ดิสนีย์เตรียมสร้าง Pirates ภาค 2 สานต่อเรื่องราวโจรสลัด
เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ โค. เริ่มต้นโครงการสร้างภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Pirates of the Caribbean: The Curse of the Black Pearl หลังจากภาคแรกทำรายได้ในสหรัฐไปมากกว่า 200 ล้านดอลลาร์
โฆษกของสตูดิโอดิสนีย์ กล่าวว่า นีนา จาค็อบสัน ประธานบริษัท บัวนา วิสตา โมชั่น พิคเจอร์ส กรุ๊ป เจรจากับผู้เขียนบทสองคน (เท็ด เอลเลียต และเทอรี รอสโซ) เกี่ยวกับแนวความคิดที่อาจนำมาใช้เป็นเนื้อเรื่องของภาคสองแล้ว โดยทางสตูดิโอต้องการดูบทภาพยนตร์ก่อนจะให้คำสัญญาที่แน่นอนว่าจะมีการสร้างภาคสองหรือไม่ คาดกันว่าคงไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดที่จะหาแนวคิดมาสร้างภาคสอง เพราะเอลเลียตเองเคยกล่าวกับผู้สื่อข่าวในเดือนมิถุนายนว่าเขามีเรื่องราวมากมายที่สามารถนำมาใช้ได้
"ผมมีเรื่องอีกสองเรื่องที่จะเล่าเกี่ยวกับแจ็ค สแปร์โรว์ (กัปตันโจรสลัด)" เอลเลียต กล่าว
Pirates of the Caribbean ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจากเครื่องเล่นในสวนสนุกของดิสนีย์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้กว่า 46 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐและแคนาดาในช่วงสุดสัปดาห์แรก และทำรายได้กว่า 70 ล้านดอลลาร์ใน 5 วันแรก
ดาราในภาพยนตร์เรื่องนี้ประกอบด้วย จอห์นนี เดปป์ ที่รับบทเป็น สแปร์โรว์ ผู้มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ตกลงแล้วที่จะแสดงในภาคต่อ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาที่ทำไว้ในตอนแรก เดปป์เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเต็มใจจะแสดงในภาคต่อของเรื่องนี้ และกล่าวว่าการแสดงในหนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สนุกมาก
บทของเดปป์ในเรื่องนี้เป็นบทของโจรสลัด เดปป์ กล่าวว่า มีทั้งความเท่ของ คีธ ริชาร์ดส์ มือกีตาร์ของวง เดอะ โรลลิง สโตนส์ ผสมกับความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างแรงกล้าของ เปเป เลอ พิว ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนสกังค์ โดยสกังค์ตัวนี้ชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่
"เขาเป็นสกังค์ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นนักรัก และเขาเชื่อเช่นนั้นจริงๆ โดยไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเขาเองทึกทักว่าเป็นความจริง" เดปป์ กล่าว
อย่างไรก็ดี Pirates of the Caribbean ไม่ใช่ภาพยนตร์สยองขวัญ แต่เป็นภาพยนตร์แนวแอ๊กชั่นฟันดาบที่เต็มไปด้วยเทคนิคพิเศษ และแฝงไว้ด้วยอารมณ์ขัน
"หนังเรื่องนี้กระทบใจความเป็นเด็กในตัวผม เด็กชายเล็กๆ ทุกคนต่างต้องการจะเป็นโจรสลัด" เดปป์ กล่าว
Pirates of the Caribbean ได้เรท PG-13 ผู้ชมอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรได้รับคำแนะนำจากผู้ปกครอง เนื่องจากมีฉากแอ๊กชั่นและความรุนแรง
ทั้งนี้ มีข่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ทุนสร้างราว 125 ล้านดอลลาร์ และดิสนีย์หวังเป็นอย่างมากว่าภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จ หลังจากทางสตูดิโอประสบความล้มเหลวในปีที่แล้วกับภาพยนตร์อะนิเมชันเรื่อง Treasure Planet ที่ใช้ทุนสร้างราว 140 ล้านดอลลาร์
แรงบันดาลใจใน Curse of the Black Pearl มาจากเครื่องเล่นที่เริ่มติดตั้งในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในปี ค.ศ.1967 โดยในเครื่องเล่นนี้ผู้เล่นจะได้นั่งรถผ่านดินแดนโจรสลัดและพบกับโจรสลัดหุ่นยนต์ 64 ตัวที่ร้องเพลง "Yo Ho, Yo Ho; A pirate's Life For Me."
นีนา จาค็อบสัน กล่าวว่า เครื่องเล่นนี้เป็นเพียงแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเล่าเรื่องเกี่ยวกับการล่าขุมสมบัติ การต่อสู้ทางทะเล และเรื่องของภูติผี
"เครื่องเล่นนี้ไม่มีเนื้อเรื่อง โดยเรานำภาพที่น่าสนใจจากเครื่องเล่นนั้นมาผูกโยงเข้าด้วยกันจนเป็นเรื่องราว และในที่สุดแล้วเนื้อเรื่องของหนังก็มีความสมบูรณ์ในตัวเอง" จาค็อบสัน กล่าว โดยทางดิสนีย์ได้จ้าง เจอรี บรัคไฮเมอร์ ให้มาอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
บรัคไฮเมอร์ กล่าวว่า เขารู้ดีว่าผู้ชมบางคนอาจรู้สึกไม่อยากชม Pirates of the Caribbean เพราะเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนขยายของเครื่องเล่นในสวนสนุกดิสนีย์ ดังนั้น เขาจึงชักชวนให้ จอห์นนี เดปป์มาแสดง เดปป์เป็นนักแสดงที่มักได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ และเคยรับบทเป็นตัวละครแปลกๆ มาแล้วหลายบท
"ผมรู้สึกว่าผมจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ขัดกับภาพพจน์ของดิสนีย์ ผมรู้ว่าการได้ เดปป์ มาแสดงจะเป็นการบอกกับผู้ชมว่าหนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังดิสนีย์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ไม่เหมือนกับ Country Bears" บรัคไฮเมอร์ กล่าว
The Country Bears ลงโรงฉายในสหรัฐในฤดูร้อนปี ค.ศ. 2002 และเป็นการนำเครื่องเล่นในสวนสนุกของดิสนีย์มาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์เช่นกัน โดยดัดแปลงมาจากเครื่องเล่น Country Bear Jamboree ที่ประกอบด้วยหมีหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวได้และร้องเพลงได้ที่เริ่มติดตั้งในสวนสนุก วอลท์ ดิสนีย์ เวิลด์ ในปี ค.ศ. 1971 และยังคงเปิดให้บริการอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
The Country Bears เป็นภาพยนตร์เรท G เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ทำรายได้เพียง 17 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐและแคนาดา
