เปิดตัว หนุมานคลุกฝุ่น สงครามการต่อสู้ของคนมีไสยเวทย์

เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ "หนุมานคลุกฝุ่น" ภาพยนตร์แอ็กชั่นที่มีจุดเด่นอยู่ตรงศาสตร์ลี้ลับของการสักยันต์ ฝีมือการกำกับของ "หน่อย - ศักดิ์ชัย ศรีบุญนาค" เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า โดยมีนักแสดงนำมาร่วมงาน ได้แก่ "หนุ่ม - ศรราม เทพพิทักษ์" "หยาด - หยาดทิพย์ ราชปาล" "โอเด็ต เฮนเรียต แจ็คโคมิน" "ลูกแก้ว - รักษิตา จีน เคสซีเนอร์" "โก๊ะตี๋ อารามบอย" "สน - สนธยา ชิตมณี" และ "อ่าง เถิดเทิง"

ร่วมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่ "น้อย - โสรธร รุ่งเรือง" "ชาย เมืองสิงห์" "โรจน์ - ไพโรจน์ ใจสิงห์" สมทบกับนักแสดงจากต่างชาติ อาทิ "ดาเมี่ยน มาวิส" "ดีน อเล็กซ์ซานเดอร์" "แอนตั้น คารานิเชนโก้" และนักแสดงระดับฮอลลีวูด "เดวิด วินเทอร์ส"

เริ่มเปิดงานด้วยคอนเสิร์ตเล็กๆ จากวง "อีโบล่า" ที่นำเพลงดังของตัวเอง 2 เพลงมาร้องให้ได้ฟังกัน กับเพลง "แสงสว่าง" และ "สิ่งที่ฉันเป็น" ก่อนจะนำเพลงประกอบภาพยนตร์ "ไม่มีวันตาย" มาร้อง โดยมีหนุมานและเหล่าลิงป่ามาแสดงประกอบเพลง

จากนั้นไปคุยกับเหล่านักแสดงกันบ้าง เริ่มที่ สน มาบอกเล่าถึงการเล่นภาพยนตร์แอ็กชั่นเรื่องแรกว่าว่า "ด้วยความที่ไม่เคยเล่นหนังแอ็กชั่นมาก่อน เคยเล่นแต่แนวดราม่ามา ก็มีการพลาดคิว หล่นตรงขอบโต๊ะที่เป็นโต๊ะไม้สัก" ส่วน โก๊ะตี๋ บอกถึงบทบาทของตัวเองว่า "รับบทเป็น โก๊ะ พ่อครัวที่อยู่บ้านไออุ่น จะคอยกัดกับพี่อ่าง เป็นคู่กัดกัน เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่บู๊อย่างเดียว มีเรื่องของความรัก ความผูกพันเข้ามา ตัวของพระเอกได้เข้ามาสัมผัสกับบ้านไออุ่น พระเอกรักเด็กทุกคน แล้วทุกคนก็รักในตัวพระเอก มีหลายๆ เรื่องราวที่เข้ามาเกี่ยวพันกันในเรื่องนี้"

ส่วนฉากที่ประทับใจ โก๊ะตี๋ บอกว่า "ฉากที่ตรึงตาตรึงใจ ยากที่จะลืมเลือนก็คงเป็นฉากที่โดนเผาทั้งเป็นในกระท่อม จะเป็นยังไงต้องไปติดตามเอาเอง บอกได้คำเดียวว่าโหด จำไปจนวันตาย ต้องขอบคุณพี่หน่อยที่จัดให้" ด้าน สน บอกว่า "ฉากที่ผมประทับใจมากคือฉากที่ได้ร้องเพลง ใช้ดนตรีสดๆ ตรงนั้น ผมเล่นกีตาร์ แล้วพ่อชาย เมืองสิงห์ มาร้องเพลงแล้วเป่าเมาท์ออร์แกนในบรรยากาศตอนกลางคืน ซึ่งเป็นซีนที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต"

ด้านพระเอกของเรื่อง หนุ่ม พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ว่า "การได้แสดงเรื่องนี้เป็นเกียรติมากสำหรับตัวเรา เราก็ตั้งใจทำให้เต็มที่ เต็มร้อยเหมือนเดิม หน้าที่ของผมก็คือทำให้เต็มที่ที่สุด สำหรับหนังแอ็กชั่นจริงๆ แล้วก็ชอบ ผู้ชายก็เหมาะกับหนังบู๊อยู่แล้ว ก็ท้าทายได้ลองอะไรใหม่ๆ เราต้องไปเวิร์กชอป ไม่ว่าจะเป็นเทควันโด ซ้อมกับสลิงที่เป็น 360 องศา เราต้องไปซ้อมก่อนถ่ายทำจริง 2-3 เดือน มีหลุดคิวบ้าง เป็นธรรมดา ถลอกปอกเปิกบ้าง แต่ทีมงานก็พยายามเซฟตี้นักแสดงทุกคน"

