1. สยามโซน
  2. ภาพยนตร์
  3. ข่าววงการภาพยนตร์

ร่วมเป็นสักขีพยานความรักไร้กฎเกณฑ์ใน เพื่อน กูรักมึงว่ะ

ร่วมเป็นสักขีพยานความรักไร้กฎเกณฑ์ใน เพื่อน กูรักมึงว่ะ

"เพื่อน กูรักมึงว่ะ" เรื่องราวความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ไร้กรอบกฎเกณฑ์เรื่องเพศ ผลงานภาพยนตร์รักของ "พจน์ อานนท์" ได้จัดงานเปิดตัวไปแล้ว เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ท่ามกลางดนตรีเครื่องสายที่บรรเลงขับกล่อมสร้างบรรยากาศให้อบอวลด้วยความรักทั่วทั้งงาน

งานนี้ได้ "จั๊ด - ธีมะ กาญจนไพลิน" รับหน้าที่ดำเนินรายการ ช่วงแรกของงานเปิดตัวด้วย "ป๊อบ ปองกูล สืบซึ้ง" หรือ "ป๊อบ แคลอรี่ บลา บลา" ที่ออกมาถ่ายทอดบทเพลงจากอัลบั้ม "Voice Male" ในเพลง "อยากรู้แต่ไม่อยากถาม" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ประสานไปกับกลุ่มวงเครื่องสาย สร้างความโรแมนติกได้เป็นอย่างดี

เข้าสู่ช่วงของการสัมภาษณ์ เมื่อผู้กำกับ "พจน์ อานนท์" พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "เรื่อง เพื่อน กูรักมึงว่ะ เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกระหว่างชายกับชายเรื่องแรกของประเทศไทย จริงๆ แล้วก็ไม่ได้นำเสนอแต่เรื่องชายรักกับชาย ในหนังเรื่องนี้จะมีอะไรหลายๆ อย่างอยู่ในนั้น แต่ตัวละครที่เดินเรื่องก็คือผู้ชายสองคน มีครอบครัว มีความรักครับ"

พจน์ ยังเล่าถึงรูปแบบในการถ่ายทอดภาพยนตร์เรื่องนี้ "คือความรักของชายกับชายในเรื่องนี้ เราจะให้คนดูเกิดความรู้สึกไม่น่าเชื่อว่ามีความรักแบบนี้อยู่บนโลกด้วย เพราะนักแสดงของเราก็เล่นกันจนลืมไปเลยว่าพวกเขาเป็นผู้ชาย เราจะซาบซึ้งว่าเค้าเล่นได้เนียนมาก คือการที่เราจะรักใครสักคน ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ อย่างที่ในหนังบอก"

ส่วนฉากที่คิดว่าโรแมนติกที่สุด "ก็มีที่โรแมนติกอยู่หลายฉาก แต่หลายๆ คนจะรอดูฉากเลิฟซีน พอดูไปจนหนังจบ คนดูจะลืมไปเลยว่ามีเลิฟซีนอยู่ในหนัง เพราะว่ามันเป็นความรัก คนเราจะเลิฟซีนกันได้ ก็ต้องเกิดจากความรัก หรือถ้าไม่รักก็คือความใคร่ แต่หนังเรื่องนี้พูดถึงความรัก และหนังเรื่องนี้จะไม่ค่อยพูด จะแสดงด้วยบรรยากาศ ด้วยสีหน้า อารมณ์ของคนแสดง"

พจน์ ยังคาดหวังกับคนดูหลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบว่า "คนดูจะได้ความรู้สึกว่าเป็นหนังที่ชื่นใจและอบอุ่น คือถ้าผู้หญิงดูก็จะไม่รังเกียจความรักแบบนี้ เพราะเป็นหนังรักเรื่องหนึ่งครับ"

