาแรมยู ที่ตอนนั้นยังไม่ลงตัวว่าใครจะมาเป็นนางเอกประกบพระเอกมาแรงแห่งยุค อย่าง "โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ" ที่มาเล่นในเรื่อง จูบ ฝีมือการกำกับของ "ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล" ในที่สุดก็ได้นางเอกหน้าใหม่ "กุ๊กกิ๊ก - อภิศรา ทัตติ" มารับบทเด่นคู่กับ โอ้ ซึ่งผู้กำกับ บอกว่าตอนนี้ถ่ายทำไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว อีกทั้งยังเล่าที่มาของภาพยนตร์ในตอนที่ตนเองกำกับว่า
"เป็นเรื่องของเด็กวัยรุ่นชั้น ม.6 เน้นที่ตัวเด็กผู้ชายเป็นหลัก พอช่วงวัยรุ่นตอนปลายจะเริ่มมีอารมณ์ขัดแย้งกัน เริ่มมองหาเพศตรงข้าม เป็นธรรมดาของผู้ชายที่คิดแย่งอะไรที่รู้สึกว่ามันมีค่า สำหรับผมตั้งคำถามกับตัวเองมาก่อนทำบทหนังเรื่องนี้ อยากรู้ว่าทุกวันนี้เด็กผู้หญิงมีจูบครั้งแรกอายุเท่าไหร่ มีความรู้สึกว่าจูบเป็นของมีค่า พอมันเป็นของมีค่าแล้วเราจะถ่ายทอดออกมาเป็นหนังยังไง ตัวมาริโอ้จะตีคุณค่ากับจูบในหนังออกมาอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นลองไปค้นหาคำตอบกันดู"
ส่วนสาเหตุที่เลือก กุ๊กกิ๊ก มารับบทเป็นนางเอกนั้น ราเชนทร์ บอกว่า "อย่างแรกเลยก็คือผมอยากได้นางเอกที่ไม่เคยเล่นหนังมาก่อน ยังไม่เคยเล่นโฆษณามิวสิกวิดีโอมาได้ยิ่งดี ซึ่งในวันบวงสรวงเราก็ยังไม่ได้นางเอกเลย ปรากฏว่าหลังจากวันบวงสรวง 1 วัน น้องเขาก็เข้ามา น้องเขายังไม่เคยอยู่หน้ากล้องมาก่อนเลย ลองให้น้องเขาเล่นบทดรามา เขาก็ทำได้ยังไม่ถึงขั้นบีบน้ำตาได้แต่ก็มีแวว อย่างฉากวันนี้ที่ให้เขาเต้นแหย่พระเอก วันนี้เขาก็ทำได้ดี เพราะว่าเขาใส อย่างที่บอกว่ายังไม่เคยผ่านการแสดงอะไรมา วิธีที่จะคุยกับเขาจะคุยแบบที่จะไม่บอกให้เขาเล่นอย่างนั้นอย่างนี้ จะบอกให้เขาเล่นแบบที่เขาอยากเล่น เราก็แค่บอกว่าอยู่ตำแหน่งนี้ เคลื่อนย้ายไปตรงนี้ตรงนั้น ที่สำคัญเขาตัวสูงยืนคู่กับมาริโอ้ได้"
กุ๊กกิ๊ก เล่าถึงการมารับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "ก็มาแคสติ้งตามปกติ แล้วพี่เขาเห็นว่าคาแรกเตอร์นี้ค่อนข้างตรงกับบุคลิกของตัวกิ๊กเองก็เลยได้ ได้เล่นร่วมกับพี่โอ้ก็ตื่นเต้นค่ะ เพราะว่าปลื้มพี่เขามานานแล้ว ติดตามผลงานพี่เขามาตลอด พี่โอ้เขาก็เป็นกันเองก็เลยไม่ค่อยเกร็งเท่าไร ก่อนเข้าฉากเราก็นั่งคุยกันก่อนว่าจะแสดงอะไร เราก็เตรียมตัวโดยการซ้อมมาก่อน เพราะว่าเราก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของพี่เขา ผู้กำกับพี่ราเชนทร์ก็ใจดี พี่เขาก็บอกว่าไม่ต้องไปเกร็งอะไร พี่โอ้เขาก็ช่วยสอนหลายอย่างเหมือนกัน"
โอ้ พูดถึงการร่วมงานกับนางเอกน้องใหม่ว่า "ในเรื่องจะเล่นเป็นแฟนกัน เป็นคนที่เรารักมากๆ แฟนเราน่ารักที่สุด ก็ไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรมาก ก็มีช่วยส่งอารมณ์ให้น้องเขา เพราะว่าน้องเขาก็ยังใหม่อยู่ ยังไม่เคยผ่านโฆษณา ถ่ายแบบ ก็เป็นงานชิ้นแรกของน้องเขาเลย น้องเขาก็ทำได้ดี น้องเขามีสมาธิดีและตั้งใจมากๆ"
โอ้ เล่าถึงบทบาทในเรื่องนี้ว่า "เรื่องนี้จะไม่เหมือนกับเรื่องต่างๆ ที่โอ้เคยเล่นมาเลยครับ อย่างเรื่องที่ผ่านมาก็จะเป็นเด็กที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อีกเรื่องหนึ่งก็อยู่ในวัยนี้เหมือนกัน แต่เรื่องนี้จะนิ่งๆ จะแปลกแตกต่างจากเรื่องอื่นมากๆ ครับ ส่วนเรื่องเลิฟซีนต้องขอเก็บไว้ก่อนเป็นเซอร์ไพรส์ให้คนไปดูครับ มีจูบ แต่ต้องไปดูอีกทีว่าจะเป็นจูบแบบไหน อยากให้ไปชมกันจริงๆ"
กุ๊กกิ๊ก กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ใครจะจูบกับใคร จูบยังไงต้องไปดูในโรง เพราะว่าเป็นไคลแมกซ์ของหนัง ต้องขออุบไว้ก่อน บทนี้ก็ค่อนข้างตรงกับคาแรกเตอร์ของกิ๊กเอง เป็นนักเรียนม.ปลาย ร่าเริงแจ่มใส โก๊ะๆ เปิ่นๆ ก็อยากให้คนดูชอบและมาดูกันเยอะๆ เพราะว่าทุกคนตั้งใจทำงานกันมาก"
เรื่องราวของความรักกับการให้ความสำคัญของการจูบ ที่ถ่ายทอดในมุมมองของผู้กำกับ ราเชนทร์ จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในภาพยนตร์ ฝัน-หวาน-อาย-จูบ กำหนดฉาย 27 พฤศจิกายน นี้ ในโรงภาพยนตร์