คุยกับ เฉินหลง ถึงบทบาทใหม่ในภาพยนตร์ Rob-B-Hood
"เฉินหลง" นักแสดงภาพยนตร์แอ็กชั่นชื่อดังชาวฮ่องกง ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านการแสดงบทต่อสู้กระจายไปทั่วโลก กำลังมีผลงานจ่อคิวเข้าฉายเรื่อง "Rob-B-Hood" หรือชื่อไทยว่า "วิ่งกระเตงฟัด" ซึ่ง เฉินหลง รับบทเป็นโจรเรียกค่าไถ่ ร่วมด้วยหนุ่มหล่อผิวสีแทน "กู่เทียนเล่อ" และทารกน้อย "แมทธิว เมดเวเดฟ" งานนี้เจ้าของตำนานฟัดไม่รอช้า ขอเยือนประเทศไทยเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้และการใช้ชีวิตกันอย่างเต็มที่ เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา
อายุที่มากขึ้นมีผลต่อการเล่นบทบู๊มั้ย
"เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าอายุก็ต้องมีผลกระทบต่อการแสดงฉากบู๊ด้วย แต่ว่าผมก็จะรู้ศักยภาพของตัวเองว่าจะสามารถแสดงได้แค่ไหนครับ ถ้าแต่ก่อนผมคงลุกขึ้นมาเตะเก้าอี้ข้างหน้านั่นได้เลย แต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไงล่ะครับ (หัวเราะ) ตัวผมเองก็ต้องเปลี่ยนท่าทางการแสดงไปบ้าง หรือบางทีก็ใช้พวกอุปกรณ์แทน เช่น แต่ก่อนจะลุกขึ้นเตะก้านคอเลย แต่ตอนนี้อาจจะจับเก้าอี้แล้วเตะครับ
ต้องมีการใช้ความคิดว่าจะทำยังไงบ้างให้คนดูรู้สึกว่าผมยังเจ๋งเหมือนแต่ก่อนครับ คือถ้าเป็นดาราทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องการตัดต่อ ไม่รู้มุมกล้องซึ่งจะสามารถทำให้สถานการณ์ในหนังลื่นไหลไปได้ แต่ผมจะมีประสบการณ์ทางนั้นมากกว่าครับ แล้วตอนนี้ผมซื้อที่ที่ปักกิ่งไว้ เพื่อที่ในอนาคตผมจะทำโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่แน่ว่าจะเป็นเมื่อไรครับ"
การเป็นซูเปอร์สตาร์ทำให้ใช้ชีวิตลำบากหรือเปล่า
"ผมแทบจะไม่เคยไปไหนมาไหนในฮ่องกงเลยครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยได้อยู่ที่ฮ่องกงด้วย เพราะว่าช่วงที่ผมถ่ายหนังจะไม่ค่อยได้ยู่ที่นั่น น้อยครั้งจริงๆ ที่จะมีโอกาสได้กลับบ้าน หลายๆ คนก็มักจะคิดว่าผมอยู่ที่ฮอลลีวูดหรือเปล่าช่วงนี้ ผมก็อยากจะบอกว่าจริงๆ แล้วผมไม่ได้อยู่ที่ฮอลลีวูดนะ ผมอยู่ในหลายๆ ที่ซึ่งผมต้องถ่ายหนัง เช่น เยอรมัน เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ปราก ตอนประมาณ 4 เดือนหน้าผมคงอยู่ที่ปารีส แล้วก็ไปแอลเอ ซึ่งก็เพื่อการถ่ายหนัง ผมอยู่ที่ฮอลลีวูดเกิน 180 วันไม่ได้ เพราะว่ามีปัญหาเรื่องภาษีครับ"
คุณเคยพูดว่าการช่วยเหลือทางสังคมทำให้คุณมีค่าขึ้น เพราะอะไร
"ตอนเด็กๆ ผมเคยได้รับการช่วยเหลือจากสภากาชาด ที่ทุกๆ เดือนจะมีการส่งข้าว ส่งของใช้ให้ผม พอโตขึ้นมาผมจึงอยากตอบแทนให้กับสภากาชาดบ้างครับ จริงๆ ผมก็เหมือนเป็นทูตด้านการกุศลเหมือนกัน เพราะว่าได้ไปงานด้านนี้หลายที่ ไปดูเด็กๆ ไปยังที่ทุรกันดารบ้าง ก็มีความรู้สึกว่าอยากช่วยครับ แล้วพวกการกุศลที่ผมไปช่วยก็มีเยอะแยะมากเลย ไม่ว่าจะเป็น มูลนิธิปกป้องช้าง ปกป้องแพนด้า หรือ ปกป้องคนข้ามทางม้าลายยังมีเลยครับ (หัวเราะ) เป็นงานที่หนักหน่วงทีเดียวครับ อาจจะเพราะอย่างนี้ก็ได้ ทำให้ผมโตขึ้นเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง เพราะว่าตอนเด็กผมไม่ใช่เด็กดีเท่าไรนัก"
