1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ไคลฟ์ โอเว่น เผยเบื้องหลังฉากบู๊ระห่ำใน Shoot 'Em Up

ไคลฟ์ โอเว่น เผยเบื้องหลังฉากบู๊ระห่ำใน Shoot 'Em Up

นักแสดงหนุ่มมากความสามารถอีกคน "ไคลฟ์ โอเว่น" ที่กำลังมีผลงานภาพยนตร์แอ็กชั่นระห่ำอย่าง "Shoot 'Em Up" ซึ่งกำลังจะเข้าฉายในเมืองไทยเร็วๆ นี้ กับบทของ สมิธ ชายมาดเถื่อนที่ควงปืนต่อสู้กับคนร้ายเพื่อปกป้องชีวิตเด็กทารกตัวน้อยและตัวเขาเอง โดยในเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะบู๊กันสะใจผู้ชมแค่ไหน ไคลฟ์ จะเป็นคนมาเล่าเบื้องหลังให้ฟังกัน

ทำไมคุณถึงสนใจบทนี้

"เพราะเป็นบทที่ดิบที่สุดและแปลกใหม่ที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่าน ความจริงก็เป็นหนังแอ็กชั่นอีกเรื่องหนึ่งของผม แต่เป็นแนวใหม่ เป็นหนังที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ที่ผมชอบบทเรื่องนี้อาจเป็นเพราะความฉลาดและอารมณ์ขันของมัน รวมทั้งฉากแอ็กชั่นด้วย ผมชอบที่ตอนแรกเราคุยกันว่าจะไม่ซีเรียสกับมันเกินเหตุ แต่พอถ่ายจริง ปรากฎว่าเราทุ่มเทกันมาก เหมือนชื่อหนังน่ะ ยิ่งกันกระจาย แล้วเราก็พอใจกับมัน เราแค่อยากให้ทุกคนนั่งดูและสนุกกับมัน ถ้าใครเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง ผมก็จะบอกว่ามันเป็นหนังรุนแรงที่ดีที่สุด รุนแรงแบบบ้าๆ แต่มันก็คือหนัง ไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตจริง เอามันเข้าว่า อย่าซีเรียส"

คุณแสดงฉากแอ็กชั่นเองเกือบทั้งหมดใช่มั้ย เป็นยังไงบ้าง

"ผมฝึกหนักมาก ไมเคิล (ผู้กำกับและเขียนบท) อยากให้ผมรู้สึกว่าเป็นตัวละครจริงๆ คือตัวละครของผมเนี่ย เป็นพวกบู๊ระห่ำและเก่งสุดๆ ทีนี้ ไมเคิล ไม่อยากให้ฉากแอ็กชั่นออกมาเจ๋งมาก แต่นักแสดงตัวจริงหลบอยู่ข้างหลัง หรือใช้ตัวแสดงแทนในฉากวิ่งหนีระเบิด ตรงกันข้าม เขาอยากให้ผมอยู่ในฉากนั้น เพื่อที่จะได้รู้สึกว่าเป็นตัวละครตัวนั้น กำลังทำสิ่งนั้นอยู่จริงๆ ผมถึงต้องเข้าฉากเกือบทุกฉาก ซึ่งคุณจะได้เห็นในหนัง ผมถูกแกว่งไปแกว่งมาบนสลิงประมาณ 10 วัน และแสดงคิวบู๊ทั้งหลายตั้งแต่ต้นจนจบ แน่นอนว่าต้องใช้ร่างกายเยอะมาก"

ฉากแอ็กชั่นไหนที่คุณคิดว่ายากที่สุด เหนื่อยที่สุด

"ฉากโดดร่มครับ เป็นฉากที่ผมต้องกระโดดลงมาจากเครื่องบิน แล้วดวลปืนกับตัวร้ายกลางอากาศ ฉากนี้ยากและเหนื่อยมาก เพราะผมต้องโหนสลิง ถูกทีมงานดึงขึ้นดึงลงตลอดเวลา ความจริงเป็นความท้าทายทางร่างกายนะ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี"