เข้าสู่ช่วงการพูดคุยกับนักแสดงสมทบในเรื่อง นำขบวนตั้งแต่ "จุ๋ม - อุทุมพร ศิลาพันธ์" "สุเชาว์ พงษ์วิไล" และ "หญิง - ฌัชชา รุจินานนท์" ซึ่งทั้ง 3 คนได้พูดถึงบทบาทที่ตัวเองเล่น โดยเริ่มจาก จุ๋ม "พี่เล่นเป็นแม่ของ 2 หนุ่ม ชื่อเมฆกับหมอก เรื่องนี้ คุณพจน์ เรียกพี่มาใช้งานหนักมาก 15 ปี ไม่เคยเล่นหนังเลยนะคะ ไม่ได้บทที่ถูกใจ เรื่องนี้พี่โดนเสน่ห์ คุณพจน์ เข้าเต็มๆ พี่ไม่ได้สวยเลยตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย และก็เป็นการแต่งหน้าที่นานที่สุดในชีวิตของนักแสดงเลย วันละ 6 ชั่วโมง"

สุเชาว์ พูดถึงบทบาทของตัวเองสั้นๆ ได้ใจความว่า "เล่นเป็นเจ้านายของตัวละครหลัก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตทั้ง 2 คนพลิกผัน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นจอมบงการครับ" ส่วน หญิง พูดถึงตัวละครที่เล่นว่า "รับบทในเรื่องชื่อ ทราย ค่ะ เป็นผู้หญิงที่มีความอ่อนหวาน อ่อนโยน ตามชื่อ เหมือนทรายที่มีอะไรพัดไปก็ไปตามนั้นค่ะ ละเอียดอ่อน"

นอกจากนี้ จุ๋ม พูดถึงการทำงานของผู้กำกับเรื่องนี้อีกว่า "ที่แรกได้ยินมาว่า คุณพจน์ เป็นคนขี้วีน ดุมาก แต่พอได้มาเจอจริงๆ ก็จะเห็นว่า คุณพจน์ น่ารักมาก เวลาอยากจะวีนใคร แต่ต้องอัดอั้นเก็บเอาไว้ก็จะน่ารัก แล้วเวลาใช้ใครไม่ถูกใจ แกก็จะลงมือทำเองตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบอะไรแบบนี้น่ะค่ะ" ทำเอาทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยไปตามๆ กัน

และก็มาถึงในส่วนของการพูดคุยกับนักแสดงหลักอีก 3 คน คือ "เอ - รัตนบัลลังก์ โตสวัสดิ์" "ต๊อบ - ชัยวัฒน์ แสงทอง" และ "กัส - วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย" ได้ออกมาพูดคุยถึงความโรแมนติกของตัวเอง เริ่มจาก เอ บอกว่า "ไม่เลยครับ ผมเป็นคนไม่โรแมนติกเลย ถ้าใครรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมเป็นคนง่ายๆ ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ถ้าอยากจะพิเศษจริงๆ ก็อาจจะมีบ้าง" ต๊อบ พูดสั้นๆ ว่า "ส่วนผมก็โรแมนติกนิดนึง" ก่อนที่ กัส จะปิดท้าย "ส่วนผมก็ โรแมนติกนะครับ ก็เป็นคนสบายๆ ง่ายๆ อยู่แล้ว"

มาถึงคำถามที่ว่าแต่ละคนมีวิธีการบอกรักยังไง เอ ตอบไปว่า "เดินเข้าไปเลยครับ แล้วบอกว่า กูรักมึงว่ะ ก็บอกตรงๆ ไป ผมรักคุณนะ อะไรแบบนี้น่ะครับ" ด้านหนุ่ม ต๊อบ บอกกับคนดูว่า "คือยังไงก็ได้ แต่ต้องมีบรรยากาศ มีความรู้สึกดีๆ ให้ แค่นี้ก็บอกรักได้แล้วครับ" ปิดท้ายด้วย กัส อีกเช่นเดิม "กัส ต้องมีแม่สื่อน่ะครับ กัส เป็นคนขี้อาย เลยต้องใช้แม่สื่อช่วยสื่อรักให้ครับ"

พจน์ เผยถึงการคัดเลือกนักแสดงหลักมาเล่นในภาพยนตร์ "ผมอยากได้หน้าไทยๆ มาเล่นหนังไทย เพราะถ้าเอาหน้าจีน หน้าเกาหลี หน้าญี่ปุ่น มาเล่น เวลาไปฉายเมืองนอก ก็จะดูไม่เป็นหนังไทย แล้วคนไทยส่วนใหญ่หน้าจะคม แล้วก็เอาหุ่นดีๆ จะได้เป็นตัวแทนของผู้ชาย เพราะว่าในหนังเค้าก็สับสนนะครับ สับสนว่าเป็นผู้ชายหรือว่าเป็นเกย์"