ทำงานกับ กู่เทียนเล่อ เป็นอย่างไรบ้าง
"ผมรู้สึกว่าการร่วมงานกับดาราท่านอื่นใน 2 - 3 ปีที่ผ่านมานี่ กู่เทียนเล่อจะมีความเป็นมืออาชีพที่สุด ไม่เคยมาสายเลย หลังจากทำงานเสร็จในแต่ละวันก็ยังไม่กลับแต่จะช่วยงานอย่างอื่นต่อ ในฉากแอ็กชั่นก็จะบอกว่าผมทำได้ครับ เช่นบางฉากที่ต้องใช้สตั๊นต์แมน เค้าก็ขอเล่นเอง แล้วพอลองเล่นเค้าก็ทำได้ดีด้วย ซึ่งหายากมากเลยครับนักแสดงแบบนี้ ที่ผมเคยร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ ก็จะมีหลายคนที่เป็นแบบว่าวันนี้จะเลิกงานกี่โมง หรือว่าฉากแบบนี้ชั้นคงเล่นไม่ได้นะ แต่กับกู่เทียนเล่อ ผมประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสอยากจะแนะนำกู่เทียนเล่อกับฮอลลีวูดด้วยครับ"
การแสดงในฉากต่อสู้ของ กู่เทียนเล่อ เป็นอย่างไรบ้าง
"แรกๆ กูเทียนเล่อจะไม่ถนัดเรื่องเตะต่อยเลย แต่เขาก็เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้เร็วครับ เค้าเหนือความคาดหมายของผมมากเลยครับ ซึ่งนักแสดงบางคนนี่สอนให้ตายก็ยังแสดงพวกฉากบู๊ไม่ได้เลย"
ทำงานกับเด็กเล็กๆ ในเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง
"ทำงานกับน้องแมทธิวทำให้รู้ว่าแม่เลี้ยงผมมาตอนเด็กๆ คงลำบากมากเลย พอดูหนังเรื่องนี้จบ ผมคิดว่าหลายๆ คนคงรู้สึกว่าอยากพาคุณแม่ออกไปทานข้าว รู้สึกถึงความกตัญญู การกตัญญูก็ต้องทำตอนที่คุณพ่อคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่นะครับ ไม่ใช่ทำตอนที่พวกเค้าจากเราไปแล้ว ผมก็บอกคุณพ่อของผมไว้ว่าถ้าท่านเสียคงไม่ไปไหว้อะไรมากหรอกนะ แล้วผมก็บอกลูกผมว่าถ้าพ่อตายไปก็ไม่ต้องไปไหว้อะไรเหมือนกัน ก็ถ้าจะทำดี ควรจะทำตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ดีกว่าครับ"
แล้วคุณกับลูกชาย (เจซี ชาน) จะมีโอกาสแสดงภาพยนตร์ร่วมกันมั้ย
"ผมพยายามจะไม่ทำงานร่วมกันมากกว่า เพราะว่าอยากจะให้เค้าเติบโตและพัฒนาไปด้วยตัวเองครับ ถ้าลูกเล่นกับผม ตามติดผมตลอด ก็คงจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลยครับ ซึ่งผมอาจเขียนบทให้ลูกเล่น กำกับหนังให้ลูกเล่นได้ แต่คงจะมีคนที่ไม่ชอบ การเลี้ยงลูกต้องให้เค้าล้มด้วยตัวเอง เผอิญอุปสรรคด้วยตัวเอง เพื่อให้เค้าเติบโตครับ เด็กรุ่นลูกผม เด็กสมัยใหม่ จะมีชีวิตที่ค่อนข้างรีแลกซ์มากเลย ทำงานค้างไว้แล้วมาทำต่อทีหลังก็ได้แบบนั้น แล้วเด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้โชคดีมากเลยไม่เหมือนรุ่นผมที่เผอิญอุปสรรคมาก"
ติดตาม Rob-B-Hood ภาพยนตร์แนวต่อสู้แฝงความฮา ครั้งแรกที่ เฉินหลง จะต้องแสดงกับเด็กทารกวัย 1 ขวบ แถมยังเป็นครั้งแรกที่เขายอมรับบทที่ตรงข้ามกับกฎหมาย คือ โจรลักพาตัวเด็ก 28 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์