กินแครอทไปเยอะไหม แล้วยิงปืนทั้งเรื่องเมื่อยนิ้วบ้างหรือเปล่า

"ตัวละครของผมเป็นผู้ชายที่มีความสามารถด้านการยิงปืน เพราะฉะนั้นเขาก็เลยชอบกินแครอท เพราะมันดีกับสายตา งานนี้ผมก็เลยกินแครอทเยอะมาก จนบางครั้งต้องแอบขี้โกง ถ้าให้แสดงแล้วมีกลิ่นปากเป็นกลิ่นแครอทแห้งนี่ก็ไม่ไหวนะ ส่วนเรื่องนิ้ว ไม่เมื่อยหรอกครับ ผมใช้ปืนจนชินแล้ว ก็เลยไม่ยากเท่าไหร่"

แล้วด้านการแสดงอารมณ์ล่ะ ท้าทายไหม

"ความจริงก็สบายๆ นะครับ เรื่องนี้ไม่ได้ต้องเค้นอารมณ์มาก ที่ท้าทายกว่าคือฉากแอ็กชั่น เพราะเราใส่กันแบบไม่ยั้ง ยิงกันกระจุย ผมว่าการแสดงฉากแอ็กชั่นพวกนี้ท้าทายกว่ามากสำหรับเรื่องนี้"

มีเกณฑ์การเลือกบทยังไง

"ผมไม่ชอบบทมิติเดียว อะไรที่ชัดเจนเกินไป หรือบทตัวดีที่ดีไร้ที่ติ ผมชอบอะไรที่มีความขัดแย้งในตัวมากกว่า และสิ่งที่ดึงดูดให้ผมชอบตัวละครนี้ ก็คือเขาเป็นผู้ชายสุดเท่ที่ไม่มีชื่อ แล้วเวลาไม่พอใจอะไรเขาจะแสดงออกทันที ผมชอบแสดงบทแบบนี้"

ยากไหมที่ต้องทำงานกับปืนและเด็กทารก

"ผมต้องฝึกใช้ปืนหลายชนิดมาก นั่นแหละที่ยาก ผมไม่ได้แค่จับปืนขึ้นมายิง แต่ต้องทำความคุ้นเคยกับปืนด้วย และไม่ใช่แค่ปืนแบบเดียว ตัวละครของผมใช้ปืนหลายแบบมาก ส่วนการทำงานกับเด็กก็ดีมากครับ ผมอยากให้เราสามารถเอาเด็กเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อันตรายกว่านี้ได้ เพราะเขาคือศูนย์กลางของฉากแอ็กชั่น และแก่นเรื่องอยู่ที่เด็ก ที่น่าตลกคือคุณไม่มีทางสร้างหนังบ้าๆ แบบนี้ได้ ถ้าคุณไม่เชื่อในฉากนั้นๆ ถึงมันจะไร้สาระก็เถอะ เด็กทำให้ผมรู้ว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร เกี่ยวกับการปกป้องเด็กคนนี้ไงล่ะ"

ยากไหมที่ต้องกลั้นหัวเราะตอนแสดงฉากรักกับ โมนิก้า เบลลุกชี่

"จะบอกให้นะ การได้ใกล้ชิดกับ โมนิก้า ขนาดนั้น ทำให้ผมตื่นเต้นมากเลยล่ะ"

แล้วฉากรักเป็นยังไงบ้าง

"มันถูกออกแบบมาอย่างดี ไมเคิล วาดเป็นแอนิเมชั่นก่อน ผมดูหลายรอบแล้วถามเขาว่านั่นทำได้จริงๆ เหรอ ผมจะทำแบบนั้นได้เหรอ แล้วเราทำออกมาได้อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ เป็นฉากที่สนุกที่สุดฉากหนึ่งของเรื่องนี้เลยล่ะ เป็นไอเดียที่บ้ามาก"

