ฉีเคอะ เหินฟ้ามาเมืองไทย เปิดใจเกี่ยวกับ Seven Swords
ผ่านงานกำกับมาอย่างโชกโชนจนชื่อนี้คุ้นหูคนไทยเป็นอย่างดี สำหรับผู้กำกับคนเก่งที่มีนามว่า "ฉีเคอะ" วันนี้เขาเหินฟ้ามาประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา "Seven Swords" หรือ เซเว่น ซวอร์ดส 7 กระบี่เทวดา ที่เตรียมจ่อโรงเข้าฉายในบ้านเรา 8 กันยายน นี้ โดยผู้กำกับเจ้าของอลังการงานสร้างได้เปิดใจถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ทักทายคนไทยหน่อย
"สวัสดีครับคนไทย ผมดีใจที่ได้กลับมาเมืองไทยอีก และมีโอกาสมาชมภาพยนตร์ของตัวเองในเมืองไทย"
ทำไมถึงเลือกที่จะถ่ายทอดภาพยนตร์เรื่องนี้
"เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ผมเคยมีความพยายามที่จะทำหนังเรื่องนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ไม่สามารถทำได้ แต่ ณ เวลานี้ผมมีความพร้อมมีเวลาที่จะทำครับ"
ภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร
"จริงๆ แล้วรูปแบบแล้วก็เนื้อเรื่องของนวนิยายของคุณเหลียงหยูเซิงก็แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ อยู่แล้ว ในเนื้อเรื่องของเรื่องนี้คล้ายๆ กับการพรรณนาความจริง เพราะฉะนั้นจะแตกต่างจากนักเขียนคนอื่น ตอนอยู่ที่ฮ่องกงคุณเหลียงหยูเซิงก็เป็นคนเขียนนวนิยายกำลังภายในเป็นคนแรก เมื่อปี 1950 ทำให้มีคนอื่นๆ เขียนตามมา นับว่าเขาเป็นต้นแบบเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นการเขียนของเขาก็เลยแตกต่างจากคนอื่น ส่วนตัวละครก็จะย้อนยุค เนื้อเรื่อง อารมณ์ก็จะเขียนออกมาเหมือนความเป็นจริงมาก ผมเลยอยากจะถ่ายทอดนวนิยายของคุณเหลียงหยูเซิงมากๆ แต่ว่าคงเป็นเรื่องของวาสนาที่ทำให้ผมเพิ่งได้ทำเอาตอนนี้"
ฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้เป็นยังไง
"จริงๆ รูปแบบของการต่อสู้มีมากมาย แล้วแต่ว่าจะเลือกรูปแบบไหนมา อย่างในเรื่องเป็นเรื่องราวของกระบี่ 7 เล่ม ก็จะมีรูปแบบการต่อสู้แตกต่างกันออกไป"
สถานที่หลักที่ใช้ถ่ายทำ
"ผมเลือกที่เมืองเซียงหยาง เพราะว่าที่นั้นยังมีวิถีชีวิตมีความเป็นธรรมชาติอยู่มากทีเดียว ตัวละครในเรื่องก็ยังมีการขี่ม้าใช้รูปแบบชีวิตเหมือนอดีต ฉะนั้นเมืองเซียงหยางจึงเป็นสถานที่ถ่ายทำที่ดี"
ฉากไหนยากที่สุด
"จริงๆ แล้วผมว่ายากในทุกๆ ฉาก แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างฉากที่หยางไฉ่นีต้องสู้กับตัวร้าย ที่ยากเพราะว่าหยางไฉ่นีต้องต่อสู้ในน้ำ จึงต้องประสบปัญหาอากาศหนาว ซึ่งต่ำกว่า 0 จึงกลายเป็นอุปสรรคในการถ่ายทำ แล้วที่เมืองเซียงหยางหิมะตกตลอด แต่ในเนื้อหาสาระของเรื่องจะไม่มีหิมะ ดังนั้น จึงต้องรอให้หิมะหยุดจึงถ่ายทำได้"
จุดเด่นของ Seven Swords
"หนังทั่วๆ ไปจะมีเรื่องฉากเรื่องอะไรค่อนข้างมาก แต่ในเรื่องนี้ของผมก็จะเน้นที่ความสมจริงมากกว่า สิ่งที่ผมอยากจะสื่อผ่านทางหนังเรื่องนี้ คืออยากจะให้โลกนี้มีความยุติธรรม ให้วันพรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ ตรงนี้คือปรัชญาที่ผมแฝงไว้"
มีวิธีผ่อนคลายให้นักแสดงที่รู้สึกเกร็งอย่างไร
"จริงๆ หนังแต่ละเรื่อง ในฉากแต่ละฉาก บางทีเกร็งก็ถ่ายได้ดีก็ได้ ไม่จำเป็นต้องผ่อนคลาย ถ้าในฉากที่ต้องใช้อารมณ์เกร็งก็จะดีกว่าผ่อนคลายครับ"
หลีหมิง ในเรื่องนี้ต้องรับบทหนักขนาดไหน
"เขาต้องรับบทหนัก เพราะว่าเป็น 1 ใน 7 กระบี่ แล้วใน 7 กระบี่ ก็จะมี 2 กระบี่ที่สำคัญ เขาก็จะต้องแสดงเป็น 1 ใน 2 ถึงหลีหมิงไม่เคยแสดงหนังประเภทกำลังภายในมาก่อน แต่เชื่อว่าเขาทำได้ จึงเลือกเขามาแสดง เขาฉลาดมาก แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร"
ความคาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้
"รู้สึกว่าผมได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ พอทำเสร็จแล้วก็เสร็จน่ะครับ ส่วนที่ว่าจะมีชื่อเสียงหรือไม่ก็เป็นเรื่องของอนาคตน่ะครับ แต่ผมก็ได้ทำในสิ่งอยากจะที่อยากจะทำแล้วครับ ถ้าถามว่าคาดหวังรายได้ในประเทศไทยไม่ ก็คงไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะแต่ละที่ที่นำไปฉายจะมีเสียงตอบรับแตกต่างกัน ก็ต้องดูอีกที"
ฝากอะไรถึงแฟนๆ
"รูปแบบของการถ่ายหนังกำลังภายในมีหลายแบบ และในเรื่องนี้ผมใช้รูปแบบใหม่ เทคนิคใหม่ ผมก็สะสมประสบการณ์มานาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อยากจะให้คนไทยมีโอกาสได้ไปชมครับ แล้ววันที่ 30 สิงหาคม Seven Swords มีโอกาสได้เข้าไปฉายที่เวนิซด้วย ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่เลยครับ"
7 วีรบุรุษแห่ง Seven Swords กู้แผ่นดินพร้อมกัน 8 กันยายน นี้ ทุกโรงภาพยนตร์