บทสัมภาษณ์ย่างก้าวสำคัญในชีวิต ติ๊ก กับ คนเห็นผี ภาค 2
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากจาก คนเห็นผี ภาคแรก ในปี 2002 ในที่สุดกระแส คนเห็นผี จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้กับ คนเห็นผี ภาค 2 ภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างไทยและฮ่องกง โดยได้สองพี่น้อง อ๊อกไซด์ แปง และ แดนนี่ แปง มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เช่นเคย ติ๊ก - เจษฎาภรณ์ ผลในฐานะนักแสดงนำของเรื่อง The Eye 2 ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
แนะนำตัวละครที่แสดงในภาพยนตร์เรื่อง คนเห็นผี ภาค 2
"ผมรับบทเป็น แซม เหมือนเป็นคนที่มีความกดดัน มีอะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ เลยทำให้เป็นตัวละครที่มีปมอะไรบ้างอย่างที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ และก็เกิดเป็นความทุกข์ที่ตัวเองรู้สึกผิดมาตลอดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นคนที่เก็บตัวอยู่เงียบคนเดียว จมอยู่กับความทุกข์ทรมาน จนปล่อยตัวให้ตัวเองโทรม
ทำไมถึงโอกาสเข้ามาแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้
" างบริษัทซีเนมาเซีย ภาพยนตร์หรรษาโดย พี่อุ๋ย - นนทรีย์ นิมิบุตร และพี่อ้อม - ดวงกมล ลิ่มเจริญ ได้ติดต่อมาที่ตัวผมว่าติ๊กสนใจจะทำงานร่วมกันไหม จึงได้มีการพูดคุยกันเมื่อสอบถามว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องอะไร ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แถมพอทราบว่าผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ อ๊อกไซด์ และแดนนี่ จากแปง บราเธอร์ด้วย เพราะตอนที่ผมเองได้พูดคุยกับ พี่อุ๋ย เกิดมีความรู้สึกว่าน่าสนใจนะ ก็ตอบตกลงโดยทันที เพราะเราเองก็อยากจะมีส่วนรวมในภาพยนตร์เรื่องนี้
ความรู้สึกที่ได้แสดงเรื่องนี้
"ก็รู้สึกดีใจ แรกๆ ก็กล้าๆ กลัวๆ ผมเองก็ไม่เคยทำงานกับชาวต่างชาติ ยิ่งมาทราบทีหลังว่าจะได้แสดงคู่กับนางเอกทั้ง 2 คน คือ ยูจิเนีย และ ซูฉี ซึ่งเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกเลย ผมก็รู้สึกกังวลว่าจะเป็นตัวถ่วงคนอื่นหรือเปล่า ผมจะรับแสดงดีไหม บทที่ได้รับจะเป็นอย่างไร สื่อสารกันอย่างไง อารมณ์จะได้หรือเปล่า ความกังวลขึ้นมามากมาย เต็มไปหมด"
มีความยากลำบากในการสื่อสารบ้างไหม
"กับทีมงานอาจจะทำให้ทำงานกันช้าลงไปบ้าง แต่ก็คงจะต้องให้เครดิตกับ แปง บราเธอร์ เพราะเขาทำงานอยู่เมืองไทยมานานแล้ว และพูดภาษาไทยได้ แล้วก็สื่อสารกันได้ ซึ่งการร่วมงานกับผู้กำกับค่อนข้างจะอธิบายความต้องการของเขาได้เคลียร์ เข้าใจง่ายโดยที่อธิบายให้ เราทำงานสะดวกขึ้น และเข้าถึงบทบาทได้เลย"
เทียบกับการทำงานในภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ แตกต่างกันไหม
"แตกต่างกันเลยครับ นับตั้งแต่ตัวเรื่อง ซึ่งมีหลายอารมณ์ความรู้สึกในหนังเรื่องเดียว ไม่ว่าจะมีทั้งอารมณ์ความน่ากลัวของหนังผี อารมณ์ของหนังแอ๊กชั่น และโรแมนติก ซึ่งผมเชื่อว่าจะเป็นหนังผีที่ใครหลายคนชอบอย่างแน่นอน"
มีการเตรียมพร้อมที่จะมาแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไรบ้าง
"สำหรับผมถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในการทำงานก็ว่าได้ เรื่องของการเตรียมตัว ผมจะมีการพูดคุยกับผู้กำกับเยอะมาก ต้องรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนกัน มีความรู้สึกผูกพันกัน ต้องเข้าใจตัวละคร ต้องทำความเข้าใจมากๆ"
การร่วมงานเป็นอย่างไรบ้าง
"ผมรู้สึกว่าพอเรามีโอกาสได้ทำงานกับต่างประเทศแล้ว มีอะไรคล้าย ๆ กับการทำงานในบ้านเราพอสมควร มีระเบียบวินัย แต่ทางฮ่องกงเขาจะค่อนข้างทำงานเร็วเป็นพิเศษ มีการเตรียมตัวและทำการบ้านมาดีทั้ง อ๊อกไซด์ และ แดนนี่ แปง เขารู้ว่าเขาต้องการอะไร คือไม่มาลองผิดลองถูกก็คือ ยิงเลย ผมต้องการอย่างนี้ๆ นะก็เป๊ะๆ"
แล้วสำหรับการร่วมงานกับซูฉี เป็นอย่างไรบ้าง
"ผมยังรู้สึกว่าเขายังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งตัวซูฉีจริงๆ ก็ยังเด็ก แต่เวลาที่จะต้องเข้าฉากกับผม ซึ่งทุกฉากที่แสดงร่วมกันจะเป็นฉากซีเรียสตลอด อย่างบางฉากจะต้องมีการปรับทุกข์เคลียร์ปัญหากัน ซึ่งเขาก็นั่งต่อบทกับผมกำลังถ่ายกันอยู่ก็ร้องไห้ พอสั่งคัทปุ๊บ ซูฉี หัวเราะออกมาได้เลย ผมก็อึ้ง เธอทำได้อย่างไร เป็นนักแสดงที่มีสมาธิดีมาก แล้วเธอก็หัวเราะกับทีมงาน คุยกับทุกๆ คน พอนับแอ๊กชั่นปุ๊บ ก็ร้องไห้ต่อ ผมต้องขอชมเธอจริงๆ ว่าเป็นคนมีสมาธิเยี่ยมเข้าใจในบทบาท ผมรู้สึกว่าแบบนี้แหละมืออาชีพที่แท้จริง"
การทำงานกับยูจิเนีย เป็นอย่างไรบ้าง
"ยูจินเนียเป็นคนอัธยาศัยดีมาก ก็เป็นคนที่ยิ้มเก่ง ผมเจอยูจินเนียครั้งแรก ผมก็ยังไม่รู้จักหรอก แต่ผมก็ถือคติที่ว่ามิตรภาพเกิดขึ้นได้จากรอยยิ้ม ถึงแม้ยูจินเนียจะเล่นมาแล้ว 3 เรื่อง เหมือนเล่นมาแล้ว 10 กว่าเรื่องเลย (หัวเราะ) ผมว่าเธอเหมาะกับเรื่องนี้ เพราะเธอดูเป็นคนลึกลับ คิดอะไรอยู่ คิดแบบนี้ หรือคิดอะไรอีกแบบหนึ่ง คือหลายแบบและนัยน์ตาของเธอดูเหมือนมีเรื่องราว เธอเป็นมืออาชีพอีกคนหนึ่งเหมือนกัน สามารถเล่นได้ดีและเข้าใจบทบาทของตัวเอง ผมเองรู้สึกว่าเล่นได้ไม่ดี สู้เขาทั้ง 2 คนไม่ได้เลย"