นักแสดงทั้ง 3 ฝากผลงานของตัวเองส่งท้ายงานบนเวที โดยเริ่มจาก เอ "ก็อยากจะฝากเรื่องเพื่อน กูรักมึงว่ะ คือถ้าเข้าไปดูกัน ทุกคนก็จะรู้ว่าความรักแบบนี้สามารถทำให้คนรู้สึกดีๆ ต่อกันได้ ไม่ว่าจะเป็นชายกับชาย ชายกับหญิง ก็ไปดูได้ทุกคนครับผม"

ฟาก ต๊อบ บอกว่า "ก็ขอฝากเรื่องเพื่อน กูรักมึงว่ะ ด้วย เพราะว่า ต๊อบ พี่เอ พี่กัส แล้วก็ พี่พจน์ ช่วยกันสร้าง ช่วยกันเล่น แล้วเราก็เต็มที่กับทุกฉาก ตั้งใจกันมากจริงๆ ยังไงก็ขอฝากด้วยนะครับ" ส่วน กัส พูดด้วยสีหน้าอายๆ ว่า "ก็อยากให้ไปดูกันนะครับ หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกย์เรื่องแรกของเมืองไทยที่เป็นหนังรักโรแมนติก และก็เป็นหนังที่แบบว่าแสดงออกถึงความรักของคนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคมเราครับ ก็อยากให้ลองดูกัน"

มาถึง พจน์ ซึ่งทิ้งท้ายไว้ว่า "ยังไงก็ฝากหนังเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ เพราะเป็นอีกสไตล์หนึ่งของผมด้วย และอยากให้บอกต่อๆ กันไป เพราะพวกเราก็ตั้งใจทำงานกันเต็มที่ครับ"

ร่วมกันเป็นสักขีพยานความรักของผู้ชาย 2 คนได้ใน เพื่อน กูรักมึงว่ะ 13 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

สงวนลิขสิทธิ์ © ห้ามคัดลอก ตัดต่อ
ดัดแปลงหรือเผยแพร่ในสื่อใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต
กดเพื่อดูรูปใหญ่ ปัดซ้าย-ขวาเพื่อดูรูปถัดไป
  • รูปภาพ 1
  • รูปภาพ 2
  • รูปภาพ 3
  • รูปภาพ 4
  • รูปภาพ 5
  • รูปภาพ 6
  • รูปภาพ 7
  • รูปภาพ 8
  • รูปภาพ 9
  • รูปภาพ 10
  • รูปภาพ 11
  • รูปภาพ 12
  • รูปภาพ 13
  • รูปภาพ 14
  • รูปภาพ 15
  • รูปภาพ 16
  • รูปภาพ 17
  • รูปภาพ 18
  • รูปภาพ 19
  • รูปภาพ 20
  • รูปภาพ 21
  • รูปภาพ 22
  • รูปภาพ 23
  • รูปภาพ 24
  • รูปภาพ 25
  • รูปภาพ 26
  • รูปภาพ 27
  • รูปภาพ 28
  • รูปภาพ 29
  • รูปภาพ 30

ความคิดเห็น

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Last Five Years - ใช้เวลา 21 วันในการถ่ายทำ และถ่ายทำฉากเพลง Goodbye Until Tomorrow ในวันสุดท้าย อ่านต่อ»
  • Mad Max: Fury Road - ฉากเทคนิคพิเศษประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย แต่เป็นของจริงโดยใช้นักแสดงแทน ฉาก และการแต่งหน้าช่วย ส่วนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็ใช้เพียงลบเชือก ตกแต่งพื้นที่ทะเลทรายนามิบ และสร้างแขนปลอมข้างซ้ายของ ชาร์ลีซ เธอรอน ผู้รับบท ฟิวริโอซา เท่านั้น อ่านต่อ»
เกร็ดจากภาพยนตร์สามารถดูได้ในหน้าข้อมูลภาพยนตร์แต่ละเรื่อง

เปิดกรุภาพยนตร์

เรื่องราวเน้นที่การทุจริตในระบบการศึกษาของประเทศ แนวคิดของการใช้เงินเพื่อซื้ออนาคตไม่ว่าจะเป็นการศึกษา งาน และรายได้ แม...อ่านต่อ»