แล้ว พอล จิอาแม็ตติ ล่ะ ร่วมงานกับเขาเป็นยังไงบ้าง

"เขาเยี่ยมมากครับ ผมดีใจมากตอนที่รู้ว่าเขาตกลงแสดง เพราะผมคิดไม่ออกว่าใครจะรับบทนี้ได้ดีกว่าเขา พอล เป็นคนหนึ่งที่สามารถแสดงบทเถื่อนๆ บ้าๆ ได้ โดยที่ไม่ดูเว่อร์เกินไป เขาเป็นนักแสดงที่ไม่ว่าบทจะตลกแค่ไหน เขาก็มั่นคง พอล เป็นศัตรูที่เหมาะสมกับสมิธ เพราะขณะที่สมิธเป็นคนนิ่ง เย็นชา พูดน้อย เก็บตัว เขาจะตรงข้าม คือใส่อารมณ์ พูดมาก ลุยแหลก"

ภาพยนตร์แอ็กชั่นแบบนี้กับเรื่อง Closer ชอบแบบไหนมากกว่ากัน

"ตอบยากครับ Closer เป็นหนังที่พิเศษสำหรับผม เพราะผมแสดงละครเวทีต้นฉบับ จึงเหมือนผมมีอดีตกับมัน ผมชอบถ่ายทอดบทพูดพวกนั้น แต่ถ้าสังเกตหนังทั้งหมดที่ผมแสดง คุณจะเห็นว่าผมชอบความหลากหลาย ผมชอบแสดงหนัง แต่ไม่ได้ชอบแนวไหนเป็นพิเศษ การได้แสดงในหนังที่มีบทดีๆ ก็ถือว่าโชคดีแล้ว"

โครงการภาพยนตร์ใหม่ของคุณตอนนี้คือเรื่องอะไร

"ตอนนี้ผมกำลังเดินหน้าโปรเจกต์หนังกับ ทอม ทึกเวอร์ ผู้กำกับจาก Run Lola Run และ Perfume บทหนังดีมาก เป็นหนังทริลเลอร์ย้อนยุคสมัยปี 70 ครับ"

คุณทำอะไรเวลาว่างจากงาน

"เอาจริงๆ นะ ผมชอบอยู่กับลูกๆ ครับ (ลูกสาววัย 8 และ 10 ขวบ) ผมอยากอยู่กับพวกเขาให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมคิดถึงพวกเขามากตอนที่ไปถ่ายหนัง เพราะฉะนั้นการได้อยู่กับลูก ใช้เวลากับลูกจึงเป็นอะไรที่มีค่ามาก การทำงานทำให้เวลาของผมหมดไปเยอะ"

ติดตามชม Shoot 'Em Up ภาพยนตร์ซึ่งแค่ในฉากเปิดของเรื่องนี้ก็ดวลปืนกันสนั่นจอแล้ว โดยนอกจาก ไคลฟ์ แล้วยังมี พอล จิอาแม็ตติ และ โมนิก้า เบลลุกชี่ ร่วมประชันบทกันเต็มที่ เริ่มฉาย 20 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

  • รักแห่งสยาม
    เข้าฉายปี 2007
    แสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, กัญญา รัตนเพชร์
  • Harry Potter and the Chamber of Secrets
    เข้าฉายปี 2002
    แสดง Daniel Radcliffe , Emma Watson , Rupert Grint
  • ตีสาม 3D
    เข้าฉายปี 2012
    แสดง กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า, โทนี่ รากแก่น, ชาคริต แย้มนาม

เกร็ดภาพยนตร์

  • Badlapur - เป็นภาพยนตร์ที่ไม่ใช่แนวตลกเรื่องแรกที่ วรุณ ธาวาน ผู้รับบท รักฮาฟ แสดง อ่านต่อ»
  • Chappie - ชาร์ลโต คอปลีย์ ผู้รับบท แชปปี้ กับผู้กำกับ นีลล์ บลอมแคมป์ เรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยมัธยมศึกษา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ชาร์ลโต จึงร่วมแสดงในภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ นีลล์ กำกับก่อนหน้านี้ ได้แก่ District 9 (2009) และ Elysium (2013) อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เนื้อหาภาพยนตร์อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1940 ช่วงที่มีเหตุการณ์แบ่งแยกอินเดีย...อ่านต่อ»