พูดถึงการทำงานกับ อ๊อกไซด์ และ แดนนี่ แปง ให้ฟังหน่อย
"น่ารักทั้ง อ๊อกไซด์ และ แดนนี่ แปง ผมเล่นผมแสดงผมก็ไม่ทราบว่าใครคนไหน เพราะบางที อ๊อกไซด์ มา บางฉาก แดนนี่ มา ผมเรียกมั่วไปหมดเลย บางทีก็เรียกแปงไปตลอด ผมยอมรับในความสามารถของผู้กำกับทั้ง 2 คนนี้นะครับ เป็นคนที่วางมุมภาพ ซึ่งภาพเนี่ยจะสื่อไปถึงอารมณ์ สื่อไปถึงการที่เราจะได้เข้าไปเจอไปสัมผัสกับอะไรต่างๆ ทั้ง 2 คนทำได้ดีมากเลย และที่สำคัญเขาทั้ง 2 เหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน และก็เข้าใจแบบเดียวกัน คิดแบบเดียวกัน ชอบแบบเดียวกัน สมแล้วที่เขาเป็นพี่น้อง และเป็นฝาแฝดกัน"
พูดถึงโปรดิวเซอร์อย่าง ปีเตอร์ ชาน
"เป็นผู้กำกับในดวงใจของผมอีกคนหนึ่ง เขาไปให้กำลังใจในกองถ่ายตลอด ตามมาหยอดคำหวานเป็นระยะ อย่างปีเตอร์เขาจะมาทักทายเรื่อยๆ แบบ " าติ๊กไม่ต้องกลัว เราเชื่อในความสามารถของอาติ๊ " ผมก็ตอบไป " มทำดีที่สุดครับ ปีเตอร์ ชา "
โดยส่วนตัวแล้ว มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องสิ่งเร้นลับแบบนี้ไหม
" มจะไม่เชื่อ ถ้าผมไม่เห็ "
สำหรับตัวเองเป็นคนกลัว สิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้ด้วยหรือเปล่า
" ลัว อาจจะเจออาถรรพณ์นางเอกสวยจนน่ากลัว ผมว่าดีเหมือนกัน เหมือนมีเพื่อนเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้เราก็มีเพื่อนตามปกติปัจจุบันอยู่แล้ว สมมุติถ้าเราเห็นผีได้ก็เท่ากับเรามีอีกบุคคลหนึ่ง อีกบุคคลหนึ่งที่รู้จักกัน สามารถเป็นเพื่อนด้วยกันได้ สามารถบางทีช่วยเหลือเราได้ด้วยเหมือนกั "
ประทับใจอะไรบ้างในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
" มรู้สึกว่าสิ่งที่ดีๆ ที่เกิดขึ้นในกองถ่าย ตั้งแต่คนที่ทำกับข้าว เป็นทีมงานที่ดี ก็เลยทำให้บรรยากาศในกองถ่ายดีตามไปด้ว "
รู้สึกอย่างไรกับ คนเห็นผี 2
" นส่วนของการแสดงผมพอใจ ผมได้ทำเต็มที่สุดตัวผมแล้ว แต่ที่นี้ก็อยู่ที่ท่านผู้ชม ทั้งเมืองไทยและชาวต่างประเทศ จะชอบและยอมรับหรือเปล่า ก็รู้สึกว่าดีใจที่ได้มีโอกาสมาทำงานในหนังเรื่อง The Eye ภาค 2 ถ้าเป็นภาค 3 และ ภาค 4 ก็อย่าลืมผ "
อยากจะฝากอะไรถึงเรื่อง คนเห็นผี 2
" อขอบคุณที่ไว้วางใจให้ผมมารับบทแซม ก็ดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ ปีเตอร์ ชาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งอีกแนวหนังที่อยากจะให้ไปชมกัน เป็นการนำเสนอภาพยนตร์อีกพล็อตเรื่องหนึ่ง ที่จะทำให้ใครหลายๆ คนอยากจะติดตามไปตลอดเรื่อง ทั้งน่ากลัว ทั้งเต้น ในขณะเดียวกันก็อยากที่จะรู้ว่าตอนจบของเรื่องเป็นอย่างไร"