ทาง หยาด เล่าถึงบทบาททางด้านภาพยนตร์เรื่องแรกว่า "รับบทเป็นครูหวาน เรียบร้อย ค่อนข้างเป็นคนเงียบๆ เป็นเด็กกำพร้า ในเรื่องหยาดไม่บู๊เลย ทุกคนจะบู๊หมดยกเว้นหยาดกับลูกแก้วที่ไม่บู๊" มาถึง โอเด็ต เป็นอีกหนึ่งคนที่มาแสดงภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก โดยบอกว่า "เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกก็ชอบ เป็นประสบการณ์ใหม่ คนส่วนใหญ่จะติดภาพโอเด็ตว่าเป็นนางแบบ ก็มาลองมาลงจอเงินบ้างก็อาจจะเปลี่ยนลุกส์ได้"

หนุ่ม พูดถึงเรื่องนี้ว่า "เป็นหนังที่ยาก ต้องขอบคุณทีมงานทุกคน ความสำเร็จไม่ได้มาจากนักแสดง คงต้องยกฝีมือให้กับทีมงานทุกๆ คน ผมว่าทีมงานเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักแสดงมีกำลังใจและรู้ว่างานนี้ยากแต่ไหน เรามีทีมงานที่ทำเพื่อนักแสดงแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเลยผ่านความยากนั้นมาได้"

ด้านผู้กำกับ หน่อย บอกเล่าภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "โดยส่วนตัวก็เป็นคนชอบหนังแอ็กชั่น หนังบู๊อยู่แล้ว ก็เลยเอาเรื่องราวของรอยสัก ซึ่งเป็นความเชื่อของคนไทย ไสยศาสตร์เอามาผูกเรื่อง เราก็เอาเรื่องรอยสักมาเป็นจุดขาย มีแอ็กชั่น บันเทิง ทำให้น่าเชื่อถือ สมจริง ที่เลือกหนุ่มก็เพราะว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ หนังเราไม่ได้ขายแค่บู๊อย่างเดียว ยังมีเรื่องราวต่างๆ อีก เขาก็ต้องแสดงได้หลายอารมณ์ แล้วเขาเองก็เคยเล่นหนังบู๊มาหลายเรื่องแล้ว เราก็ให้เขาไปเวิร์กชอป เพื่อเพิ่มในเรื่องความแข็งแรง กล้ามเนื้อ"

จากนั้นมาฟังความรู้สึกของ เดวิด ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ "เกิดจากภาพยนตร์เรื่องที่แล้วเรื่อง กบฏท้าวศรีสุดาจัน เคยได้ร่วมงานด้วยกันกับผู้กำกับหน่อยมา รู้สึกปลาบปลื้มมากที่หน่อยได้เชิญให้มาเล่นหนังเรื่องนี้ต่อ ทีมงานแต่ละคนเป็นมืออาชีพมากๆ " ด้านนักแสดงต่างชาติ ดาเมี่ยน บอกว่า "รู้สึกเหมือนกับทำงานกับครอบครัว ทุกคนน่ารัก สนุกมาก"

หยาด กล่าวความรู้สึกที่จะได้ชมผลงานภาพยนตร์ชิ้นแรกของตัวเองว่า "สำหรับหยาด ตื่นเต้นเพราะว่าเป็นเรื่องแรก อยากดู เห็นตัวอย่างที่ทำเป็นซีดี ดูแล้วสนุก แล้วหยาดก็อยากจะดู ไม่เคยเห็นตัวเองในโรงหนัง อยากเห็นว่าเวลาหน้าตัวเองใหญ่ๆ แล้วเป็นยังไง" ฟาก หนุ่ม บอกว่า "ภูมิใจ เพราะเป็นงานอีกชิ้นหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาในการทำงานนานมาก กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ให้แฟนๆ ภาพยนตร์ไทยได้ชมกัน มาถึงวันนี้ก็ใช้ระยะเวลาในการรอคอยนานเหมือนกัน แต่คุ้มค่ากับการรอคอย"

ร่วมปลุกตำนานแห่งไสยเวทย์มหายันต์ให้กลับมาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งใน หนุมานคลุกฝุ่น วันที่ 12 สิงหาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์