แคนดี้ เอฟเวอรี่ แค่ภาพยนตร์เรื่องแรก ก็ยอมเปลืองตัวแล้ว
เป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางลบมากมาย สำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง ไกรทอง ผลงานการกำกับของ สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์ ตั้งแต่ข้อหาที่ถูกมองว่าเป็นหนังที่คุณภาพต่ำ การทำงานที่ถูกมองว่าชุ่ย เพราะว่าใช้ระยะเวลาในการถ่ายทำเพียงเดือนเดียวเท่านั้น และที่สำคัญก็คือ เรื่องนี้ถูกมองว่าขายเซ็กมากกว่าขายตัวหนัง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักแสดงหน้าใหม่อย่าง แคนดี้ เอฟเวอรี่ ที่มารับบทเป็น เลื่อมลายวรรณ หนึ่งในสองเมีย ของพญาจระเข้ชาละวันเอง ก็ยังยอมรับว่าเรื่องนี้มีบทเลิฟซีนที่ค่อนข้างจะถึงพริกถึงขิง โดยเฉพาะกับตัวเธอเอง แต่ในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง เธอก็อยากจะให้มองว่านั่นคือความจำเป็นของหนังที่จะต้องมีฉากเช่นนี้
"เนื่องจากว่าเรื่องไกรทองเป็นภาพยนตร์ที่มีเรื่องของการแก่งแย่งผู้หญิงผู้ชาย เป็นเรื่องของการแย่งชิงความรัก ซึ่งแคนดี้ว่ามันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีบทอย่างว่าเข้ามาด้วย เพียงแต่ว่าเราก็ต้องดูไม่ให้มันมีมากมายจนน่าเกลียดเกินไป และเกินความจำเป็น
เรื่องนี้แคนดี้รับบทเป็นเลื่อมลายวรรณค่ะ เป็นเมียของชาละวัน ที่แคนดี้จะต้องแสดงเลิฟซีนด้วยนั้นก็จะมี 2 คนค่ะ คือกับ เจ็ท ผดุงธรรม ที่แสดงเป็น ชาละวัน และพี่เมฆ วินัย ไกรบุตร ที่เล่นเป็น ไกรทอง โดยที่เลื่อมลายวรรณนั้นจะเป็นเมียหนึ่งในสองของพญาชาละวัน เลื่อมลายวรรณได้มาพบกับไกรทอง ตอนที่เขาลงมาช่วยตะเภาแก้วซึ่งถูกชาละวันจับตัวมา ซึ่งพอไกรทองมาเห็นเลื่อมลายวรรณ ก็ต้องมนเสน่ห์และตกเป็นของกันและกัน"
ถึงจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่ว่าใจของเธอนั้น ต้องเรียกว่าเต็มร้อย เพราะถึงแม้ว่าจะต้องเล่นเปลืองตัวอย่างไร แคนดี้ก็ยอม
"แคนดี้ดีใจนะคะที่ได้มาแสดงเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นหนังเรื่องแรกของเรา สนุกดีที่ต้องเล่นทั้งบนบกและในน้ำ การถ่ายทำเรื่องนี้แคนดี้ได้ประสบการณ์ รวมทั้งมีความคาดหวังกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเราถึงอยากที่จะทำให้มันออกมาดีที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเปลืองตัวเป็นพิเศษก็เพื่อที่จะให้งานออมาดี และสมบูรณ์ที่สุด ส่วนที่มันเป็นข่าวฮือฮานั้น แคนดี้กลับมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องของการแสดงเท่านั้น"
ทั้งนี้เธอยังได้เล่าถึงในรายละเอียดของฉากที่ที่ฮือฮาและกล่าวขวัญกันด้วย พร้อมทั้งบอกว่าเธอรู้สึกภูมิใจ เนื่องจากหลายคนหลายคนมองว่าเธอเป็นคนเซ็กซี่
"รู้สึกดีใจที่คนอื่นมองว่าตนเองเป็นคนเซ็กซี่ แล้วก็ไม่คิดว่าจะเสียภาพลักษณ์นะ มันเป็นเพียงแค่การแสดงไม่ใช่ตัวเราจริงๆ อย่างฉากที่ต้องโนบรานั้น มันเป็นฉากที่ต้องคืนร่างจากจระเข้กลายเป็นคน ความจริงแล้วบอดี้ไทด์ที่ทางฝ่ายเสื้อผ้าเตรียมมานั้นมันไม่พอดีตัวแคนดี้ พี่ๆ ทีมงานก็พยายามหาทางช่วยแก้ไขทุกวิถีทาง ทางด้านพี่เมฆที่ถือว่าเป็นนักแสดงรุ่นพี่พูดขึ้นมาว่าถ้าเป็นเค้าจะแสดงแล้วก็จะแสดงให้เต็มที่
ซึ่งพอพี่เมฆพูดแบบนั้นแคนดี้ก็เลยต้องโนบราไป ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็แสดงเป็นจระเข้อยู่แล้วคิดว่าไม่น่าจะต้องอายอะไร"
ฉากที่ต้องแสดงเลิฟซีนกับเมฆนั้น แคนดี้บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร เล่นไปตามบท แต่ฉากที่ต้องเลิฟซีนกับเจ็ท ซึ่งเป็นฉากที่มีเพิ่มเข้ามาในภายหลัง แคนดี้บอกว่าเกิดความยากลำบากนิดหนึ่ง ตรงที่จะต้องประกบปากกันในน้ำ
"เลิฟซีนกับพี่เมฆนั้นไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ เพราะต้องแสดงไปตามนั้น ผู้กำกับสั่งแอคชั่นก็เล่นไปตามบท อีกฉากที่ต้องเลิฟซีนกับเจ็ท เป็นฉากที่เพิ่มใหม่ ในฉากนี้ถ่ายกันที่สระน้ำ ซึ่งแคนดี้เองก็ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วยังต้องประกบปากกันใต้น้ำอีก แถมกล้องก็อยู่ใต้น้ำลึกมาก ดีที่ได้เจ็ทช่วยประคองไว้ฉากนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี"
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ไกรทอง นั้น เป็นผลงานการกำกับของ สุทัศน์ อินทรานุปกรณ์ โดยที่เขาเป็นช่างภาพที่โด่งดังมาก จากภาพยนตร์เรื่อง กะโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน และ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว แต่สำหรับผลงานการกำกับหนังของเขาที่ผ่านมานั้น จะเป็นหนังที่เกรดต่ำและไม่ได้รับความนิยมมากนัก
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เขาได้ทำให้กับบริษัท ซอฟท์แวร์ ซัพพลายส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับธุรกิจวิดีโอ ที่หันมาลงทุนสร้างภาพยนตร์เป็นครั้งแรก โดย ไกรทอง มีกำหนดฉายในวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้