ออสเตรเลียวางแผนส่ง นิโคล คิดแมน เรียกนักท่องเที่ยว
หลังจากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศออสเตรเลียน้อยลงกว่าที่เคย รัฐบาลแดนจิงโจ้จึงหวังที่จะกู้สถานการณ์คืนมา ด้วยภาพยนตร์เรื่อง "Australia" ที่นำแสดงโดย "นิโคล คิดแมน" (Nicole Kidman) นักแสดงที่ค่าตัวแพงคนหนึ่งของฮอลลีวูด กับ "ฮิวจ์ แจ็กแมน" (Hugh Jackman) นักแสดงผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง "X-Men"
ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย "บาซ เลอร์มานน์" (Baz Luhrmann) ผู้กำกับที่มีฝีมือโดดเด่นด้านการสร้างภาพที่หรูหราและมีสีสันสดใส ดังเช่นในภาพยนตร์เรื่อง "Moulin Rouge" และ "Romeo + Juliet" ส่วนในเรื่อง Australia นี้ มีฉากหลังเป็นท้องทุ่งในชนบท โดย นิโคล แสดงเป็นคุณหญิง ซาร่าห์ แอชลีย์ หญิงชั้นสูงของอังกฤษ ผู้ตกหลุมรักหนุ่มพื้นเมืองที่มีอาชีพต้อนฝูงสัตว์ไปขาย ซึ่งรับบทโดย ฮิวจ์
ในภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่องนี้ ผู้ชมจะได้เห็นภาพ นิโคล และ ฮิวจ์ ต้อนฝูงวัวควายกว่า 2,000 ตัว ผ่านพื้นที่ในชนบทของออสเตรเลีย เพื่อไปขายในเมืองดาร์วิน และมีฉากที่เมืองดังกล่าวถูกทหารญี่ปุ่นโจมตีด้วยระเบิด อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในหลายเมืองของออสเตรเลีย ได้แก่ ซิดนีย์ ดาร์วิน คูนูเนอร์ร่า และ โบเว่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของออสเตรเลีย "มาร์ติน เฟอร์กูสัน" (Martin Ferguson) เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ภาพยนตร์เรื่องนี้ในการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของออสเตรเลีย "ภาพยนตร์เรื่องนี้มีศักยภาพพอที่จะเรียกผู้ชมได้หลาย 10 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ผู้ชมเหล่านั้นได้เห็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครตระหนักถึงมาก่อน นั่นคือธรรมชาติอันน่าตื่นตา รวมทั้งประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมพื้นเมืองของออสเตรเลีย"
รัฐบาลออสเตรเลียจะเริ่มทำการตลาดกับนานาประเทศ โดยใช้ชื่อโครงการว่า "See the Movie, See the Country" ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2008 ช่วงเดียวกับที่ภาพยนตร์ Australia ออกฉาย แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้คล้ายคลึงกับเมื่อปี 1986 ที่ออสเตรเลียใช้ "พอล โฮแกน" (Paul Hogan) ดารานำจากภาพยนตร์เรื่อง "Crocodile Dundee" มาโฆษณาเชิญชวนนักท่องเที่ยว ซึ่งแผนเปิดตลาดในครั้งนั้นนับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี